Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ทาวน์เฮาส์ Flexible Options ลูกเล่นใหม่ พลัสพร็อพเพอร์ตี้ |
|
หลังจากเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาที่ดินรายแรกๆ ที่เข้ามารุกตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางตามแนวรถไฟฟ้าเมื่อหลาย ปีก่อน ล่าสุด "พลัส พร็อพเพอร์ตี้" ในเครือ "แสนสิริ" ได้ลอนช์ลูกเล่นใหม่ "Flexible Options" ทาวน์เฮาส์ที่ให้ลูกค้าเลือกฟังก์ชันภายในได้หลากหลาย กลยุทธ์สำคัญที่จะใช้ผลักดันยอดขายของพลัสฯ ในปีนี้
โดยวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 11 โครงการ แยกเป็นทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ และคอนโดฯ 5 โครงการ รวมมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมาเปิดตัวทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ ดังนั้น จึงต้องงัดกลยุทธ์ใหม่สร้างความแตกต่าง
"เหตุผลที่เราวางแผนเพิ่มน้ำหนักโครงการทาวน์เฮาส์มากขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าดีมานด์ในตลาดคอนโดฯไม่มี แต่เป็นเพราะที่ดินในเมืองมีราคาแพง การพัฒนาคอนโดฯ ระดับกลางจึงยากขึ้น" ดุษฎี ตันเจริญ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดของ "พลัส พร็อพเพอร์ตี้" ให้รายละเอียดถึงแผนธุรกิจปี 2551
สำหรับการหยิบลูกเล่น flexible options มาใช้ในโครงการทาวน์เฮาส์ที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้ พลัสฯ มั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงความต้องการลูกค้าแต่ละรายได้ดีขึ้น แบบที่เรียกว่า mass customization
คล้ายๆ กับที่ "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" หยิบลูกเล่นนี้มาใช้ในโครงการบ้านเดี่ยว ผ่านโปรแกรม perfect customization ให้เจ้าของบ้านสามารถเลือกผสมผสานแบบบ้าน สี ดีไซน์สวน จำนวนห้อง จากแบบมาตรฐานที่ดีไซน์ไว้ได้ตามก่อนหน้านี้
วิธีการคือในการเปิดขายโครงการในช่วงแรกๆ พลัสฯ จะให้สิทธิ์ลูกค้าที่จองบ้านก่อนสามารถเลือกฟังก์ชันได้หลากหลายรูปแบบ จากเดิมที่ทาวน์เฮาส์จะมีแบบตายตัว เช่น 2 ห้องนอน 2 ห้องนอน ฯลฯ
แต่ของใหม่จะมีให้เลือกถึง 7 แบบ แยกเป็นกลุ่มทาวน์เฮาส์เล่นระดับมี 3 แบบคือ 1) แบบฟังก์ชันครบ คือชั้น 1 มีห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร และครัว ห้องน้ำ ชั้น 2 มีห้องนอนใหญ่ และห้องนั่งเล่นแบบเพดานสูง ส่วนชั้น 3 มีห้องนอน 2 ห้อง
2) แบบมาสเตอร์สวีต ปรับเปลี่ยน ชั้น 3 เป็นห้องนอนใหญ่ทั้งชั้นพร้อม walk-in closet (ตู้เสื้อผ้า) และ 3) แบบการ์เด้น สวีต ปรับเปลี่ยนชั้น 3 เป็นห้องนอนใหญ่ พร้อม walk-in closet และสวนกว้าง
ส่วนกลุ่มทาวน์เฮาส์แบบไม่เล่นระดับมี 4 แบบคือ 1) แบบฟังก์ชันครบ คือชั้น 1 มีห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหารห้องครัว ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ชั้น 2 มีห้องนอนใหญ่ และห้องนั่งเล่น ชั้น 3 มีห้องนอน 2 ห้อง
2) แบบมาสเตอร์สวีต ปรับชั้น 2 เป็นห้องนอนใหญ่ทั้งชั้นพร้อม walk-in closet ส่วนชั้น 3 มีห้องนอน 2 ห้อง
3) แบบดับเบิลมาสเตอร์ สวีต ปรับ ชั้น 2 และชั้น 3 เป็นห้องนอนใหญ่ทั้งชั้นพร้อม walk-in closet
และ 4) แบบการ์เด้นและมาสเตอร์สวีต ปรับชั้น 2 เป็นห้องนอนใหญ่ทั้งชั้นพร้อม walk-in closet ส่วนชั้น 3 ปรับเป็น ห้องนอนใหญ่ พร้อม walk-in closetและสวนกว้าง
โดยจะนำร่องใน 2 โครงการใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้คือ ทาวน์พลัส เกษตร-นวมินทร์ จำนวน 386 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,520 ล้านบาท และ ทาวน์พลัส หัวหมาก จำนวน 99 ยูนิต มูลค่าโครงการ 353 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 3.5 ล้านบาท รวมถึงโครงการทาวน์เฮาส์บางส่วนที่เหลือในโครงการ ทาวน์พลัส เพชรเกษม-บางแค ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานนี้ ส่วนโครงการที่เหลือจะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
ในแง่ยอดขายปี 2551"พลัส" ตั้งเป้าท้าทายวางเป้ารับรู้รายได้ 7,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 3,700 ล้านบาทเศษ หรือเติบโตขึ้น 88% โดยที่ผู้บริหารเชื่อว่าจะฝ่าด่านไปถึงได้ไม่ยาก เพราะถึงขณะนี้พลัสฯ มีปริมาณบ้านรอโอนตุนอยู่ในมือแล้วประมาณ 6,000 ล้านบาท รวมถึง ยังมีธุรกิจบริการซื้อขายให้เช่าอสังหาฯ และบริหารจัดโครงการที่จะช่วยสร้าง รายได้อีกทางหนึ่ง
ถ้าทาวน์เฮาส์ลูกเล่นใหม่มียอดขาย เข้าเป้า พลัสฯ จะเป็นหัวใจสำคัญที่สร้างยอดรับรู้รายได้ให้กับบริษัทแม่อย่าง "แสนสิริ" ในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-03-2551
|
|
|
|
|