|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| 23 มี.ค.เปิดใช้ด่วนใหม่ 3 สายรวด รับปริมาณรถพื้นที่โซน "เหนือ-ใต้-ตะวันออก" |
|
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
วัน ที่ 23 มีนาคมนี้จะเป็นวันดีเดย์เปิดใช้ทางด่วนสายใหม่เพิ่มอีก 3 สายรวด แน่นอนว่าคงช่วย ร่นระยะเวลาในการเดินทาง และทำให้การสัญจรไปมาคล่องตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันความสะดวกสบายที่มีเพิ่มขึ้นต้องแลกด้วยการควักกระเป๋าจ่ายค่า ผ่านทางเพิ่ม
เพราะการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยืนยันชัดเจนแล้วว่า เวลานี้ทางด่วนสายใหม่แกะกล่อง 3 สาย พร้อมเปิดให้บริการแล้ว และจะมีการ จัดเก็บค่าผ่านทางแต่ละสายทาง อย่างเป็นทางการในวันดังกล่าวแน่นอน ประกอบด้วย ทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ หรือวงแหวนด้านใต้ ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร ทางด่วนสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร และ ส่วนต่อเชื่อมระหว่างทางด่วนบางนา-ชลบุรี กับสนามบินสุวรรณภูมิส่วนใต้
สำหรับ โครงการวงแหวนด้านใต้นั้น หลัง กทพ.เปิดให้ใช้บริการฟรีเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา ระหว่างรอติดตั้งระบบจัดเก็บเงิน ซึ่งขณะนี้ ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะจัดเก็บ ค่าผ่านทางโดยใช้รูปแบบระบบปิด หรือการเก็บตามระยะทาง โดยผู้ใช้บริการ จะต้องรับบัตรคำนวณระยะทาง (IC card) บริเวณด่านทางเข้าสู่ระบบ ซึ่งคอมพิวเตอร์จะบันทึกข้อมูล วัน เวลา ช่องทาง และด่านที่ขึ้นใช้ทาง (เช่นเดียวกับการใช้บริการทางพิเศษบูรพาวิถี) จากนั้นเมื่อจะออกจากระบบ หรือลงจากระบบทางพิเศษ ผู้ใช้บริการจะต้องคืนบัตร IC card ให้พนักงานเก็บค่าผ่านทางบริเวณด่านทางออก เพื่อคำนวณค่าผ่านทางตามระยะทาง ที่ใช้จริงพร้อมชำระค่าผ่านทาง
โดยจะเก็บค่าผ่านทางเฉพาะ 22.5 กิโลเมตรที่ กทพ.ก่อสร้าง ซึ่งอัตรา ค่าผ่านทางจะรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ด้วย สำหรับรถ 4 ล้ออัตราแรกเข้า 20 บาท และเก็บเพิ่มกิโลเมตรละ 1 บาท รถ 6-10 ล้อเก็บแรกเข้า 40 บาท เก็บเพิ่มกิโลเมตรละ 2 บาท ส่วนรถเกิน 10 ล้อเก็บแรกเข้า 60 บาท และเก็บเพิ่มกิโลเมตรละ 3 บาท
สำหรับเส้น ทางส่วนที่ต่อเชื่อมกับถนนวงแหวนรอบนอกของกรมทางหลวง (ทล.) จากช่วงสุขสวัสดิ์-บางขุนเทียนอีก 15 กิโลเมตร กรมทางหลวงจะออกประกาศอัตราค่าผ่านทางจัดเก็บเอง โดยอยู่ระหว่างสรุปอัตราค่าผ่านทางที่จะจัดเก็บ เนื่องจาก กทพ.อยากให้เก็บแบบระบบปิด คิดค่าแรกเข้า 20 บาท บวกเพิ่มอีกกิโลเมตรละ 1 บาท ขณะที่กรมทางหลวงต้องการจัดเก็บ 15 บาท หรือกิโลเมตรละ 1 บาท โดยไม่มีค่าแรกเข้าเหมือนกับ มอเตอร์เวย์
ล่าสุดกรมทางหลวงอยู่ ระหว่างหารือกับกรมบัญชีกลาง ช่วงนี้ผู้ใช้ทางจึงได้ใช้บริการฟรีไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจน โดยโครงการวงแหวนด้านใต้จะช่วยการจราจรกรุงเทพฯส่วนใต้ บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ พระรามที่ 2 และโซนตะวันออก บริเวณศรีนครินทร์ บางนา-ตราด สุขุมวิท พระประแดง ให้คล่องตัวมากขึ้น
ขณะที่โครงการทาง ด่วนสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร ซึ่งต่อเชื่อมกับทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา ให้ยาวออกไป สิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบนอก เป็นทางพิเศษขนาด 6 ช่องจราจร มีทางแยก ต่างระดับ 3 แห่ง พร้อมทางขึ้น-ลงที่รามอินทรา ก.ม.11 และวงแหวนรอบนอก มีด่านเก็บค่าผ่านทาง 4 แห่ง มีรามอินทรา 1 (ขาออกเมือง) สุขาภิบาล 5-1 (ขาเข้าเมือง) ด่านสุขาภิบาล 5-2 (ขาออกเมือง) และจตุโชติ (ขาเข้าเมือง)
ใน ส่วนของทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรานั้น ปัจจุบัน กทพ.ได้ขยายส่วนลดค่าผ่านทางสายรามอินทรา-อาจณรงค์ 10 บาทออกไปอีก 1 ปี ทำให้อัตราค่าผ่านทางรถยนต์ 4 ล้อ ขณะนี้อยู่ที่ 30 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ 50 บาท รถยนต์เกิน 10 ล้อ 70 บาท
แต่เมื่อเปิดใช้สายใหม่ไปถึงวงแหวน รอบนอกจะมีการยกเลิกประกาศเดิม สำหรับ ค่าผ่านทางใหม่จะปรับเพิ่มเป็น 40 บาท 60 บาท และ 80 บาทตามลำดับ ยกเว้น รถขาออกเมืองที่ด่าน ก.ม.11 และด่าน รามอินทรา จะเก็บค่าผ่านทาง 20 บาท 30 บาท และ 40 บาทตามลำดับ จะรองรับการจราจรบริเวณถนนรามอินทรา ถนนเกษตร-นวมินทร์ ถนนรังสิต-นครนายก และบริเวณใกล้เคียงได้
สุดท้ายทางยกระดับเชื่อมต่อทางด่วนบางนา -ชลบุรี กับถนนด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณ ก.ม.15 บางนา-ตราด เป็นโครงข่ายรองรับการจราจรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นทางเชื่อมกับถนนกรมทางหลวงที่เข้าสู่สนามบินด้านทิศใต้ โดย กทพ.จะติดตั้ง ด่านเก็บเงินเพื่อเพิ่มทางขึ้น-ลงอีก 2 ด่าน เป็นขาออก 1 ด่าน และขาเข้าอีก 1 ด่าน ค่าผ่านทางเป็นแบบระบบปิด หรือเก็บตามระยะทาง เหมือนทางด่วนบางนา-ชลบุรี เก็บค่าแรกเข้า 20 บาท และเก็บเพิ่มอีกกิโลเมตรละ 1 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ทางด่วนมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ต้องใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ที่ปริมาณการจราจรคับคั่งขึ้นทุกวัน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-03-2552
|
|
|
|
|
