Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ธนารักษ์-กทม.-ร.ฟ.ท." แห่ร่วมวงไพบูลย์ การเคหะฯ ลอนช์ซัพพลายแสนยูนิตถล่มตลาดบ้านถูก |
|
ขณะ ที่ผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์พากันตั้งการ์ดใช้วิธีปรับแผนด้วยการลดหรือไม่ก็ชะลอการลง ทุนพัฒนาโครงการออกไป เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ และรอให้มั่นใจมากขึ้นจึงค่อย เดินหน้าต่อ หน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานกลับสวนกระแสด้วยการกางโมเดลลงทุนผุดโครงการทั้ง ในเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยจำนวนมาก เป้าหมายเพื่อหา รายได้พร้อมๆ กับสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลางสามารถซื้อบ้านเป็นของตนเอง ได้ แน่นอนว่าซัพพลายบ้านที่แต่ละหน่วยงานจะลอนช์ออกมา เมื่อรวมบ้านเอื้ออาทร บ้านธนารักษ์ และบ้านมั่นคงที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้แล้วน่าจะมีจำนวนเฉียดแสนยูนิต
" สุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล" กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส.) เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้มอบหมายให้บริษัทพัฒนาที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ 2-3 แห่ง ได้แก่ ที่ดินใกล้สถานีอารีย์ ปากซอยราชครู ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) พื้นที่ 4 ไร่ 3 งาน จะพัฒนาเป็นอาคารสูงกว่า 20 ชั้น ขนาดพื้นที่ 7-8 หมื่น ตร.ม. มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ขณะนี้กำลังจะว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาศึกษาว่าจะพัฒนรูปแบบใด ที่วางไว้มี 2-3 รูปแบบ คือ 1.สำนักงานให้เช่า 2.สำนักงานและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และ 3.พัฒนา รูปแบบคล้ายๆ กับโครงการจามจุรีสแควร์
ที่ดินบริเวณวัดไผ่ ตัน ติดสถานีบีทีเอส สะพานควาย เดิมเป็นที่ดินขององค์การ รับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) ขนาด 3 ไร่ จะพัฒนาเป็นอาคารชุด 8-9 ชั้น มูลค่าโครงการ 500-600 ล้านบาท รูปแบบจะคล้ายบ้านธนารักษ์ ที่ ธพส. เคยพัฒนาก่อนหน้านี้ จะเจาะกลุ่มลูกค้าข้าราชการที่อยู่ในรัศมี 5-10 กิโลเมตร ให้เช่าระยะยาวในราคาถูกกว่าท้องตลาด
และที่ดินบริเวณ พื้นที่โซน C ภายในโครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งที่เหลืออยู่ 4-5 ไร่ อาจจะพัฒนาเป็นอาคารชุด 7-8 ชั้น จำนวน 160 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200-300 ล้านบาท เพื่อให้ข้าราชการที่ทำงานในศูนย์ราชการเช่าหรือพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานให้ เช่า
ทั้งหมดจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณา และจะดำเนินการเป็นราย โปรเจ็กต์ไป ปีนี้ที่จะเห็นผลจนถึงขั้นได้ตัว ผู้รับเหมาก่อสร้างคือบริเวณปากซอยราชครู
"เราไม่ได้ทำแข่งกับภาค เอกชน แต่เป็นการนำที่ดินที่ว่างเปล่ามาจัดประโยชน์ไม่ให้มูลค่าที่ดินสูญเปล่า เป็นการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมอาจพอมีกำไรเหลือมาพัฒนาโครงการอื่นๆ ต่อ เพราะ ธพส.ไม่มีรายได้เป็นของตัวเองนอกจาก ค่าเช่าศูนย์ราชการ และรายได้จากบ้าน ธนารักษ์บางส่วน" เอ็มดีบริษัท ธพส.กล่าว
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็มี นโยบายช่วยเหลือข้าราชการ กทม. โดยจะซื้อบ้านเอื้ออาทรจากการเคหะแห่งชาติ 1 หมื่นยูนิต วงเงิน 3,900 ล้านบาท มาจัดเป็นสวัสดิการให้ข้าราชการที่มีรายได้ไม่เกิน 13,500 บาท/เดือน ผ่อนเดือนละ 1,850 บาท รวมทั้งปล่อยสินเชื่อให้ข้าราชการที่ต้องการซื้อบ้านจากเอกชนด้วย
ยิ่ง ไปกว่านั้นสเต็ปต่อไป กทม.มีแผนจะสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการ กทม.ประมาณ 1 แสนคน รวมทั้งชุมชนต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจะให้เช่าระยะยาวเดือนละ 2,000 บาท โดยนำพื้นที่ว่างของสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตที่มีอยู่ 1,042 แปลง หรือ 3,959 ไร่ มาพัฒนาเป็นอาคารชุดราคา 5 แสนบาท เช่น อ่อนนุช หนองแขม ฯลฯ และจะขอเช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยในชุมชนต่างๆ เช่าระยะยาวราคาถูกกว่าท้องตลาดด้วย โดยปีนี้จะเริ่ม เฟสแรก 1,000 ยูนิต เงินลงทุน 500 ล้านบาท
ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ก็เตรียมปัดฝุ่นโครงการที่พักอาศัยบริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ ย่านตึกแดง ริมคลองเปรมประชากร บางซื่อ พื้นที่ 105 ไร่มาพัฒนาเป็นอาคารชุดสำหรับอยู่อาศัยสูง 16 ชั้น จำนวน 1 หมื่นยูนิต มูลค่าโครงการ 6,000-7,000 ล้านบาท เช่นเดียวกัน โดยโครงการนี้ ร.ฟ.ท.จะให้เช่าระยะยาว 30 ปี ราคา 5.5 แสนบาท กลุ่มลูกค้ามีทั้งพนักงานการรถไฟฯ และบุคคลภายนอก โดย กคช.จะเป็นผู้บริหารจัดการให้ หลังการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวจะกลายเป็นชุมชนเมืองสมบูรณ์แบบ มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน
ส่วนการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ที่ตามแผนจะพัฒนาบ้านเอื้ออาทรทั้งหมด 300,000 หน่วยทั่วประเทศ ถึงขณะนี้มี สต๊อกบ้านเอื้ออาทรเหลือในมือประมาณ 70,000-80,000 ยูนิต จากที่สร้างเสร็จทั้งหมด 170,000 ยูนิต ก็มีแผนจะเร่งระบายบ้านเอื้ออาทรออกสู่ตลาดให้มากที่สุดด้วย ขณะเดียวกัน กคช.ได้รับมอบหมายจาก "อิสสระ สมชัย" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้พัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มี รายได้น้อยและปานกลางเพิ่มอีก 50,000 หน่วย ภายใน 5 ปี วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินในปีนี้
ถ้าทุกหน่วยงานต่างเดินหน้าลอนช์บ้านและคอนโดฯออกมาตามแผนได้ ตลาดที่อยู่อาศัยระดับล่างคงสะเทือนไปทั้งบาง |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 02-03-2552
|
|
|
|
|