| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 99 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 14-12-2551    อ่าน 11641
 2 ซีอีโออสังหาฯ แลนด์ฯ-พฤกษาฯ แชมป์เศรษฐีหุ้น

รสารการเงินธนาคาร ยก "อนันต์ อัศวโภคิน" เจ้าพ่ออสังหาฯ แชมป์เศรษฐีหุ้นปีนี้ มูลค่ารวม 14,657 ล้านบาท ตามด้วย "ทองมา วิจิตรพันธ์" มูลค่าหุ้นแตะหมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนขาใหญ่ "พวงพันธุ์ บูลภักดิ์" กระโดดจาก 148 มาเป็นอันดับ 6 ด้วยมูลค่า 3.77 พันล้านบาท

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2551 ปรากฏว่า ปีนี้ตกเป็นของ นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บิ๊กบอสแห่งวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไว้ได้อีกครั้งเป็นปีที่ 6 โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 14,675.45 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นแลนด์แอนด์เฮ้าส์ 23.98% มูลค่า 14,633 ล้านบาท และแมนดารินโฮเต็ล มูลค่า 4.21 ล้านบาท

ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ยังเป็นของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ แห่งพฤกษา เรียลเอสเตท ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 9,599.16 ล้านบาท จากการถือหุ้นพฤกษาฯ สัดส่วน 61.85% รวยลดลง 1,554.79 ล้านบาท หรือ 13.94% เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงถึง 13.93%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แห่งบางกอกแอร์เวย์ส โดยถือหุ้นกรุงเทพดุสิตเวชการ 13.55% และโรงพยาบาลนนทเวช 0.79% รวมมูลค่า 5,111.20 ล้านบาท ลดลง 1,167.80 ล้านบาท หรือ 18.60%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ไต่ขึ้นจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ ประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 โดยถือครองหุ้นบีอีซี เวิลด์ 11.42% มูลค่ารวม 4,864.92 ล้านบาท รวยลดลง 433.96 ล้านบาท หรือ 8.19%

ด้านนักลงทุนรายใหญ่ อย่าง นิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาท สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ แห่งโอสถสภา ไต่อันดับเศรษฐีหุ้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากอันดับ 10 ในปี 2549 มาอยู่ในอันดับ 9 เมื่อปี 2550 และขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ในปี 2551 โดยปีนี้นิติลงทุนในหุ้นทั้งหมด 16 บริษัท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 4,372.48 ล้านบาท ลดลง 901.70 ล้านบาท หรือ 17.10% เนื่องจากราคาหุ้นที่ถือเกือบทั้งหมดปรับตัวลดลงในปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกันกับเศรษฐีหุ้นอันดับ 6 ที่ตกเป็นของ พวงพันธุ์ บูลภักดิ์ นักลงทุนรายใหญ่อีกราย ที่ก้าวกระโดดจากอันดับ 148 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 3,776.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 3,177.67 ล้านบาท หรือ 530.27% ประกอบด้วย บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น ที่ถือหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 12.94% และถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ใน บลิส-เทล 4.98% นอกจากนี้ ยังถือหุ้นอินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจิเนียริง หรือ ไออีซี 8.16% และ ซี.ไอ.กรุ๊ป 3.67%

สำหรับ นิจพร จรณะจิตต์ พี่สาวของ เปรมชัย กรรณสูต บิ๊กบอสอิตาเลียนไทย ยังรักษาอันดับ 7 ไว้ได้เป็นปีที่ 3 โดยถือหุ้นมูลค่ารวม 3,631 ล้านบาท ลดลง 1,774.28 ล้านบาท หรือ 32.82% ประกอบด้วย อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ 11.03% โรงแรมโอเรียนเต็ล 21.91% และ โพสต์ พับลิชชิ่ง 2.52%

เจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ แกรมมี่ อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ปีนี้ขยับขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 8 หลังจากหล่นไปอยู่ในอันดับ 25 เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากปีนี้ราคาหุ้น บริษัทแกรมมี่ ที่ถืออยู่ 55.34% ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 31.92% ทำให้มูลค่าหุ้นที่ถือครองเพิ่มขึ้นเป็น 3,525.75 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นถึง 1,165.77 ล้านบาท หรือ 49.40%

