|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| นับถอยหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ชิงขุมทรัพย์ 6 หมื่นล้าน "อภิรักษ์" ถอย "ปชป." เสี่ยงสูง ! |
|
1 เดือน 3 วัน คืออายุขัยการทำงานบนเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรอบที่ 2 ของ "อภิรักษ์ โกษะโยธิน" สาเหตุที่การทำงานรอบนี้มีเวลาสั้นมากเป็นเพราะคดีทุจริต การจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท หลังคณะอนุกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่ามีความผิดทางอาญาจากการเปิดแอล/ซีโครงการดังกล่าว จนกระทั่งเจ้าตัวต้องออกมาประกาศขอลาออกจากตำแหน่งในที่สุด
เบอร์ 1 ลาออกไป สร้างความระส่ำระสายในระนาบเบอร์ 2 อีก 4 คน บนตำแหน่งรองผู้ว่าฯโดยอัตโนมัติ ทั้ง "สุกิจ ก้องธรนินทร์-แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ-วัลลภ สุวรรณดี-ประกอบ จิรกิติ" ต่างเปรยเป็นทำนองเดียวกันว่า เพิ่งจะ "ไหว้ครู" เท่านั้นเอง ยังไม่ได้ เริ่มต้นทำงานเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างเดียว
ที่เพิ่งเลื่อนชั้นจากเลขาฯผู้ว่าฯมาเป็นรองผู้ว่าฯ บอกสั้นๆ ว่า "ใครจะคิดว่าเร็วขนาดนี้ ทุกคนช็อกหมด ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเปิดงาน งานท่องเที่ยวที่ได้รับมอบหมายให้ทำขณะนี้ก็ยังไม่ได้ทำ"
ด้าน "แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ" ที่ลาออกจาก ส.ส.กทม.มานั่งเก้าอี้ รองผู้ว่าฯ ก็เปรยในทำนองเดียวกันว่า "ยังไม่ได้เดินหน้าทำงาน ได้แต่วางแผนงานเท่านั้น"
ไม่ต่างไปจากอีกหนึ่งในทีมรองผู้ว่าฯ ชุด "อภิรักษ์ 2" ที่บอกว่า "วางแผนงานที่จะทำตามนโยบายไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่ทันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็หมดเวลาเสียก่อน"
เช่นเดียวกับรองผู้ว่าฯ กทม.ฝ่ายงานโยธา ที่เพิ่งจะเข้าไปเรียนรู้งานจากสำนักการโยธา เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
"อภิรักษ์" บอกเพียงว่า "คงไม่ฝากอะไรถึงผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ เพราะการทำงานร่วมกับข้าราชการ 4 ปีที่ผ่านมา รู้กันหมดแล้วว่าคน กทม.ต้องการอะไร แม้ผมจะกลับมาทำงานแค่เดือนกว่าๆ ก็ทำเต็มที่ตามนโยบายที่ประกาศไว้ช่วง หาเสียง โครงการบีอาร์ที รถไฟฟ้าบีทีเอส 2.2 กิโลเมตร ผมก็ไม่ห่วง เพราะเดินหน้า ตามแผนงานอยู่แล้ว"
แต่ถ้าหากการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 มกราคม 2552 นี้ ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ไม่ได้มาจากพรรคประชาธิปัตย์ งานที่ "อภิรักษ์" วาดแผนไว้อาจจะต้องถูกรื้อใหม่ทั้งยวง หรือหากพรรคประชาธิปัตย์ได้หวนคืนเก้าอี้นี้อีกครั้ง แผนการใช้เงิน งบประมาณ กทม.กว่า 6 หมื่นล้านบาท ก็มีโอกาสจะถูกปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นส่วนต่อขยายโครงการ รถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งฝั่งธนฯ 2.2 กิโลเมตร ที่มีกำหนดเปิดเดือนเมษายนนี้ สายสีลมจากอ่อนนุช-แบริ่ง 5.25 กิโลเมตร ที่งานก่อสร้างจะเสร็จกลางปี 2552 และเปิดเดินรถในปี 2553
ส่วนต่อขยายสายสีเขียวในอนาคตอีก 2 เส้นทาง จากหมอชิต-สะพานใหม่ และแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่รัฐบาลพลังประชาชนอยากจะยึดคืนมาเป็นของรัฐบาล ล่าสุดเพิ่งเปิดศึกกันระหว่าง กทม.และกระทรวงคมนาคม ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบโครงการระหว่าง กทม.และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
นอกจากนี้ยังมีโครงการบีอาร์ที ที่ "อภิรักษ์" จุดประกายขึ้นมา ซึ่งสายแรกจากช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ อยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้าแล้ว 98.07% กำหนดเสร็จมกราคม 2552 และมีอาการสะดุดบ้างจากการทุจริตจัดซื้อรถบีอาร์ที วงเงิน 300 กว่าล้านบาท แต่มีความพยายามผลักดันโครงการเปิดให้บริการในปี 2552 ในช่วงเวลาที่ยังนั่งเป็นผู้ว่าฯ กทม.
แถมยังศึกษาเส้นทางบีอาร์ทีเพิ่มอีก 4 เส้นทาง คือ สายดอนเมือง-มีนบุรี-สุวรรณภูมิ สายปากเกร็ด-หมอชิต สายมีนบุรี-ศรีนครินทร์-สำโรง และสายบางนา-สุวรรณภูมิ
นอกเหนือจากโครงการรถไฟฟ้าและบีอาร์ที ยังมีงานเร่งด่วนที่รอให้ผู้ว่าฯ กทม.อนุมัติ คือ การก่อสร้างถนนสายใหม่อีก 10-20 โครงการ มูลค่า 1-2 หมื่นล้านบาท ที่ล่าช้ามานานตั้งแต่ปี 2548 เรื่อยมา ทั้งจากการตรวจสอบการทุจริต 16 โครงการ การปรับราคาก่อสร้างจากวัสดุหลักคือเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้งานหยุดชะงัก
ดังนั้น ไม่ใช่แค่ข้าราชการ กทม. จะเหนื่อยกับการปรับเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ หากแต่คนกรุงเทพฯก็คงเหนื่อยใจไม่น้อยกับการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ ! |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-11-2551
|
|
|
|
|
