|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ชาญ ศิริรัตน์ ปั้น "ทัช พร็อพเพอร์ตี้" รุกบริหารอาคารครบวงจร |
|
สัมภาษณ์
ถึงแม้จะเป็นบริษัทน้องใหม่ในร่มชายคา "พลัส พร็อพเพอร์ตี้" บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บมจ.แสนสิริ เพราะเพิ่งจะจัดตั้งขึ้นได้ไม่นาน แต่ชื่อชั้นของ "ทัช พร็อพเพอร์ตี้" ที่แตกตัวออกมาเพื่อรองรับการทำธุรกิจ รับบริหารจัดการอาคารเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ถือว่าเป็นน้องใหม่ในวงการ เพราะ ทีมงานทั้งหมดล้วนเป็นบุคลากรเดิมของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีความเชี่ยวชาญและถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการบริหารจัดการอาคารครบวงจร
ที่น่าสนใจคือ ที่ผ่านมาทีมวิจัยและพัฒนาของทัช พร็อพเพอร์ตี้ ได้พัฒนาระบบ "ทีเอฟเอ็ม" (total facility management) ขึ้นมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การรับบริหารงานอาคาร ล่าสุด "ชาญ ศิริรัตน์" กรรมการบริหาร บริษัท ทัช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงจุดเด่นของระบบ ทีเอฟเอ็ม ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ และแผนการดำเนินธุรกิจที่วางไว้
"ชาญ" อธิบายถึงที่มาของระบบ "ทีเอฟเอ็ม" ว่า เริ่มจากแถบยุโรป ใช้กันมาประมาณ 20-30 ปี จากนั้นอเมริกาก็นำระบบนี้มาใช้และได้รับความนิยม ความแตกต่างของการรับบริหารอาคารด้วยระบบทีเอฟเอ็มกับระบบเดิม คือ ทีเอฟเอ็มจะใช้วิธีจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของอาคารที่รับบริหารด้วยซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ต่างจากเดิมที่จัดเก็บด้วยระบบเอกสาร ทำให้เก็บข้อมูลได้ละเอียดและลึกขึ้น
สำหรับซอฟต์แวร์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้ บริษัทพัฒนาขึ้นเอง โดยมีอาจารย์คณะ สถาปัตย์ จุฬาฯ ที่จบการศึกษาทางด้านนี้โดยตรงเป็นที่ปรึกษา ใช้เวลาพัฒนาประมาณปีกว่า และเริ่มให้บริการด้วยระบบนี้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 รายละเอียดข้อมูลที่จัดเก็บคร่าวๆ อาทิ ข้อมูลด้านกายภาพอาคาร ปริมาณการแจ้งซ่อมต่างๆ ข้อมูลงานระบบวิศวกรรม ค่าใช้จ่ายอาคารในแต่ละหมวดหมู่ ฯลฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์กำหนดเป้าหมายการลดค่าใช้จ่ายอาคารต่อตารางเมตร ที่สำคัญเจ้าของอาคารสามารถเรียกดูข้อมูลต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์
ถามถึงวิธีกำหนดเป้าหมายการลดค่าใช้จ่ายอาคาร "ชาญ" บอกว่า จะยึดเจ้าของอาคารเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การกำหนดเป้าหมายต้องอาศัยการจัดเก็บข้อมูลอาคารระยะหนึ่ง เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าจะบริหารอาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลด ค่าใช้จ่ายไปพร้อมๆ กันในจุดไหนได้บ้าง
อย่างอาคาร "วรรณสรณ์" (โรงเรียนกวดวิชา) หัวมุมแยกพญาไท เป็นตึกสูง 17 ชั้น มีคนเข้าออกเฉลี่ย 2,000 คนต่อวัน บริษัทเข้าไปบริหารจัดการตั้งแต่อาคารเริ่มเปิดใหม่ๆ การรับงานบริหารจัดการอาคารถือเป็นเรื่องท้าทาย เราใช้เวลาเก็บข้อมูลหลายเดือนเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า อย่างสิ่งที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหา อาทิ ความสะอาดอาคาร เพราะปัญหาคือมีคนเข้าออกจากหลายจุด จึงป้องกันด้วยการทำให้รองเท้าสะอาดตั้งแต่ก่อนเข้าอาคาร หรือการปรับจุดรับส่งนักเรียนเพื่อจัดระบบจราจรไม่ให้เกิดปัญหารถติด ฯลฯ
"โดยหลักการระบบทีเอฟเอ็มคือกระบวนการจัดเก็บข้อมูล สิ่งที่ต้องเรียนรู้คือ 1)กระบวนการจัดเก็บข้อมูล 2)รายละเอียดที่ต้องจัดเก็บ โดยมีทีมวางแผนเพื่อจัดระบบการทำงาน จากนั้นทีมสตาฟทำงานก็ต้องปรับวิธีการทำงานตามระบบใหม่ เช่น มาตรฐานดูแลความสะอาดในแต่ละจุดของอาคาร สะอาดระดับไหน อย่างไร ทำความสะอาดกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมงต่อครั้ง ทุกอย่างต้องมีมาตรฐานชัดเจนเป็นจุดกึ่งกลางของความพอใจระหว่างบริษัทกับลูกค้า ไม่ใช่ตัดสินด้วยความรู้สึก"
"ชาญ" บอกว่า หลังเปิดตัวระบบนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าฟีดแบ็กดีขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมลูกค้ายังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ ตอนนี้มีลูกค้าที่เป็น หน่วยงานราชการ อาทิ กระทรวงการ ต่างประเทศ ฯลฯ รวมถึงบริษัทใช้วิธีเข้าหาลูกค้าเชิงรุก หลังจากเริ่มเปิดตัวเดือนมีนาคม 2551 ช่วงแรกตั้งเป้ามีลูกค้าประมาณ 10 ราย ปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 12 โครงการ อาทิ อาคารวรรณสรณ์ อาคารของจีอี แคปปิตอล อาคารมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (รังสิต) ฯลฯ ถือว่าเกินเป้า นอกจากนี้มีลูกค้าเก่าในพอร์ตของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ อีก 126 ราย เมื่อหมดสัญญาทัช พร็อพเพอร์ตี้ จะเข้าไปดูแลต่อ
ปีนี้ทัชฯน่ารับรู้รายได้กว่า 10 ล้านบาท ส่วนเน็ตมาร์จิ้นประมาณ 2 หลักต้นๆ ส่วนเป้าหมายปีหน้าคาดหวังมีลูกค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 อาคาร โดยวันที่ 30-31 ตุลาคมนี้ เราจะจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง "ทีเอฟเอ็ม" ที่โรงแรมแกรนด์มิลเลเนียม สุขุมวิท (อโศก) มีวิทยากรหลากหลายมาบรรยาย อาทิ คณะบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรทางด้านนี้ ฯลฯ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-10-2551
|
|
|
|
|
