| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 98 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 31-03-2551    อ่าน 11424
 สัมมนา ดัชนีชี้เศรษฐกิจปี"51

รายงาน


งานสัมมนาใหญ่ประจำปี 2551 ของ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ "อสังหาฯ ดัชนีหลัก ชี้เศรษฐกิจ ปี 2008" น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งปาฐกถาพิเศษ เรื่องนโยบายของภาครัฐกับธุรกิจอสังหาฯ ตบท้ายด้วยการอภิปรายทิศทางตลาดเงินตลาดทุน ปี 2551 โดย นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และ นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)

รัฐเตรียมอัดฉีดรอบสอง

น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า อสังหาฯและ ภาคก่อสร้างเป็นภาคธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เห็นได้จากมีสัดส่วนสูงถึง 3.9% และ 2.4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) มูลค่า 264,035 ล้านบาท และถ้านับรวม linkage ทั้งหมดแล้วน่าจะเกินกว่า 20% ของจีดีพี รัฐจึงเล็งเห็นว่าถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตก็ต้องสนับสนุนภาคอสังหาฯเป็นลำดับแรกๆ

รัฐบาลชุดนี้จึงได้ออกมาตรการลดภาษีและค่าโอน เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งให้ ธอส.เตรียมวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำผู้มีรายได้น้อยหรือต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน เพื่อซื้อบ้านวงเงินไม่เกิน 6 แสนบาท ซึ่งน่าจะทำให้อสังหาฯกลับมาคึกคักมากขึ้น



นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังอยู่ระหว่างหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่จะเป็นมาตรการกระตุ้นในระดับยุทธศาสตร์ ระดับภาพรวม เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาอสังหาฯ รวมทั้งจะได้เห็นบรรยากาศการก่อสร้างรถไฟสายต่างๆ ทุกทิศในช่วงจากนี้ไป ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาดอีกทางหนึ่ง

โฟกัสปัจจัยบวก-ลบ

นายขรรค์กล่าวว่า จากปีที่ผ่านมา ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง ปีนี้จากที่รัฐออกมาตรการหลายอย่างมากระตุ้น คาดว่าจะทำให้ตลาดขยายตัวอย่างน้อย 5% แม้จะมีปัญหาต้นทุนวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยมีปัจจัยบวก คือการมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง โครงการเมกะโปรเจ็กต์ ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง และการแข่งขันปล่อยสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงิน

จากปี 2549 ตัวเลขบ้านจดทะเบียนใหม่มี 7.4 หมื่นหน่วย ปี 2550 ต่ำกว่า 7.4 หมื่นหน่วยเล็กน้อย โดยบ้านเดี่ยวและ ทาวน์เฮาส์มีน้อยลง คอนโดฯขยายตัว เพิ่มขึ้น โดยบ้าน-คอนโดฯ 1-3 ล้านบาท มีปริมาณมากที่สุด

ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัยปี 2550 ตลาดโตขึ้น 2.8% เป็น 2.7 แสนกว่าล้านบาท เทียบกับปี 2549 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยแบงก์พาณิชย์มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 59% ส่วน ธอส.ส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 40% เหลือกว่า 30% สินเชื่อคงค้างเพิ่ม 9.9% จาก 1.3 ล้านล้านบาท เป็น 1.4 ล้านล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 5-10% โดย ธอส.จะมีส่วนแบ่งตลาด 39.5% และแบงก์พาณิชย์ 52.1%



ในภาพรวมการแข่งขันในตลาดสินเชื่อบ้านจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากแบงก์ขนาดใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการปล่อยกู้ซื้อบ้าน สำหรับเป้าปล่อยสินเชื่อของ ธอส.ปีนี้อยู่ที่ 95,000 ล้านบาท

คนแห่แย่งเค้กอสังหาฯ

ขณะที่นายธวัชไชยมองว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ รวมทั้งตลาดเงินและตลาดทุนเวลานี้ ต่างจากช่วงก่อนปี 2540 ที่เคยมีสถาบันการเงินจำนวนมาก และมีการ แข่งขันปล่อยสินเชื่ออสังหาฯ จนทำให้เกิดปัญหาฟองสบู่ แต่ปัจจุบันแบงก์ที่ปล่อย สินเชื่อโครงการมีเพียงแค่ 5-6 แห่งเท่านั้น ดังนั้นฟองสบู่คงไม่เกิด หรือเกิดยาก

แต่ลาดบ้านช่วงนี้เกิดอาการ cost push คือต้นทุนเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ปกติจะเป็น demand pull แต่ตอนนี้ถูกช็อกด้วยราคาน้ำมัน ซึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2520-2522 ในสหรัฐมาแล้ว สิ่งที่สังเกตเห็นคือคนมี เงินฝากตั้งแต่ตัวเลข 9 หลักขึ้นไปจะ เดือดร้อน เพราะปัจุจบันดอกเบี้ยติดลบ เงินเฟ้อสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก 2% ขณะที่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯก็ค่อนข้างซบเซา

คนเลยหันมาลงทุนอสังหาฯ เพราะคนมีเงินจะซื้อที่ดินเพื่อลงทุน แย่งเค้ก ก้อนเดียวกัน ราคาอสังหาฯจึงปรับขึ้นมาก ตัวอย่างคือตอนนี้ที่ดินบนถนนสุขุมวิทตลอดทั้งสายไปถึงบางปูราคาปรับตัวสูงค่อนข้างมาก รวมทั้งเมืองท่องเที่ยวอย่างหัวหิน ภูเก็ต พัทยา ชลบุรี ด้วย หลายทำเลต้องพัฒนาเป็นคอนโดฯ ไม่สามารถทำบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ได้อีก ผู้ประกอบการถูกบีบให้ทำคอนโดฯ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คอนโดฯกินสัดส่วนค่อนข้างมาก

ในส่วนของธนาคารเกียรตินาคิน จากที่ปล่อยสินเชื่อโครงการอสังหาฯมานานจึงต้องหาทางออก อย่างปีนี้จะไม่เร่งปล่อยสินเชื่อมากนัก แต่จะให้บริการกับฐานลูกค้าเดิม ทำลักษณะส่วนต่อขยาย มากกว่า เพราะลดความเสี่ยงเรื่องการตลาด ลดความเสี่ยงเรื่องดอกเบี้ยลดความเสี่ยงโอกาสผิดพลาด เพราะพิสูจน์มาแล้วจากโครงการที่ทำจบไป หรือจากโครงการในทำเลใกล้เคียงกัน

นอกจากนี้จะเน้นโครงการขนาดเล็กลง ประเภทติดถนนใหญ่ ถนนเพิ่งตัดใหม่ จะให้ลูกค้าหลีกเลี่ยง เพราะรายใหญ่จับจองไปหมดแล้ว ถ้าจะเลี่ยงการแข่งขันตรง ก็ต้องให้เข้าซอยไปสัก 1 กิโลเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับรายใหญ่ อีกธุรกิจที่ทำคือ "รีไฟแนนซ์" บางโครงการปลอดหนี้แต่เหลือบ้าน 30-40 หลัง ไม่อยากจบเร็ว รอราคา ก็มาหาเรา ยืดเวลาออกไป ระยะเวลาผ่อนชำระสัก 6-10 ปี

ในส่วนของผู้ประกอบการปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ชะลอความเสี่ยงเหมือนกัน จะไม่มีแลนด์แบงก์เก็บไว้ในมือ แต่รอดูทีท่า รอดูจังหวะและสต๊อกบ้าน
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 31-03-2551 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.