| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 97 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 11-05-2552    อ่าน 12394
 เอ็มดีใหม่ "กระเบื้องกระดาษไทย" พันเทพ สุภาไชยกิจ สานต่อภารกิจรีแบรนดิ้ง "สมาร์ทวูด"

สัมภาษณ์


ถือ เป็นหนึ่งในเอ็มดีใหม่ของ กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง "เครือซิเมนต์ไทย" (SCG) สำหรับ "พันเทพ สุภาไชยกิจ" ที่ได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องกระดาษไทย จำกัด ดูแลกลุ่มสินค้าไฟเบอร์ซีเมนต์ "สมาร์ทวูด ตราช้าง" และหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ "ตราช้าง" ที่สร้างยอดขายให้กับ SCG ถึง 6,000 ล้านบาทในปีก่อน

"พันเทพ" มีประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงกับกลุ่ม "มิชลิน" ที่ SCG ร่วมลงทุนในฐานะผู้ถือหุ้นนานถึง 10 ปี

ภาย ใต้สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองที่ยังสุ่มเสี่ยงอย่างเวลานี้ แม้ภารกิจในการนำพาองค์กรจะถือเป็น ภาระหนัก แต่เมื่อข้ามห้วยมาสู่วงการ ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและตกแต่งเต็มตัวก็พร้อมจะสู้ไม่ถอย

เขาก็มีเป้า หมายที่จะรักษายอดขายสินค้าในปีนี้ให้อยู่ในระดับ 6,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน รวมถึงสานต่อการ "รีแบรนดิ้ง" สินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์จากแบรนด์ตราช้าง เป็น "สมาร์ทวูด ตราช้าง" เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง

"ผลตอบรับการรีแบรนดิ้งในช่วงประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาถือว่าน่าพอใจ ล่าสุดผมเพิ่งออกตลาดแถบภาคอีสานและภาคเหนือ ปรากฏว่าแบรนด์สมาร์ทวูด และสมาร์ทบอร์ดเป็นที่รู้จักดี และลูกค้าให้การยอมรับ" พันเทพ สุภาไชยกิจ กรรมการผู้จัดการของ "กระเบื้องกระดาษไทย" บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

"พันเทพ" บอกว่า การรีแบรนด์เป็น สิ่งที่ต้องทำต่อเนื่อง อย่างช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ภายใต้ชื่อ "สมาร์ทวูด ไม้ทน" เพราะหลังจากสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้า ปรากฏว่าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่อง "ความทนทาน" มากที่สุด หนังโฆษณาชุดนี้จึงมีสโลแกนให้จดจำว่า "ไม้สมาร์ทวูด ทนทุกไม้"

สำหรับ นิยามของคำว่า "ทน" ในความหมายคือต้องทนทานแรงกระแทก ทนแดด ทนฝน อย่างหนังโฆษณาไม้รั้วสมาร์ทวูด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กเตะฟุตบอลกระแทกใส่รั้ว แต่ก็ไม่สร้างความเสียหายให้กับรั้วหรือไม้เชิงชายที่ทนทานแดดและฝนได้ยาว นาน เป็นการสื่อความหมาย ออกไปแบบตรงๆ

หลังจากนี้คือการวัดผลตอบ รับจากการสื่อสารหนังโฆษณา อย่างไรก็ตามเชื่อว่า วันนี้ ผู้บริโภคที่ทดลองใช้ไฟเบอร์ซีเมนต์มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ทั้งที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร หันมาใช้กันเยอะ โอกาสเข้าไปทดแทนไม้ธรรมชาติจึงมีอีกมาก เพราะข้อดีของไฟเบอร์ซีเมนต์คือไม่ต้องขัดหรือ ไสไม้ ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น

" เป้าหมายเราคือเข้าไปทดแทนไม้ธรรมชาติในทุกการใช้งาน หมายถึงการสร้างบ้านด้วยไฟเบอร์ซีเมนต์ได้ทั้งหลัง ยกเว้นงานโครงสร้างยังต้องพึ่งเหล็กและเสาเข็ม เพราะจุดเด่นของสินค้าคือปลวก ไม่กินอยู่แล้ว ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้ากลุ่มไม้พื้น นอกจากความทนทาน การพัฒนาพื้นผิวสัมผัส รูปแบบ ลวดลาย ต้องใกล้เคียงไม้ธรรมชาติมากที่สุด"

" พันเทพ" อธิบายว่า ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ถือเป็นสินค้าที่เข้าข่าย "ลดโลกร้อน" ด้วย เพราะทุกๆ การผลิตไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ 1 แผ่น มีส่วนผสมของเยื่อไม้ (เซลลูโลส) เพียง 10% และเลือกใช้เยื่อไม้จากแหล่งเพาะปลูกเพื่ออุตสาหกรรม โดยเฉพาะ ล่าสุด "สมาร์ทวูด ตราช้าง" ได้รับคัดเลือกจาก SCG ให้เป็นสินค้า ติดฉลาก "เอสซีจี อีโค แวลู" ที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมด้วย

โดยเปรียบ เทียบกับไม้สังเคราะห์ ตราช้างรุ่นเดิมที่มีส่วนผสมของสารใยหิน สมาร์ทวูด ตราช้าง ภายหลังการรีแบรนดิ้งและปรับเปลี่ยนส่วนผสมวัตถุดิบใหม่ ส่งผลให้มีค่าการนำความร้อนต่ำกว่าเดิม 2 เท่า ขณะเดียวกันมีการพัฒนาสินค้าเป็นระบบโดยจับมือกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ SCG อาทิ ระบบผนังเย็น ช่วยให้บ้านประหยัดพลังงานมากขึ้นอีก

สำหรับ ภาพรวมตลาดของผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ (รวมหลังคา ฝ้า ผนัง และบอร์ด) "พันเทพ" ประเมินว่า มีโอกาสจะหดตัวลง 10% จากมูลค่าตลาดรวม 2 หมื่นล้านบาท เหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของโครงการ บ้านใหม่ ส่วนบริษัทตั้งเป้ารักษายอดขาย 6,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายจาก 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ สมาร์ทวูด ตราช้าง 20% สมาร์ทบอร์ด 25% และกลุ่มหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ 55%

อย่าง ไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตทั้ง "สมาร์ทวูด" และ "สมาร์ท บอร์ด" จะมีสัดส่วนขายรวมกันเกิน 50% แซงหน้าสินค้ากลุ่มหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์

ส่วน ตลาดส่งออกปีที่ผ่านมามีสัดส่วนประมาณ 5% ของยอดขายรวม คาดว่าภายในปีหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 10% เป้าหมายคือการเพิ่มยอดขายในประเทศแถบอาเซียน อาทิ พม่า ลาว เขมร เวียดนาม ฯลฯ และขยายตลาดใหม่ๆ ผ่าน "เอสซีที" บริษัทเทรดดิ้งในเครือ SCG

ที่ สำคัญการพัฒนา "นวัตกรรม" ใหม่ๆ จะมีต่อเนื่องแน่นอน ที่ผ่านมาบริษัทเพิ่งเปิดตัวไม้เชิงชายรุ่นหน้ากว้าง 6 และ 8 นิ้ว ไม้เชิงชายสีสักทอง สมาร์ทบอร์ดลายเซาะร่อง และไม้รั้วรุ่นความหนา 16 มิลลิเมตร

ดังนั้น ในแง่ภาพรวมสินค้าในกลุ่มฝ้า ผนัง หลังคา เชื่อว่าวันนี้ "สมาร์ทวูด" และ "สมาร์ทบอร์ด" ยังครองตำแหน่งผู้นำตลาด
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 11-05-2552 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.