เช่นเดียวกับประชุม มาลีนนท์ ที่ก้าวขึ้นจากอันดับ 12 มาเป็นเศรษฐีหุ้นในอันดับ 9 รวย 3,390.01 ล้านบาท จากการถือหุ้น บีอีซี เวิลด์ 7.86% หุ้นศิครินทร์ 3.87% และหุ้นชูไก 0.71% ตามติดด้วยเศรษฐีหุ้นอันดับ 10 อัมพร มาลีนนท์ ที่ไต่ขึ้นมาจากอันดับ 13 เมื่อปีที่แล้ว รวย 3,363.08 ล้านบาท ถือหุ้นบีอีซีเวิลด์ 7.86%

ทั้งนี้นอกจากประชุม และอัมพร มาลีนนท์ ยังมีเศรษฐีหุ้นที่เป็นเครือญาติในตระกูลมาลีนนท์ เจ้าของไทยทีวีสีช่อง 3 ได้แก่ ประวิทย์ รัตนา ประสาร นิภา ปิยวดี สกลศรี แคทลีน และเทรซีแอนน์ มาลีนนท์ ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าหุ้นของเครือญาติทั้ง 10 คนแล้ว ส่งผลให้ตระกูลมาลีนนท์ครองอันดับ 1 ของตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยได้อีกครั้งในปีนี้ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 24,426.93 ล้านบาท ลดลง 2,045.23 ล้านบาท หรือ 7.73% ซึ่งหุ้นที่ตระกูลมาลีนนท์ถือครอง ได้แก่ ถือหุ้น บีอีซี เวิลด์ หุ้นศิครินทร์ และซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และไอที ซิตี้

สำหรับตระกูลอัศวโภคิน ยังคงรักษาอันดับ 2 ไว้ได้อีกปีหนึ่ง จากการถือหุ้นของธุรกิจในตระกูล ได้แก่ บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บริษัทแมนดาริน โฮเต็ล บริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ และ เอพี พร็อพเพอร์ตี้ ของ 7 เครือญาติ อนันต์ อนุพงษ์ ทรงพล บุญทรง สุดา อภิชิต และอาชวิน อัศวโภคิน รวมมูลค่าหุ้นที่ตระกูลอัศวโภคินถือครองทั้งสิ้น 17,684.70 ล้านบาท ลดลง 156.17 ล้านบาท หรือ 0.88%

ส่วนตระกูลชินวัตรของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ตกลงมาหนึ่งอันดับจากอันดับ 47 มาอยู่อันดับ 48 ในปีนี้ โดยรวยลดลงเหลือ 1,369.31 ล้านบาท หรือลดลง 18.98% ซึ่งลูกสาวคนโต พิณทองทา ชินวัตร และลูกสาวคนสุดท้อง แพทองธาร ชินวัตร ยังคงเป็นเศรษฐีหุ้นในอันดับ 108 ทั้งคู่ ถือหุ้น เอสซี แอสเสท ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 28.97% มูลค่า 627.69 ล้านบาท ส่วนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถือหุ้น โรงพยาบาลวิภาวีดี และ เอสซี รวมมูลค่าเพียง 6.45 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นไทยที่มีมูลค่าลดลงถึงกว่า 78,000 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องมาจากดัชนีตลาดหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณมูลค่าการถือครองหุ้นของบรรดาเศรษฐีหุ้นประจำปี 2551 นั้นปรับตัวลดลงถึง 248.96 จุดจากปี 2550 โดยปรับลงมาอยู่ที่ระดับ 596.94 จุด ลดลง 29.45%% ซึ่งเป็นผลจากวิกฤติการเงินโลกและปัญหาการเมืองภายในประเทศ
  
ที่มา
[ กรุงเทพธุรกิจ ] วันที่ 14-12-2551 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.