Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"สมัคร 1" กางโรดแมปปลุกอสังหาฯ "หมอเลี้ยบ" ตัวช่วย "บ้าน-คอนโดฯ" |
|
นอกจากจะเดินหน้าผลักดันโครงการรถไฟฟ้า 9 สาย มูลค่าลงทุน 7.7 แสนล้านบาทแล้ว รัฐบาล "สมัคร 1" ยังปัดฝุ่นมาตรการลดภาษี ค่าโอน และค่าจดจำนองมาใช้อีกครั้ง ให้เป็น "ตัวช่วย" ในการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา
ไม่เพียงเท่านั้น น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังโปรยยาหอมว่ามาตรการที่ออกมาเป็นแค่ "น้ำจิ้ม" เพราะเวลานี้กำลังเตรียมเข็นมาตรการลอตใหม่ออกมาอีกหลายระลอกเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคทุกกลุ่ม
หลังก่อนหน้านี้มอบนโยบายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท/เดือน ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 6 แสนบาท 2 รูปแบบ คือดอกเบี้ยคงที่ 7 ปี 4% จากนั้น MRR -0.5% และดอกเบี้ยคงที่ 10 ปี 4.5% จากนั้น MRR -0.5% ตลอดสัญญากู้
ส่งผลเชิงบวกไม่น้อยในแง่ "มู้ด" ของผู้บริโภคและการลงทุนของผู้ประกอบการ เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการ ดังกล่าวแบบเต็มๆ เห็นได้จากแค่มาตรการกระตุ้นลอตแรกออกมา ดีเวลอปเปอร์ ทั้งบิ๊กแบรนด์และระดับเอสเอ็มอีต่างขานรับ ขยับออกแคมเปญต่อยอด ปลุกกำลังซื้อทันที
ประเดิมในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 18 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ที่มียอดขาย ในงานกว่า 3 พันล้านบาท ไม่รวมกับที่จะตามมาหลังงานอีกไม่น้อยกว่า 3 พันล้านบาท โดยมียอดผู้เข้าเยี่ยมชมงานถึง 1.2 แสนคน วัดกำลังซื้อได้เป็นอย่างดีว่าเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้ว
"มานพ เขียวชะอุ่ม" ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด บอกว่า ที่อยู่อาศัยที่ผู้บริโภคซื้อในงานระหว่างแนวราบและสูงมีสัดส่วนไล่เลี่ยกัน จากการจัดงานครั้งที่ผ่านมาคอนโดฯในเมืองจะมียอดขายสูงกว่าบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ โดยเฉพาะคอนโดฯในเมืองท่องเที่ยว ยอดขายเติบโตอย่างมาก ส่วนระดับราคา ที่มีการซื้อขายสูงสุดคือ 1-4 ล้านบาท มีมากถึง 70% ที่เหลือ 30% เป็นกลุ่มราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป
แสดงว่าเวลานี้ดีมานด์เริ่มฟื้นตัวในระดับที่ดีขึ้นแล้ว และเชื่อว่าหลังจากมาตรการ ลดภาษีและค่าโอนมีผลบังคับใช้ประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ อุณหภูมิการแข่งขันแย่งเค้กในตลาดบ้านจะดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะการออกแคมเปญดูดกำลังซื้อ
"กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา" กรรมการผู้จัดการ บมจ.สัมมากร เปิดเผยว่า บริษัทกำลังจัดแคมเปญลอนช์บ้านใหม่ในโครงการสัมมากร ทำเลรามคำแหง โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ซึ่งน่าจะรับกับมาตรการลดภาษีและค่าโอนพอดี และทราบว่าอีกหลายๆ ค่ายก็กำลังเตรียมออกแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อ เช่นเดียวกัน
ด้านสถาบันการเงินก็ไม่น้อยหน้า ลอนช์แพ็กเกจการเงินออกมารับกันอุตลุด ที่เด่นชัดสุดนอกจาก ธอส.แล้ว แบงก์ใหญ่หลายแบงก์ก็แข่งกันเสนอเงื่อนไขพิเศษปล่อยกู้ลูกค้า อาทิ แบงก์กสิกรไทย แบงก์กรุงเทพ แบงก์ไทยพาณิชย์แบงก์กรุงไทย ฯลฯ
"ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจแคมเปญใหม่รับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ พบว่า ดีเวลอปเปอร์ส่วนใหญ่ผนวกมาตรการ ลดภาษี ค่าโอน ค่าจดจำนอง มาเป็นกิมมิกในการทำตลาด เสริมแคมเปญทางการเงินรูปแบบอื่นๆ ที่จับมือร่วมกับสถาบันการเงิน หรือโปรโมชั่นการตลาดที่ทำอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะออกแคมเปญ ใหม่ๆ ตามมาต่อเนื่องอีก หลังมาตรการ มีผลบังคับใช้ อาทิ ค่ายศุภาลัยออกแคมเปญดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ฟรีค่าธรรมเนียมโอน และจะทยอยออกแคมเปญใหม่เร่งปั๊มยอดขายให้ทันกับมาตรการที่มีระยะเวลาแค่ 1 ปี
"มู้ดของกำลังซื้อตอนนี้ดีมากๆ เพราะผู้บริโภคเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากที่มีมาตรการกระตุ้นนี้ออกมา และเชื่อว่าจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ" อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทยให้ความเห็นกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
ส่วน ค่ายเฉลิมนคร เจ้าของโครงการบ้านสถาพร ย่านรังสิต คลอง 3 ใช้ แคมเปญบ้าน 3 คุณค่า พร้อมโอนในทำเลที่เด่น ฟรีค่าธรรมเนียมโอน, ค่ายซื่อตรงออกแคมเปญฟรีค่าธรรมเนียมโอนฟรีดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี โดยบริษัท จะแบกรับภาระดอกเบี้ยแทนลูกค้าที่ยื่นกู้ กับทุกสถาบันการเงิน
เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอน และเปิดตัวบ้านซีรีส์ใหม่ พร้อมสระว่ายน้ำสำเร็จรูปขนาด 8 เมตร ริมสนามกอล์ฟ ในโครงการธัญธานีโฮมออน กรีน ลำลูกกา คลอง 5 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาด
"ตอนนี้เราได้เตรียมแคมเปญใหม่ๆ ไว้แล้ว เร็วๆ นี้คงลอนช์ออกมาให้ทันกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ" สมนึก ตันฑเทอดธรรม รองเอ็มดี เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง กล่าว
ส่วน พฤกษา เรียลเอสเตท สวมบท เสือปืนไวปรับกลยุทธ์การตลาดและการขายรองรับมาตรการ โดยเร่งเปิดขายโครงการทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวให้ทันโอนภายในสิ้นปีนี้ และเร่งเปิดขายโครงการทั้งหมดที่ประกาศไปแล้วภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
ต้องลุ้นว่า "หมัดเด็ด" ด้านการตลาดของผู้ประกอบการจะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อได้เหมือนกับที่คาดหวังเอาไว้หรือไม่ เพราะเที่ยวนี้ได้ รมว.คลัง ถึงกับลงทุนเป็น "ตัวช่วย" อสังหาฯ แบบสุดตัว
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 31-03-2551
|
|
|
|
|