Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
บ้าน 1 ล้านเซฟ "ภาษี-ค่าโอน" 6 หมื่น วัดใจ...คืนกำไรคนซื้อ |
|
มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ความเห็นชอบ 19 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อานิสงส์จากการลดค่าธรรมเนียมโอนบ้านจาก 2% เหลือ 0.01% ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.1% และลดค่าจด จำนองจาก 1% เหลือ 0.01% เหมือนกับเมื่อ 3-4 ปีก่อนอีกครั้ง
เปิดไส้ในแพ็กเกจกระตุ้นอสังหาฯเที่ยวนี้ เบ็ดเสร็จคนซื้อบ้านได้รับการลดภาษีและ ค่าโอนราว 1% เศษ ขณะที่ผู้ประกอบการได้กว่า 4% ไม่รวมกรณีได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้กรณีอื่นๆ สำหรับนิติบุคคลภายใต้มาตรการดังกล่าว
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะส่งผลด้านบวกต่อตลาดอสังหาฯทั้งระบบ และน่าจะเป็นยากระตุ้นที่ได้ผล เพราะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าทั้งของผู้ซื้อและผู้ขาย
"ถ้าหากรัฐบาลชุดนี้ออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯอีกครั้ง ผลดีจะตกกับผู้บริโภค เพราะเมื่อค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการลดลง ก็จะทำให้ราคาขายบ้านลดลงด้วย" ดีเวลอปเปอร์หลายต่อหลายคนเคยประสานเสียงช่วงที่ลุ้นให้รัฐออกมาตรการอุ้มอสังหาฯ
อย่างไรก็ตาม คงต้องวัดใจผู้ประกอบการว่า ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ลดลงนั้น จะถูกเก็บเข้ากระเป๋า หรือคืนกำไรให้กับ คนซื้อบ้าน เหมือนกับที่ประกาศไว้
ที่แน่ๆ หลายบริษัทเริ่มขยับปรับแผน ลดราคาบ้านในสต๊อกเก่า รับมาตรการนี้ แต่เนิ่นๆ แล้ว
"ธำรงค์ ปัญญาสกุลวงศ์" ประธานกรรมการ บริษัท นิรันดร์ เรสซิเด้นท์ จำกัด ให้ความเห็นว่า มาตรการกระตุ้นของภาครัฐจะช่วยปลุกตลาดอสังหาฯที่ซบเซาให้ฟื้นขึ้นอีกครั้ง
"ผมว่าตลาดที่อยู่อาศัยต้องกลับมาคึกคักเหมือนเดิมแน่ เพราะมาตรการที่ ออกมาจะทำให้ผู้ซื้อเกิดความมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการซื้อขายบ้านลดลงกว่า 6.3% ดังนั้นถ้าบ้านราคา 1 ล้านบาท หากนำมาตรการลดภาษีและค่าโอนมาใช้ จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากกว่า 60,000 บาท ถือเป็นราคาที่ลดลงมากๆ ถ้าบ้านราคา 5 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะลดถึง 3 แสนบาททีเดียว"
"ธำรงค์" บอกด้วยว่า มาตรการนี้จะเป็นตัวแปรทำให้ผู้ประกอบการลดราคาขายบ้านในสต๊อกเก่าลงได้ทันที โดยที่กำไรไม่ได้ลดลงตามไปด้วย เนื่องจากได้ลดด้านภาษีไปแล้ว
ในส่วนของบริษัท มีบ้านในสต๊อกพร้อมขายในมือกว่า 200-300 ยูนิต ที่พร้อมจะลดราคาให้กับผู้ซื้อ ทันทีที่มาตรการทั้งหมดมีผลในทางปฏิบัติ
แม้ในระหว่างนี้อาจจะมีลูกค้าบางส่วนชะลอการโอนบ้าง เพื่อรอให้มาตรการมีผลบังคับใช้ แต่จะเป็นระยะสั้นๆ เท่านั้น ไม่กระทบต่อผู้ประกอบการมากนัก คิดว่าอีก 1 เดือนข้างหน้าจะเริ่มเห็นผล
เช่นเดียวกับมุมมองของ "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่เห็นว่ามาตรการลดค่าโอน-ภาษี จะส่งผลดีต่อตลาดบ้านทั้งระบบ เพราะให้ผลบวกทั้งต่อผู้ซื้อบ้านและผู้ประกอบการ
"ภาระค่าใช้จ่ายที่ลดลง ทำให้บริษัทสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปจัดกิจกรรมการตลาดและการขาย ในรูปของการออก แคมเปญใหม่ๆ ออกมาได้มากขึ้น เช่น รับภาระค่ามิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟฟ้าและค่าส่วนกลางแทนลูกค้า เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ"
ขณะที่ "สืบวงษ์ สุขะมงคล" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิจิตรา กรุ๊ป กล่าวว่า นโยบายการกระตุ้นภาคอสังหาฯเป็นระยะเวลา 1 ปี เป็นเรื่องดีสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม เพราะจะกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนซื้อ-ขายบ้านและคอนโดฯ มากขึ้น โดยเฉพาะบ้านมือสอง ที่เจ้าของต้องการขายเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ จากเดิมจะขายได้ค่อนข้างยาก เพราะต้องเสียภาษีถึง 6.3% แต่มาตรการออกมาจะช่วยให้เจ้าของบ้านมือสองขายและเปลี่ยนมือได้ง่ายขึ้น ทั้งยังคาดหวังว่าจะช่วยให้ตลาดบ้านเดี่ยวกลับมาบูมอีกรอบหนึ่ง
นอกจากนี้ถ้าหากภาครัฐเร่งก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์ให้เร็วขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
"สืบวงษ์" มองว่า ผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯที่ออกมาใหม่ ทำให้บริษัทต้องปรับแผนจัดแคมเปญการตลาดที่จะใช้ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 18 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่าง วันที่ 13-16 มีนาคมนี้ด้วย จากเดิมจะออกแคมเปญดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 6 เดือน ก็เปลี่ยนเป็นดาวน์ 5% พร้อมอยู่ฟรี 1 ปี โดยไม่ต้องผ่อน และฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ด้วย
ไม่แปลกถ้าคนซื้อบ้านจะถือโอกาส วัดใจดีเวลอปเปอร์ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯที่จะมาถึงปลายสัปดาห์นี้
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-03-2551
|
|
|
|
|