| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 90 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 13-07-2552    อ่าน 11378
 นพร สุนทรจิตต์เจริญ แลนด์ฯโฟกัสเฉพาะลูกค้าเรียลดีมานด์

สัมภาษณ์




วิกฤต ต้มยำกุ้ง เมื่อกว่า 10 ปี ก่อนยังเป็นความทรงจำที่เลวร้ายสำหรับดีเวลอปเปอร์ส่วนใหญ่ แต่การปรับตัวด้วยการพลิกกลยุทธ์แบบ 360 องศาในครั้งนั้น นอกจากจะทำให้ "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" รอดพ้นวิกฤตมาได้แล้ว ยังปั้นยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดทะลุ 2 หมื่นล้านบาท กลายเป็นบิสซิเนสโมเดลที่ถูกจารึกไว้ในตำนานของวงการ อสังหาริมทรัพย์

ผล พวงจากวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลกในครั้งนี้ พี่ใหญ่ วงการพัฒนาที่ดินใช้วิธีพลิกเกมรับมืออย่างไร "นพร สุนทรจิตต์เจริญ" กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ถ่ายทอดผ่าน "ประชาชาติธุรกิจ"

- ครึ่งปีผ่านไปมองเศรษฐกิจเป็นบวก มากขึ้นมั้ย

สัญญาณ คล้ายๆ เริ่มดีขึ้น ที่ห่วงคือ ตัวเราเองมากกว่า ส่วนปัจจัยภายนอกไม่น่าจะมีปัญหา แต่ก็เร็วเกินไปที่จะบอกว่าแย่หรือไม่แย่ ต้องผ่านครึ่งปีแรกไปก่อนทุกอย่างอาจชัดเจนขึ้น ที่แน่ๆ คือคงไม่รีคอฟเฟอร์ได้แบบรวดเร็ว น่าจะค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยที่น่าห่วงคือความขัดแย้งทางการเมือง ภาครัฐจึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมา

- ไครซิสรอบนี้แลนด์ฯมองอย่างไร

ความ รุนแรงต่างกัน ปี 2540 อิมแพ็กต์แรงกว่ารอบนี้มาก ดีมานด์ช็อกไปเลย ตอนนั้นซัพพลายไซซ์ใหญ่มาก แต่ถ้าเรามองย้อนหลังไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2549-2551 ซัพพลายในตลาดค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จากหลายปัจจัย เริ่มตั้งแต่เสถียรภาพของรัฐบาลที่ง่อนแง่นมาตั้งแต่กลางปี 2548 แล้วเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทำให้ ภาคเอกชนชะลอลงทุน ประเด็นที่สองคือแบงก์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ไซซ์ก่อสร้างหดตัวต่อเนื่อง

ตลาดที่อยู่ได้ในปัจจุบันคือเรียล ดีมานด์ เป็นคนซื้อแล้วอยู่จริง ซึ่งแลนด์ฯโฟกัสไปที่ตลาดเรียลดีมานด์ พวกเก็งกำไรจะซื้อบ้านแลนด์ฯไม่ได้เลย เพราะซื้อแล้วต้องโอนเลย ไม่มีเวลาเอากระดาษไปหมุนเป็นเงิน

- แลนด์ฯแก้ปัญหานี้อย่างไร

เรา ต้องอยู่กับความเป็นจริง เน้นจับตลาดที่เป็นเรียลดีมานด์ มองทาร์เก็ตที่ชัดเจน เราค่อนข้าง select และโฟกัสกับ Core customer ที่ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ ไม่ออกมาพูดตัวเลขแบบหวือหวา

หลัก การทำธุรกิจแลนด์ฯจะดูอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1.ผู้ถือหุ้น 2.ลูกค้า และ 3.สตาฟกับซัพพลายเออร์ ผมคิดว่าในการทำธุรกิจต้องคอนเซิร์นอยู่ 3 แอเรีย 1.มาร์เก็ตติ้ง ตลาดมีหรือเปล่า 2.ความสามารถของ ตัวเอง และ 3.เอาเงินจากไหน แต่สำคัญที่สุดคือได้มาแล้วจะใช้คืนอย่างไร

