Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
กลยุทธ์วิน-วิน "เพอร์เฟค" ดันยอดขายไต่ระดับหมื่นล้าน |
|
นอกจากเดินแผนระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้แปลงสภาพขายแบบเฉพาะเจาะจงให้กับกลุ่ม นักลงทุนต่างชาติกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อนำมาเป็นทุนหมุนเวียนพัฒนาโครงการ รองรับการขยายพอร์ตลงทุนโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 7 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทในปีนี้ และนำไปชำระหนี้บางส่วนแล้ว ปีนี้ "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ภายใต้การนำของ "ชายนิด โง้วศิริมณี" ยังเดินกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าด้วยการ ผนึกกำลังกับ 7 พันธมิตรบุกตลาดต่อเนื่อง หลังจากเคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ช่วงก่อนหน้านี้
โดยชูแคมเปญดอกเบี้ยคงที่ 2% นาน 2 ปี ได้มากกว่าใคร จ่ายน้อยกว่าที่เคย กับ 4 พันธมิตรทางการเงิน ประกอบด้วยธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บวกสิทธิพิเศษในการซื้อเฟอร์นิเจอร์จาก ผู้ประกอบการ 3 แบรนด์ชั้นนำที่ดึงเข้ามาร่วม ได้แก่ โมเดิร์นฟอร์ม, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และ เอส.บี.เฟอร์นิเจอร์
ถือเป็นการดำเนินนโยบายเชิงรุกแบบ "วิน-วิน" ที่ได้ประโยชน์ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนซื้อบ้าน สถาบันการเงิน ค่ายเฟอร์ฯ รวมทั้งเพอร์เฟคเอง
ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวว่า จากนี้ไปภาพการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัทพัฒนาที่ดินกับสถาบันการเงินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจะมีมากขึ้น อย่างเพอร์เฟคต่อไปจะไม่บุกเดี่ยว แต่จะจับมือกับพันธมิตรร่วมทำการตลาดไปพร้อมๆ กัน เป้าหมายก็เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย และได้ประโยชน์สูงสุด
ที่ผ่านมาเพอร์เฟคเคยนำกลยุทธ์ ดังกล่าวมาใช้เป็นระยะๆ ตามแต่จังหวะเวลาและสถานการณ์ตลาดแต่ละช่วง ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายได้ไม่น้อย จากที่จับมือกันชั่วครั้งชั่วคราว ในที่สุดสถาบันการเงิน ค่ายเฟอร์นิเจอร์ กลายเป็นพันธมิตรถาวรเอื้อในการทำ ธุรกิจกันและกัน
ยิ่งตลาดบ้านไม่ค่อยเอื้อจากปัจจัยลบวิกฤตราคาน้ำมัน ภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคมากขึ้นเท่าใด การเลือกทำตลาดด้วยการผนึกกำลังกับมิตรร่วมค้า แทนที่จะบุกเดี่ยว ก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น และทั้งหมดนี้คือแผนรุกที่เพอร์เฟคกำลังก้าวไปด้วยความ มั่นใจ โดยมีพันธมิตรร่วมเดินเคียงข้าง
นอกจากกลยุทธ์การเงิน กลยุทธ์ตลาดแล้ว การพัฒนาโปรดักต์ให้สอดรับกับ กำลังซื้อ และการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการในเรื่องของการก่อสร้าง เป็นอีก สิ่งหนึ่งที่เพอร์เฟคดำเนินการต่อเนื่อง เช่นเดียวกัน ทั้งในแง่ของรูปแบบ และการปูพรมเจาะตลาดทุกเซ็กเมนต์ ไม่แปลกที่ 2-3 ปีที่ผ่านมา เพอร์เฟคบุกตลาด คอนโดฯ, ทาวน์เฮาส์ ควบคู่ไปกับบ้านเดี่ยวที่เป็นสินค้าหลัก
"ที่ผ่านมาสิ่งที่เราพยายามทำคือ การจับตลาดให้ถูกกับกำลังซื้อที่มีอยู่ จากเดิมที่ทำสินค้าราคา 5 ล้านบาทอัพ ก็หันมาผลิตสินค้าราคา 1-5 ล้านบาทด้วย เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ทั่วถึง เพราะถ้าทำแต่บ้านเดี่ยวเพียงอย่างเดียว จะทำให้ยอดขายในแต่ละปีอยู่ที่ ระดับ 4,000-5,000 ล้านบาทเท่านั้น" ดร.ธีระชนกล่าว
จากนี้ไปจะได้เห็นเพอร์เฟครุกมาบุกตลาดคอนโดฯใกล้แนวรถไฟฟ้ามากขึ้น เพราะที่ดินในมืออยู่ในแนวรถไฟฟ้าจำนวนมาก เช่น ย่านสุวรรณภูมิ 600 ไร่ อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสถานีที่ 8, 9, 10 ขณะที่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีที่ดินถึง 1,000 ไร่ ทั้งหมดนี้สามารถหยิบมาพัฒนาได้ทันทีเกือบร้อยไร่ ที่เหลือสามารถทยอยนำมาพัฒนาได้ในอนาคต
"สำหรับทาวน์เฮาส์และบ้านแฝด เราจะนำระบบพรีแฟบเข้ามาสู่กระบวนการผลิตด้วย จากเดิมที่ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 8 เดือน ก็จะลดลงเหลือเพียง 4 เดือน จะทำให้รอบการหมุนงานก่อสร้างและ การขายเร็วขึ้น"
ดร.ธีระชนมองว่าปีนี้น่าจะเป็นปีทองของโครงการแนวราบ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์และบ้านแฝด เพราะแค่ยอดขายไตรมาสแรกปีนี้ เพอร์เฟคก็กวาดยอดขายได้แล้วกว่า 900 ล้านบาท สูงกว่ายอดขายทาวน์เฮาส์และบ้านแฝดทั้งปีในปี 2550 ที่ทำได้ 415 ล้านบาทถึงเท่าตัว
ส่งผลให้ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสที่ 1/51 ค่อนข้างพอใจ มีรายได้จากการขายสูงถึง 2,037 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,60.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 108.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550 แยกเป็นรายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดิน 721.8 ล้านบาท, อาคารชุด 349.4 ล้านบาท และเป็นรายได้จากการขายให้โครงการให้กับ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 500 ล้านบาท
มีกำไรขั้นต้นที่ 540 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 273 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 97.8% เป็นกำไรจากการขายบ้านพร้อมที่ดิน 374 ล้านบาท อีก 166 ล้านบาท มาจากการขาย อาคารชุด กำไรสุทธิ 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 5.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2,577.97%
ถือเป็นการออกสตาร์ตได้อย่างสวยงาม ส่วนจะผลักดันยอดขายไปถึง 10,000 ล้านบาท ตามที่วางเป้าไว้ เพื่อไต่อันดับสู่ ท็อปทรี ท็อปไฟฟ์ ในวงการอสังหาฯได้หรือไม่ จับตาดูสเต็ปต่อไป |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-06-2551
|
|
|
|
|