Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
มาดี ศรีวัฒนะ สเต็ปใหม่ "เฌอร่า" ก้าวสู่ผู้นำตลาดอาเซียน |
|
สัมภาษณ์
นับ จากปี 2539 ที่บริษัท โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด เปิดไม้ฝา "เฌอร่า" มาถึงวันนี้ แบรนด์เฌอร่าที่มีอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 14 กำลังมุ่งมั่นกับเป้าหมายใหม่ในการ ขยายตลาดต่างประเทศ ธงที่ตั้งไว้คือ การเป็นผู้นำตลาดไฟเบอร์ซีเมนต์แถบภูมิภาคอาเซียนในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
ที่ ผ่านมา "เฌอร่า" ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์จนกลายเป็นเจเนอริกเนม (generic name) หรือชื่อเรียกทั่วไปสำหรับคนที่ต้องการซื้อไม้ฝา แต่สำหรับตลาดในแถบภูมิภาคอาเซียน ซึ่ง "เฌอร่า" ไม่มีตัวช่วยเหมือนตลาดในประเทศ การกำหนดแผนการตลาด และคุณภาพสินค้าจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยฝ่าความท้าทายครั้งนี้ไปได้
" ถือเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งก็อยากจะขยายตลาด ไปในต่างประเทศ สำหรับเฌอร่าตั้งเป้าว่าอยากจะเป็นผู้นำตลาดไฟเบอร์ซีเมนต์ ในภูมิภาคอาเซียน ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า แม้ว่าในแถบอาเซียนมีหลายประเทศที่มี ผู้ผลิตท้องถิ่นอยู่ เช่น มาเลเซีย ฯลฯแต่ด้วยคุณภาพทำให้สินค้าประเภทนี้ยังเป็นที่ต้องการ" "มาดี ศรีวัฒนะ" ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ตรา "เฌอร่า" บริษัท โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด ในกลุ่ม "มหพันธ์" ที่อยู่กับสินค้าแบรนด์เฌอร่ามาตั้งแต่ เริ่มแรก บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
เธอบอกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลตลาดไฟเบอร์ซีเมนต์ในแถบอาเซียน เพื่อประมาณการขนาดตลาดในแต่ละประเทศ ส่วนการจะเป็นผู้นำตลาดอาเซียนได้นั้นมองว่าอย่างน้อยเฌอร่าต้องมีส่วนแบ่ง ตลาดแต่ละประเทศไม่ต่ำกว่า 30%
ปี 2551 ที่ผ่านมา แบรนด์เฌอร่าสร้างยอดขายให้กับกลุ่มมหพันธ์ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนส่งออก 16% หรือประมาณ 350 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2,200 ล้านบาท เติบโต 10% เป้าหมายคือการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายในประเทศแถบเอเชียใต้ ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน และแถบอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม
"ประมาณการว่าปีนี้รายได้จากการ ส่งออกจะมีอัตราเติบโตประมาณ 20% หรือมียอดขายเพิ่มเป็น 420 ล้านบาท สูงกว่าอัตราเติบโตของยอดขายในประเทศ"
การทำตลาดของเฌอร่านอกจากการ ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ ได้ใช้วิธีการออกบูทตามงานเอ็กซิบิชั่นต่างๆ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ได้ออกบูทแสดงสินค้าที่ประเทศเวียดนามและลาว และในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เตรียมจะออกงานในเมืองดูไบ ประเทศยูเออี และที่ประเทศมาเลเซีย
"มา ดี" ขยายความว่า ในตลาดโลกปัจจุบันแบรนด์ "James Hardie" (เจมส์ ฮาร์ดี้) ของประเทศอเมริกา เป็นผู้นำตลาดอยู่ โดยเฉพาะในประเทศ อเมริกาและยุโรปถือว่าเป็นที่รู้จักดี อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดในแถบอาเซียนยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจน และเชื่อว่าเฌอร่ามีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้ในอนาคต หลังจากเริ่มทำตลาดในแถบอาเซียนมานานกว่า 5 ปี โดยเป็นการจำหน่ายสินค้าครบทั้งงาน "ผนัง" และ "ฝ้า"
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในแถบอาเซียน เกือบทุกประเทศยกเว้นมาเลเซีย ตลาดยังมีโอกาสเติบอีกมาก
ถึง วันนี้ "เฌอร่า" พัฒนาจากการเจาะตลาดงานโครงการมาสู่การเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยผ่านช่องทางร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหลังคา "ห้าห่วง" แบรนด์สินค้าในเครือมหพันธ์ ส่วนประเทศอื่นๆ อาทิ ยูเออี พม่า ฯลฯ ยังเป็นการเจาะตลาดโครงการเป็นหลัก
อัพเดตยอดขายช่วงไตรมาสแรกที่ ผ่านมา "มาดี" บอกว่ามีอัตราเติบโตประมาณ 7% ถือว่าพอใจในระดับหนึ่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเฌอร่าเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ต่อเนื่อง
เฉพาะปีนี้ เปิดตัวแล้ว 2 รายการ คือ 1)ไม้บันได รุ่นความหนา 35 มิลลิเมตร 2)ไม้บัวลามิเนต เป็นไม้บัวที่ปิดผิว ด้วยฟิล์มลามิเนต ราคาประมาณเมตรละ 100 บาท ข้อดีคือมีลวดลายใกล้เคียงไม้ธรรมชาติมากขึ้น
"ส่วนสเต็ป ถัดไปคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์สำหรับงานโครงสร้าง เช่น ไม้คาน เพราะปัจจุบัน เฌอร่าสามารถผลิตสินค้าที่มีความหนา สูงสุดได้ถึง 50 มิลลิเมตร" |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 08-06-2552
|
|
|
|
|