|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ลุ้นประมูลสายสีแดง "ล้ม-ไม่ล้ม" "ยูนิค-ซินเทค" อุบไต๋รอ ร.ฟ.ท.ชี้ขาด |
|
เริ่มออกสตาร์ตเปิดประมูลเป็น สายแรกตั้งแต่ปลายปี 2550 สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร ราคากลาง 8,784 ล้านบาท แต่ผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว ทุกอย่างยังย่ำอยู่กับที่
สาเหตุมาจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยังไม่ตัดสินผลการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (พีคิว) ของผู้รับเหมา 2 กลุ่มที่ยื่นประมูล คือ กลุ่มกิจการร่วมค้ายูนิค-ชุนวู จอยต์เวนเจอร์ (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กับบริษัท Chun Wo Construction&Engineering) และ กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสทีซีซี จอยต์เวนเจอร์ (บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ทิพากร จำกัด และบริษัทไชน่าสเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริง คอร์เปอเรชั่น)
เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประกวดราคาที่ "นคร จันทรศร" รองผู้ว่าการและรักษาการ ร.ฟ.ท. เป็นประธาน ว่าจะไฟเขียวให้กลุ่มไหนผ่านไปถึงขั้นเปิดซองราคา
อย่างไรก็ตาม แม้คณะกรรมการชุดนี้ ยังไม่ฟันธง แต่ทราบกันภายในว่ากลุ่มยูนิคฯลอยลำ เนื่องจากซินเทคฯพลาดเรื่องความถูกต้องของเอกสารแปลด้านผลงานของบริษัทไชน่าฯ ซึ่งประเด็นนี้กลายเป็นที่มาของความล่าช้า เพราะคณะกรรมการเสียงแตก ไม่กล้าชี้ขาดว่าจะตัดสิทธิ์กลุ่ม ซินเทคฯอย่างไรไม่ให้ถูกฟ้องร้องภายหลัง
ปรับตก "ซินเทคฯ"
แต่ล่าสุด ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการมีมติปรับกลุ่มซินเทคฯตก พร้อมทั้งหาทางออกด้วยการให้ทาง ร.ฟ.ท.ทำหนังสือแจ้งสาเหตุ และให้อุทธรณ์ภายใน 3 วัน หากไม่ยื่นอุทธรณ์จะเปิดซองราคาของ กลุ่มยูนิคฯทันที
"สาเหตุที่คณะกรรมการไม่กล้าตัดสินใจและมีมติออกมาแบบนี้ เพราะกลัวกลุ่มยูนิคฯฟ้องร้อง ถ้ายังให้กลุ่มซินเทคฯผ่าน เพราะเห็นอยู่ว่าคุณสมบัติไม่ได้ และมีข่าวออกมาแล้ว บางกระแสก็บอกว่างานนี้ ล็อกไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นยูนิคฯ เพราะ มีใบสั่ง ซึ่งจริงไม่จริงไม่มีใครกล้ายืนยัน แต่เป็นธรรมดาเพราะงานนี้เป็นงานใหญ่มูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท ผลประโยชน์เยอะ" แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าว
นอกจากนี้ก่อนมีการประมูลก็มีข่าวว่ากลุ่มรับเหมาขาใหญ่รวมตัวกันแบ่งเค้กไว้ล่วงหน้าให้กับกลุ่มซินเทคฯแล้ว ด้วย เงื่อนไขที่พิสดารที่ให้ผู้รับเหมารื้อย้ายชุมชนที่บุกรุกที่ดินของการรถไฟฯเอง ทำให้ รับเหมารายอื่นๆ รับไม่ได้
"ยูนิคฯ" ได้บิ๊กกระทรวงหูกวางหนุน
แต่กลุ่มยูนิคฯกลับมาแหกโผเข้าร่วมยื่นซองด้วย ทำให้สถานการณ์เปลี่ยน ที่สำคัญกลุ่มซินเทคฯเองพลาดเรื่องเอกสารของ ผู้ร่วมทุนจากจีน จึงเข้าล็อกกลุ่มยูนิคฯ ไม่แปลกที่ยูนิคฯเดินเกมเพื่อให้ได้งานนี้เต็มที่ โดยอาศัยคอนเน็กชั่นระดับบิ๊กในกระทรวงหูกวาง ทั้งฝ่ายการเมือง และข้าราชการประจำ ซึ่งน่าจะได้ผล แม้ฟากซินเทคฯพยายามใช้กำลังภายในช่วงชิงเพื่อไม่ให้ ถูกปัดตก แต่ดูจะไม่เป็นผล
ขณะที่ ร.ฟ.ท.ต้องตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องเล่นบทตามน้ำเพื่อให้ทุกอย่างจบ เพราะถ้ายืดเยื้อออกไปคงไม่เป็นผลดี เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้าง สะวิงขึ้นตลอดเวลา ถ้าล้มประมูลและเปิดประมูลใหม่ อาจถูกยูนิคฯฟ้องได้ แถมยังเสียเวลา และคงต้องปรับราคากลางเพิ่มขึ้น
สู้เดินหน้าต่อให้จบกระบวนการ โดย คัดเลือกเหลือรายเดียว แล้วเปิดซองราคา ที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้ราคาถูกแล้ว ยังเป็นไปตามเงื่อนไข กฎเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียวไว้แล้ว
"รมว.คมนาคม สันติ พร้อมพัฒน์ จึงเร่งรัดให้เปิดซองราคาโดยเร็ว และบอร์ด ร.ฟ.ท.ก็สั่งให้นำผลสรุปเสนอในการประชุมครั้งหน้า" แหล่งข่าวกล่าว
เหลือแค่ว่าบอร์ด ร.ฟ.ท.จะรับลูกยังไง หลังคมนาคมไฟเขียวล่วงหน้าแล้ว
"ซินเทคฯ-ยูนิคฯ" ลุ้นระทึก
"สมชาย ศิริเลิศพาณิชย์" กรรมการ ผู้จัดการ บมจ.ซินเทค คอนสตรัคชั่น กล่าวว่า ตอนนี้ยังให้รายละเอียดเรื่องนี้ ไม่ได้ เพราะ ร.ฟ.ท.ยังไม่ได้ส่งผลการ ติดสินมาให้ แค่ทราบจากข่าวทางหน้า หนังสือพิมพ์ ต้องดูก่อนว่าบริษัทถูกปัดตกด้วยเรื่องอะไร
"ถ้าหากถูกปัดตก ก็จะต้องคุยกับผู้ร่วมทุนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะงานนี้เราคาดหวังว่าจะได้งาน"
ด้าน "นที พานิชชีวะ" ซีอีโอ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น กล่าวว่า กำลังรอผลการพิจารณาของ ร.ฟ.ท.เช่นกัน เพราะเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว หากผลออกมาผ่านคุณสมบัติทั้ง 2 ราย ทั้งที่อีกกลุ่มคุณสมบัติไม่ถึง คงต้องหารือผู้ร่วมทุนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
"ตอนนี้เราพร้อมลุยงานแล้ว แม้ราคาวัสดุก่อสร้างจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ไม่น่าห่วง เราบริหารส่วนนี้ได้ คิดเผื่อไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว การรื้อย้ายก็มั่นใจ ขอแค่ให้ได้งานก็พอ ทุกอย่างไม่มีปัญหา" "นที" กล่าว
เรียกได้ว่างานนี้พลาดแค่นิดเดียว ร.ฟ.ท.ก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-05-2551
|
|
|
|
|
