|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "อิตาเลียนไทย" สยายปีกลงทุน ธุรกิจใหม่จุดพลุรายได้ 1.6 แสนล้าน |
|
ก่อตั้งบริษัทมาครบรอบ 50 ปี ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ "เปรมชัย กรรณสูต" ซีอีโอ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่าก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยเฉพาะการบริหารงานจัดการและการลงทุน ที่จะเน้นการลงทุนในโครงการที่ทำกำไรได้มากๆ พร้อมๆ กับขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว อินเดียมากขึ้น โดยโฟกัสไปที่ธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจด้านพลังงานและเหมืองแร่ ซึ่งจะส่งไปขายยังประเทศจีน อินเดีย ซึ่งที่ผ่านมาทำให้ บริษัทมีรายได้กลับเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ มาร์จิ้นสูงถึง 50-100% ขณะที่งานก่อสร้างอยู่แค่ 6-7%
"เราทำธุรกิจใหม่เพื่อเร่งโปรเจ็กต์ให้เกิด ระหว่างที่ธุรกิจก่อสร้างในประเทศซบเซา งานไม่ค่อยมี ที่สำคัญไม่ให้รายได้หายไป"
วิธีการคือ เข้าไปถือหุ้นในธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตมากขึ้น เป้าหมายเพื่อให้ได้ประโยชน์ในระยะยาว เมื่อโครงการไปได้ดีก็ขายเอาเงินกลับเข้ามา
"อย่างโครงการเขื่อนน้ำเทิน เราขายได้กำไรถึง 10 เท่า จะมีรายได้เข้ามาในปีหน้า ส่วนธุรกิจพลังงานและเหมืองแร่จะเห็นผลในอีก 5 ปีข้างหน้า ถึงวันนั้นรายได้ของบริษัทจะเติบโตขึ้นมาก"
เพื่อรองรับธุรกิจใหม่ "อิตาเลียนไทย" ได้เข้าไปลงทุนในบริษัทสินแร่เมืองไทย ทำธุรกิจลงทุนสำรวจ พัฒนา และดำเนินการเหมืองแร่โปแทช ลงทุนในบริษัทซิโนลาว อาลูมิเนียม คอร์ปอเรชั่น (สลาโก) ในสัดส่วน 33% ทำธุรกิจสำรวจ ขุดค้นปรุงแต่งแร่ Bauxite และถลุงแร่อะลูมิเนียม และบริษัทอุตสาหกรรมหลอมเหล็กลาว ทำธุรกิจสำรวจ พัฒนา และดำเนินการเหมืองแร่เหล็กและถลุงเหล็กในประเทศลาว
ก่อตั้งบริษัท อิตาเลียนไทย พาวเวอร์ จำกัด เมื่อสิงหาคม 2550 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เข้าไปลงทุนในบริษัท เกาะกง พาวเวอร์ จำกัด สัดส่วน 93% ร่วมทุนกับบริษัทแอ็กโก ราชบุรี โดยบริษัทอิตาเลียนไทยถือหุ้น 30% ทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตกระแสไฟฟ้าและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาโรงไฟฟ้าทั้งพลังความร้อนและพลังน้ำ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเกาะกงประเทศกัมพูชา เขื่อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านกุ่มประเทศลาว เป็นต้น โดยการลงทุนแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกลงทุน 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ ใช้เวลา 6 ปี เฟสสองอยู่ระหว่างตัดสินใจ
ผลพวงจากการเข้าไปลงทุนในเกาะกง ทำให้มีข่าวลือสะพัดในวงกว้างว่าเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างอิตาเลียนไทยกับ "ทิกษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ "เปรมชัย" ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
"ผมยืนยันได้ 100% ว่าคุณทักษิณไม่มีส่วนร่วมด้วย แต่เราร่วมทุนกับบริษัท แอ็กโกราชบุรี"
"เปรมชัย" บอกว่า ธุรกิจใหม่ทำให้บริษัทมีงานในมือแน่นอนแล้วในปีนี้ 1.6 แสนล้านบาท และอาจจะถึง 2 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 50 ปี เป็นงานที่เซ็นสัญญาแล้ว 70,987 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา 92,719 ล้านบาท ผลประกอบการไตรมาสแรกก็ น่าพอใจ มีรายได้ถึง 11,547 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 6.9%
สำหรับงานที่ตุนไว้ในมือรอเซ็นสัญญา เช่น โครงการก่อสร้างโรงงานอะลูมิเนียม 36,000 ล้านบาท โครงการขุดและขนถ่านหินเหมือนแม่เมาะเฟส 7 มูลค่า 14,000 ล้านบาท โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินกัลป์กาตาร์ ในอินเดีย 15,357 ล้านบาท เป็นต้น
แม้จะรุกขยายธุรกิจใหม่ แต่ "เปรมชัย" ย้ำว่า ยังเน้นธุรกิจก่อสร้างเป็นธุรกิจหลักเหมือนเดิม และช่วงนี้ตกอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จากภาวะต้นทุนที่พุ่งขึ้น ส่งกระทบต่องานก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ปัญหาจะคลี่คลายลงหากรัฐมีมาตรการออกมาช่วยเหลือโดยเฉพาะค่า K
"ต่อไปงานหลักคือโครงการรถไฟฟ้าที่รัฐจะเปิดประมูล เรามั่นใจว่าจะได้งาน อย่างสายสีม่วงจะร่วมกับรับเหมาญี่ปุ่น คือ บริษัทโอบายาชิ และเนาวรัตน์พัฒนาการ ฯลฯ เพราะโครงการนี้ใช้เงินกู้เจบิก จริงๆ เราทำเองคนเดียวก็ได้ แต่โดยธรรมเนียมต้องร่วมกับญี่ปุ่น เพราะสายต่อไปเจบิกจะได้ปล่อยกู้ให้อีก และจะร่วมกับรับเหมาญี่ปุ่นทุกสายที่ใช้เงินเจบิก"
ส่วนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ แม้เคยมีแผนจะสร้างคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า แต่ต้องชะลอออกไป เพราะสถานการณ์ยังไม่เอื้อ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 07-07-2551
|
|
|
|
|
