Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ธันวาคมเปิดใช้ "รามอินทรา-วงแหวน" ด่วนสายใหม่บูมกรุงเทพฯโซนเหนือ |
|
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า กรุงเทพฯโซนเหนือจะมีทางด่วนสายใหม่เปิดใช้บริการเพิ่มอีกหนึ่งเส้นทาง และด่วนสายใหม่ "ทางด่วนรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก" ก็น่าจะช่วยให้การเดินทางมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กำลังเร่งมือก่อสร้างโครงการนี้ ซึ่งตลอดทั้งสายมีความยาว 9.5 กิโลเมตร ก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร
แนวสายทางเริ่มต้นที่จุดสิ้นสุดโครงการทางพิเศษฉลองรัช บริเวณถนนรามอินทรา กิโลเมตร 5.5 แล้วมุ่งไปทางทิศเหนือ ยกระดับข้ามถนนเชื่อมต่อถนนรัตนโกสินทร์-ถนนนิมิตรใหม่ แล้วเบนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ยกระดับ ข้ามถนน ก.ม. 11 ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และไปสิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก บริเวณทิศใต้ทางแยกต่างระดับลำลูกกา
ตลอดแนวสายทางมีทางต่างระดับ 3 แห่ง คือ ทางแยกต่างระดับรามอินทรา ทางแยกต่างระดับถนน ก.ม. 11 และทางแยกต่างระดับถนนวงแหวนรอบนอก มีด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ 4 แห่ง เป็นด่านเก็บค่าผ่านทางขาเข้าเมือง 2 แห่ง คือ ด่านเก็บค่าผ่านทางวงแหวนรอบนอก และ ก.ม. 11 ด่านเก็บค่าผ่านทางขาออกเมือง 2 แห่ง คือ ด่านเก็บค่าผ่านทางรามอินทรา และ ก.ม. 11
โครงการนี้ กทพ.เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 แบ่งการก่อสร้างเป็น 4 สัญญา วงเงิน 5,879 กว่าล้านบาท เป็นงานโครงสร้าง 3 สัญญา ระยะเวลาดำเนินการ 660 วัน ส่วนอีก 1 สัญญาเป็นงานติดตั้งระบบเก็บเงิน
ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 1,768 ล้านบาท มีความคืบหน้า 56.04% สัญญาที่ 2 บริษัทยูนิคฯเป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 1,839 ล้านบาท งานคืบหน้า 57.05% สัญญาที่ 3 บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด เป็น ผู้ก่อสร้าง วงเงิน 1,998 กว่าล้านบาท คืบหน้า 59.05% ส่วนสัญญาที่ 4 งานติดตั้งระบบเก็บเงิน กลุ่มผู้ค้าซีเมนส์ เป็นผู้ติดตั้ง วงเงิน 274 กว่าล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยรวมมีความคืบหน้า 60%
สาเหตุที่ กทพ.กำลังเร่งมือก่อสร้าง เนื่องจากต้องการจะเปิดใช้เส้นทางเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม 1 เดือน ตั้งเป้าเปิดใช้วันที่ 5 ธันวาคม 2551 นี้ จากแผนเดิมจะแล้วเสร็จเดือนมกราคม 2552
แม้ปัจจุบันราคาเหล็กและน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ กทพ.ยืนยันไม่มีผลกระทบต่อโครงการ ส่วนการเก็บค่าผ่านทาง แรกเข้าเก็บ 20 บาท จากนั้นเก็บกิโลเมตรละ 1 บาท เหมือนกับทางด่วนบางนา-ชลบุรี
เมื่อทางด่วนสายนี้เปิดให้บริการ จะช่วยขยายขอบข่ายการให้บริการของทางพิเศษฉลองรัช หรือรามอินทรา-อาจณรงค์ ทางด้านเหนือของกรุงเทพฯ ที่บริเวณถนนรามอินทรา ให้เชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอบนอกของกรมทางหลวง เพิ่มเส้นทางการเดินทางไปสู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ และเชื่อมโยงกับพื้นที่รอบนอกได้มากขึ้น
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-05-2551
|
|
|
|
|