|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เกาะติด "ถาวร เสนเนียม" วันเดย์ทริป ไปกับ มท.3 ของ "ชาวดิน" |
|
คอลัมน์ Zoom Content
เพียง เพื่อจะติดตามประเด็นความคืบหน้าการแก้ไข พ.ร.บ.จัดสรรฯ "ประชาชาติธุรกิจ" ตัดสินใจติดตามคณะของ "มท.3" ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน ในโอกาสเดินทางไปเป็นประธานพิธีมอบโฉนดที่ดินให้กับราษฎรในพื้นที่ อ.พิมาย-อ.ประทาย เมืองย่าโม เมื่อเร็วๆ นี้
"รมต.ถาวร" เป็นนักการเมืองที่เรียก ตัวเองว่า "รัฐมนตรีชาวนา" นับว่าแมตชิ่งกับหน่วยงานที่กำกับดูแล เพราะกรมที่ดินก็เรียกตัวเองว่า "ชาวดิน" เหมือนกัน
ภารกิจ มท.3
มางานนี้แล้วเปิดหน้าต่าง ความรู้ใหม่ๆ อีกบาน ว่าด้วยโครงการชื่อยาวๆ "โครงการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่มีการบุกรุก เพื่อขจัดความยากจนและพัฒานาชนบท" กรมที่ดินจัดต่อเนื่อง 4-5 ปีแล้ว
ชื่อ ไม่เป็นทางการคือ "โครงการขจัดความยากจน" สาระสำคัญคือกรมที่ดินจะออกใบอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ ของรัฐ กรณีเป็นแปลงบุกรุกโดยผู้บุกรุกฐานะยากจน กรอบคืออนุญาตให้ครอบครัวละ 15 ไร่ ราคาเช่าไม่เกินไร่ละ 1 พันบาท จ่ายโดยตรงที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ยุคนี้ที่ดินในโครงการขจัด ความยากจน กำหนดค่าเช่าไว้ไร่ละ 25 บาท/ปี ผลงานช่วงปี 2547-2551 จัดที่ดินให้แก่ราษฎร 42,240 ครัวเรือน จำนวน 51,225 แปลง ส่วนเป้าหมายปี 2552 คือจัดที่ดินอีก 9,100 ครัวเรือน เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเป็นเป้าหมายแบบคอนเซอร์เวทีฟอยู่แล้ว
แก้ปม กม.จัดสรร 6 ประเด็นหลัก
วกกลับมาเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.จัดสรรฯภายใต้การกำกับของ "มท.ถาวร"
ทั้ง นี้จากมูลเหตุที่ พ.ร.บ.จัดสรรปี 2543 บังคับใช้มานาน เริ่มล้าสมัยไปบ้าง จึงต้องปรับปรุงใน 6 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่ 1.ปรับปรุงหน่วยงานอันเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางและคณะ กรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดให้สอดรับกับการปฏิรูประบบราชการ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 และมาตรา 13)
2.กำหนดให้มีการจดแจ้ง พื้นที่ส่วนกลางในโฉนดที่ดินและหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 28) 3.กำหนดให้ผู้รับโอนที่ดินอันเป็นพื้นที่ส่วนกลางต้องรับไปทั้งสิทธิและ หน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดินที่มีต่อผู้ซื้อที่ดินจัดสรร (เพิ่มเติมมาตรา 41/1)
4.กำหนดให้ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรขอจัดตั้ง นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้ และปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การพ้นจากหน้าที่ดูแลบำรุงรักษาสาธารณูปโภคของผู้ จัดสรรที่ดิน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 44)
5.แก้ไขหลักเกณฑ์การค้าง ชำระเงินค่าบำรุงรักษาและการจัดการสาธารณูปโภค (แก้ไขมาตรา 50) เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงการค้างชำระค่าบำรุงรักษา (ค่าพื้นที่ส่วนกลางซึ่งปกติจะจัดเก็บเป็นรายเดือน) เป้าหมายคือต้องการให้กฎหมายมีผลใช้บังคับได้อย่างจริงจัง โดยหากค้างชำระ 3-6 เดือนขึ้นไปอาจถูกระงับการให้บริการสาธารณูปโภค และระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดินจัดสรร
6.แก้ไขเพิ่ม เติมบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจัดตั้งนิติบุคคลฯ สำหรับการจัดสรรที่ดินที่มีอยู่ก่อน พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินฯใช้บังคับ (มาตรา 70) ซึ่งจะเป็นแนวทางการขอจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรสำหรับโครงการที่ได้ รับอนุญาตหรือผู้รับโอนใบอนุญาตตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 286 (ปว. 286) เมื่อปี 2515
ในทางปฏิบัติ สาระสำคัญที่สุดคือการมอบอำนาจให้คณะกรรมการจัดสรรกลางเป็นผู้สามารถลงนามใน นิติกรรมเพื่อการโอนสาธารณูปโภคส่วนกลางให้องค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นผู้รับ ดูแล
ประเด็นปัญหาเพราะมีหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมากที่เจ้าของโครงการ "ทิ้ง" หรือบางกรณีไม่มีความสามารถที่จะดูแลรับผิดชอบพื้นที่ส่วนกลางแล้ว และหายตัวเข้ากลีบเมฆ ในขณะที่ลูกบ้านอาจจะมีการรวมตัวกันยินยอมให้ทางองค์กรปกครองท้องถิ่นเข้ามา ดูแล แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถทำได้ เพราะต้องมีคนเซ็นมอบอำนาจ
"แก้ กฎหมายเป็นเรื่องใหญ่ ผมมีเป้าหมายในใจว่า อยากให้เรื่องนี้จบภายใน 3 เดือนนับจากนี้ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อ ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านจัดสรรที่มีปัญหาโดยตรง" คำกล่าวทิ้งท้ายของ มท.3 |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-07-2552
|
|
|
|
|