- 1-2 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนจะเพลาลงทุนไป

ใน คอร์บิสซิเนส เราแคชอัพทาร์เก็ตที่เป็นเรียลดีมานด์ เราไม่ได้ลงไปเล่นตลาดทุกเซ็กเมนต์ ตลาดล่างๆ เราไม่ได้เข้าไป แต่ในตลาดที่เราอยู่ การลงทุนไม่ได้น้อยลง อีกส่วนหนึ่งคือการอินเวสต์เมนต์ในธุรกิจอื่น 3-4 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ลงทุนอะไรใหม่ๆ นอกจากลงทุนเรื่องแบงก์เท่านั้นเอง อีกอันคือลงทุนในพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ที่เป็นฮาร์ดแอสเซต ที่เป็นออฟฟิศบิลดิ้งเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์

ที่เหลือที่เคยลงไปในอดีต เป็นโรงพยาบาล มี 6 สาขา กำลังออกแบบอีก 2 สาขา โฮมโปรมี 35 สาขา คิวคอน ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) อินเวสต์เมนต์ ประมาณ 6,000 ล้านบาท มีรีเทิร์นคืนมา 30% ช่วงตลาดดีๆ ตัวเลขก็ดีกว่านี้ กำไรที่เข้ามาไตรมาสละประมาณ 200 ล้านบาท

- แลนด์ฯน่าจะขยายลงทุนมากกว่านี้

ต้องมาดูคอร์บิ สซิเนสที่ทำอยู่ สัดส่วนบ้านเดี่ยวในปัจจุบันอยู่ที่ 80% ที่เหลือ 20% เป็นคอนโดฯกับทาวน์เฮาส์ แน่นอนว่าเราต้องทำในสิ่งที่ชำนาญ ส่วนคอนโดฯที่เพิ่งเข้ามาทำประมาณ 3-4 ปี มีการส่งมอบแล้ว 1,500 ยูนิต คนอื่นอาจไม่รู้ เพราะ ไม่ค่อยได้โฆษณาเท่านั้นเอง เราคิดว่าโอกาสธุรกิจมี ก็ต้องจับมันไว้ แต่ในความเป็นจริง ก็ต้องหันกลับมาดูองค์กรภายในด้วย ว่าเรารับได้ขนาดไหน ไม่ใช่ทำเสร็จ ขายไปแล้วเลิก แต่ต้องดูแลคนที่ซื้อไปด้วย

- ปรับตัวสู้คู่แข่งอย่างไร

สำหรับ ผมไม่ได้วัดจากตัวเลข แต่วัดจากคนสามกลุ่มที่เราต้องรับผิดชอบ เราไม่ได้ปรับตัวอะไรเพื่อรักษาแชมป์ เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นแชมป์ จึงไม่รู้สึกกดดัน

- ช่วงนี้ตลาดบ้านดีขึ้นมั้ย

ดีขึ้นทั้ง ตลาดครับ ไม่ใช่เราเจ้าเดียว สาเหตุมาจากความเชื่อมั่นเริ่มกระเตื้องขึ้น ที่น่าสังเกตคือกลุ่มลูกค้าเริ่มที่จะเป็นโลคอล ดีมานด์มากขึ้น เนื่องจากมีอินฟราสตรักเจอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก และกระจายไปตามทำเลต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น สิ่งที่ได้กลับมา คือรู้กลุ่มเป้าหมายที่จำกัด คอนโทรลงบฯ มีเดียได้ง่ายขึ้น ใช้งบด้านการตลาดลดน้อยลง

- มีโอกาสลงไปเล่นตลาดล่างมั้ย

ไม่ แน่นอน โดยเฉพาะตลาดบีโอไอทำไม่ไหวอยู่แล้ว แม้จะมีระบบพรีแฟบก็ตาม ตลาดบ้านราคา 3 ล้านบาทบวก-ลบ ที่มีอยู่ก็ถือว่าเหนื่อยแล้วในปัจจุบัน

- ประมาณการรายได้ในปีนี้

ดูคร่าวๆ คงไม่ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 16,000 ล้านบาท
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-07-2552 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.