|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ฟื้นฟู "ร.ฟ.ท.-ขสมก." เคลียร์หนี้ 2 แสนล้าน |
|
เป็น ระยะเวลายาวนานที่การรถไฟ แห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ตกอยู่ในสภาพหนี้สินล้นพ้นตัว
การ รถไฟฯขาดทุนบักโกรก 35 ปี ตั้งแต่ปี 2517 ยอดหนี้สะสม 72,850 ล้านบาท จากโครงสร้างพื้นฐานในอดีต 14,320 ล้านบาท รถจักรและล้อเลื่อน 12,331 ล้านบาท โครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 22,345 ล้านบาท หนี้สินอื่นๆ 23,854 ล้านบาท และภาระบำเหน็จบำนาญอีก 25,749 ล้านบาท รวม 156,000 ล้านบาท หรือมูลค่าปัจจุบัน 52,600 ล้านบาท
นอกจากภาระหนี้แล้ว ยังมีเรื่องโครงสร้างองค์กรและภารกิจที่ซับซ้อนและหลากหลายเกินไป ไม่สอดคล้องกับการดำเนินงาน ทั้งการสร้างรางอาณัติ สัญญาณ การบำรุงรักษา การบริหารจัดการทรัพย์สิน และการเดินรถ
หลังผลักดันมาเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2543 วันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา แผนฟื้นฟูการรถไฟฯเพิ่งจะได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) สาระสำคัญคือ 1.ปรับโครงสร้างการบริการจัดการใหม่ โดยตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท ให้การรถไฟฯ ถือหุ้น 100% ภายใน 30 วัน ได้แก่ บริษัท การเดินรถร่วม ร.ฟ.ท. จำกัด ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท มี 4 หน่วยธุรกิจ คือ การเดินรถโดยสาร เดินรถสินค้า รถไฟฟ้า แอร์พอร์ตเรลลิงก์ และสายอื่นๆ เช่น สายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต
โดยเร่งเดินรถ แอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่จะทดลองเดินรถ 5 ธันวาคมนี้ และเปิดใช้เป็นทางการเดือนมีนาคม 2553 บริหารทรัพย์สิน จำกัด ทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท
2.ให้รัฐรับภาระการลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานในอนาคต ทั้งหมด 505,212 ล้านบาท 3.ให้คลังช่วยแก้ไขภาระหนี้สินโดยใช้รายได้ของการรถไฟฯ และบริษัทลูกจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
ใน 10 ปีจะมีรายได้จากการเดินรถ 109,521 ล้านบาท รัฐสนับสนุนเงินลดลง
ขณะ ที่ "ขสมก." ขาดทุนมาตลอด 32 ปี ปัจจุบันรายได้เฉลี่ยปีละ 6,500 ล้านบาท รายจ่าย 12,000 ล้านบาท ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 5,500 ล้านบาท มีหนี้สินสะสม 57,295 ล้านบาท สิ้นปี 2553 จะแตะ 67,235 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างทำแผนฟื้นฟูฯเสนอ ครม.พิจารณาเช่นกัน แต่ยังติดหล่มเพราะโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน วงเงิน 67,922 ล้านบาท ภายใต้แผนฟื้นฟูถูกเลื่อนการพิจารณาไปอีก 1 เดือน
แนวทางแก้ ปัญหาคือ คือ 1.ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ลดพนักงานจาก 17,292 อัตรา เหลือ 9,974 อัตรา ดำเนินโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด 7,009 คน ค่าใช้จ่าย 6,143 ล้านบาท ให้สำนัก งบประมาณจัดสรรงบฯ ให้ในปี 2554
2.ปรับปรุงการ บริหารจัดการด้านการเงินใหม่ โดยกู้เงินมาชำระหนี้และให้คลัง ค้ำประกัน ส่วนหนี้สะสม 67,235 ล้านบาท ให้รัฐบาลรับภาระ 10 ปี พร้อมดอกเบี้ยเฉลี่ยปีละ 3,500 ล้านบาท และให้รัฐ อุดหนุนส่วนต่างค่าโดยสารตามนโยบายรัฐ 3.ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานใหม่โดยเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซ ธรรมชาติหรือรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน
ทั้งการรถไฟฯ และ ขสมก.ต่างมีจุดหมายเดียวกันว่า อีก 10 ปีข้างหน้าจะพลิกฟื้นองค์กรให้มีฐานะการเงินที่ดีขึ้นและเลี้ยงตัวเองได้ น่าห่วงอยู่แต่ว่าฝันจะเป็นจริงแค่ไหน และจะมีภาระหนี้ให้ภาครัฐอีกหรือไม่ ถ้าหากเคลียร์หนี้ก้อนใหญ่เบ็ดเสร็จเกือบ 2 แสนล้านบาทให้แล้ว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 08-06-2552
|
|
|
|
|
