| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 101 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 20-10-2551    อ่าน 11908
 อสังหาฯเฮรับราคาเหล็กต่ำกว่า20 ลุ้น"จัดสรร-รับสร้างบ้าน"จัดแคมเปญคืนกำไรลูกค้า

ราคาเหล็กเส้นยังดิ่งลงไม่หยุด จากกลางเดือนสิงหาคม 32-33 บาท/กิโลกรัม ลดเหลือ 20-21 บาท/กิโลกรัม เอเย่นต์ชี้ดีมานด์ในตลาดโลกลดฮวบ วงการพัฒนา ที่ดิน-รับสร้างบ้านได้อานิสงส์ช่วยให้กำไรดีขึ้น เตรียมงัดโปรโมชั่นคืนกำไรตอบแทนลูกค้า แต่ทำใจปีหน้าเจองานหนัก ด้านรับเหมาเฮไม่น้อยหน้าดอดเซ็นสัญญาหน่วยงานรัฐหลังต้นทุนเหล็กลด


นายเสนอ ตระกูลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตระกูลสุขค้าวัสดุก่อสร้าง จำกัด เอเย่นต์จำหน่ายเหล็กเส้นรายใหญ่ในย่านสุขาภิบาล 3 กรุงเทพฯ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สถานการณ์ราคาเหล็กเส้นในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมายังลดลงอย่างต่อเนื่อง จากกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาราคาขายเฉลี่ย 32-33 บาท/กิโลกรัม ลดลงเหลือ 20-21 บาท/กิโลกรัม ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน มาจาก 3 ตัวแปร คือ 1)ความต้องการใช้ในตลาดโลกลดลงมาก 2)ปัญหาการเงินจากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐ และ 3)ราคาน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบ (บิลเลต) ในตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง

เป็นไปได้ที่ราคาเหล็กจะลดลงต่ำกว่า 20 บาท/กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม การที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดเพดานราคาซื้อขายเหล็กหน้าโรงงานลงตันละ 1.4 หมื่นบาท หรือกิโลกรัมละ 14 บาท คงไม่มีผลต่อราคาขายในตลาด เพราะปัจจุบันเพดานราคาเหล็กเส้นหน้าโรงงานอยู่ที่ 42 บาท/กิโลกรัม หากลด 14 บาท เหลือ 28 บาท/กิโลกรัม ก็ยังสูงกว่าราคาซื้อขายจริง

นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด กล่าวว่า การที่เหล็กเส้นลดราคาลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย ธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลดี คือ ต้นทุนปลูกสร้างบ้านลดลง เพราะการก่อสร้างบ้าน 1 หลัง ราคาประมาณ 2 ล้านบาท เดิมมีต้นทุนเหล็กเส้นเฉลี่ย 4-5 หมื่นบาท อาจลดลงเหลือ 2-2 หมื่นบาทเศษ ทำให้อัตราเนตมาร์จิ้นอาจปรับสูงขึ้นจากเดิม 1.5-2% เมื่อมีมาร์จิ้นเพิ่มสูงขึ้นก็มีโอกาสให้บริษัทรับสร้างบ้านนำกำไรมาคืนกำไรให้กับลูกค้า

สำหรับบิวท์ ทู บิวด์ หากเป็นลูกค้าที่จองสร้างบ้านตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะให้ส่วนลด 5% คล้ายๆ จัดโปรโมชั่น แต่ไม่ประกาศเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านอาจจะไม่เห็นการปรับลดราคาบ้าน แต่อาจให้ส่วนลดหรือของแถมทดแทน เนื่องจากการก่อสร้างบ้านจะแล้วเสร็จต้องใช้เวลาเฉลี่ย 6-8 เดือน และต้องแบกรับความเสี่ยงต้นทุนเองกรณีราคาเหล็กเส้นสะวิงกลับขึ้นมา

"ถ้ามองเฉพาะเรื่องต้นทุนก่อสร้างบ้าน ผู้ประกอบการคงเบาใจขึ้น เพราะเป็นช่วงขาลงของราคาเหล็กเส้น แต่ถ้ามองถึงแนวโน้มตลาดในปีหน้า ถือว่ามีงานหนักรออยู่"

นายสุธีกล่าวอีกว่า เป็นไปได้ว่าในอนาคตราคาเหล็กเส้นอาจปรับลดลงเหลือ 17-18 บาท/กิโลกรัม แต่คงไม่ลดลงต่ำกว่าระดับ 15 บาท/กิโลกรัม เหตุผลคือปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกซื้อขายกันที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เพราะช่วงที่เหล็กเส้นราคา 10 กว่าบาท/กิโลกรัม ราคาน้ำมันอยู่ที่ 30-40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ด้านนายวรพจน์ เดชอุดมวิทยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.แอล. เอส เตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรร "รอยัลราชาวดี" กล่าวว่า ราคาเหล็กเส้นที่ปรับลดลงจะส่งผลดีต่อโครงการคอนโดฯ โครงการใหม่ของบริษัทคือ "อมรา หัวหิน" ที่จะเปิดตัวในปีหน้า ประมาณการว่าราคาเหล็กเส้นที่ลดลงจาก 40 บาทเศษ/กิโลกรัม เหลือ 20 บาท/กิโลกรัม จะทำให้ต้นทุนก่อสร้างลดลง 20%

อย่างไรก็ตาม ไม่มีนโยบายตั้งราคาขายใหม่ แต่จะจัดโปรโมชั่นให้ของแถมลูกค้า อาทิ แถมชุดครัว แอร์ ฯลฯ แบบพร้อมเข้าอยู่ โดยนำส่วนต่างต้นทุนค่าก่อสร้างที่ลดลงมาคืนกำไรให้กับลูกค้าแทนลดราคาขาย

ด้านแหล่งข่าวจากรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้ความเห็นว่า วงการรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับผลดีจากการที่ราคาเหล็กปรับลดลงเช่นเดียวกัน เห็นได้จากผู้รับเหมา 2 รายที่ได้งานประมูลโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมพหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช และอุโมงค์ทางลอดศรีนครินทร์ ที่เดิมยังไม่ยอมเซ็นสัญญาและขอให้ กทม.ปรับราคากลางขึ้น ยอมเซ็นสัญญาโดยใช้ราคากลางเดิมแล้ว คาดว่าจะส่งผลดีต่องานก่อสร้างโครงการของรัฐ รวมทั้งผู้รับเหมางานจะประมูลงานด้วย เพราะต้นทุนเหล็กลดลงแม้ต้นทุนวัสดุอื่นๆ จะยังอยู่ในระดับที่สูงก็ตาม
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-10-2551 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.