Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"SCG"ฟันธงตลาดปูนไร้ปัจจัยบวก ประมูลรถไฟฟ้ายืดเยื้อผู้ประกอบการต้องพึ่งตนเอง |
|
"SCG" ฟันธงยังไม่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ-เมกะโปรเจ็กต์ ตลาดปูนซีเมนต์ปีนี้ยังต้องพึ่งตัวเอง ชี้แม้เปิดประมูลรถไฟฟ้าบางสายทันภายในปีนี้ แต่ยังไม่ส่งผลให้ความต้องการใช้ปูนเพิ่มขึ้น ส่วน "แกรนด์โฮมมาร์ท" เอเย่นต์ระเบื้อง-สุขภัณฑ์รายใหญ่ ประเมินตลาดวัสดุปีนี้ยังซบเซา เผยผู้ประกอบการใช้วิธีแบ่งเฟสเปิดขายบ้านช่วยลดความเสี่ยง
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้โครงการเมกะ โปรเจ็กต์รถไฟฟ้าใหม่ตามนโยบายรัฐบาลจะเริ่มเปิดประมูลงานก่อสร้างบางสายทางได้ภายในปีนี้ แต่คงยังไม่ส่งผลต่อปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในทันที น่าจะส่งผลดีตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าที่มีการปรับใหม่เหลือ 7 เส้นทางนั้น ยังไม่ได้ประเมินว่าจะคิดเป็นปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เท่าใด เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยน เส้นทางใหม่ อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่รัฐบาลเคยประกาศนโยบายก่อสร้าง รถไฟฟ้า 10 สายทาง บริษัทเคยประมาณการว่าจะคิดเป็นความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ประมาณ 8-10 ล้านตัน
"ธุรกิจปูนซีเมนต์ปีนี้คงต้องพึ่งตัวเองไปก่อน ส่วนการปรับขึ้นราคาปูนซีเมนต์หรือวัสดุก่อสร้างในช่วงนี้คงค่อนข้างลำบาก แม้ว่าที่ผ่านมามีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันก็ตาม"
นายกานต์กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลดภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นเวลา 1 ปีนั้น เชื่อว่าจะส่งผลดีกับธุรกิจอสังหาฯ ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดวัสดุก่อสร้างได้ในระดับหนึ่ง
นางมาลี ทยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายโครงการ บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ทกรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารศูนย์จำหน่ายกระเบื้อง สุขภัณฑ์รายใหญ่ภายใต้ชื่อ "แกรนด์โฮม มาร์ท" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อกับตลาดวัสดุก่อสร้างอย่างชัดเจน แม้ว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) จะมีความคืบหน้าไปมาก เหลือเพียงรอการเปิดประมูลงานก่อสร้าง แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้เกิดการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นมากนัก ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างการ ซื้อขายวัสดุก่อสร้างก็คงจะไม่คึกคักขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้
โดยปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในย่านบางใหญ่ บางบัวทอง ไม่ได้เปิดตัวคึกคักมาก เท่าที่ทราบจากผู้ประกอบการที่เปิดขายโครงการอยู่ ส่วนใหญ่ใช้วิธีแบ่งโครงการที่เปิดขายเป็นเฟสๆ โดยแต่ละเฟสมีบ้านที่สร้างจำนวนไม่มากเพื่อลดความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ หันมาใช้วัสดุก่อสร้างและตกแต่งนำเข้าจากประเทศจีนเพื่อช่วยลดต้นทุน จากเดิมที่มีเฉพาะวัสดุในกลุ่มกระเบื้องปูพื้นและไม้ปูพื้นลามิเนต เริ่มมีวัสดุในกลุ่มประตูพีวีซีนำเข้าจากจีนเข้ามาแล้ว
เพราะถึงแม้ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง มี บางรายเริ่มตัดสินใจกลับมาลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่กันอีกครั้งเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง ทำให้วิธีขยายการลงทุนยังเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีใครกล้าโหมเปิดตัวโครงการอย่างเต็มที่
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-04-2551
|
|
|
|
|