|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "กนก เดชาวาศน์" มองข้ามชอต 6 เดือน อสังหาฯจะฟื้น... |
|
สัมภาษณ์
ในบรรดาดีเวลอปเปอร์ที่อาจถือได้ว่าเป็น "กูรู" ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ "กนก เดชาวาศน์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมเพลส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยน่าจะเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ด้วยมุมมองและประสบการณ์ที่ได้รับการสะสมบ่มเพาะมายาวนาน จนกลายเป็น "ไอดอล" ให้กับดีเวลอปเปอร์ทั้งมือเก่ามือใหม่
เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่เขาสะท้อนภาพรวมตลาดอสังหาฯ ทั้งระบบ พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มในปี 2551 ผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษ "ประชาชาติธุรกิจ"
- มองตลาดอสังหาฯปีนี้อย่างไรบ้าง
ครึ่งปีแรกคงจะไม่แตกต่างจากครึ่งปีหลัง ปี 2550 แต่ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น ถามว่าดีขึ้นจากอะไร ก็จากการที่เรามีความหวังว่ารัฐบาลน่าจะผลักอะไรขึ้นมาได้บ้าง เช่น ด้านความเชื่อมั่น เป็นต้น แต่ผลจริงๆ ในระยะสั้น ผมยังมองไม่เห็น อย่างน้อยต้อง 6 เดือนหลังจากนี้ไป เพราะตอนนี้ภาครัฐก็ได้แต่คิดโครงการ วางนโยบาย แต่เม็ดเงินยังไม่มีออกมา
ปีนี้สิ่งที่เราจะต้องเจอแน่ๆ คือ เรื่องราคาน้ำมัน ผมเคยอ่านหนึ่งสืออยู่เล่มหนึ่งเขาแปลได้ดีมาก เรื่อง Oil Factor ในหนังสือชี้เปรี้ยงเลยว่า ประมาณปี 2006 ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นไปที่ 100 ดอลลาร์ ซึ่งผิดไปหน่อยที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ปี 2007 จากนั้นก็ออกมาอีกเล่มบอกว่า สิ้นทศวรรษนี้ราคาน้ำมันจะวิ่งไปที่ 200 ดอลลาร์ ก็ต้องดูอีก 2 ปีข้างหน้า
- แสดงว่ายังน่าห่วง
คำถามคือถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว เศรษฐกิจเราจะอยู่อย่างไร ? เราอาจจะเจอปัญหา inflation (เงินเฟ้อ) ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ในสมัยปี 1970 มี oil crisis ราคาสินค้าขึ้นทุกอย่าง รวมทั้ง inflation ด้วย คำตอบคือหากเป็นอย่างนั้นจริง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ inflation สูงขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะอ่อนลง เงินบาทอาจจะแข็งยาวไปเลย
สินค้าประเภททองคำและโลหะจะวิ่งขึ้นตามไปด้วย เพราะเมื่อเงินอ่อนค่าลง คนก็จะเข้าไปลงทุนในทรัพย์สินบางอย่างแทน ถ้าคุณถือเงินสด 1 ล้านบาท กับถือที่ดินมูลค่าเท่ากัน ถือที่ดินดีกว่า
- อสังหาฯจะได้รับผลกระทบ
ช่วงที่เกิด inflation มากๆ งานก่อสร้างอะไรที่ใช้ระยะเวลายาวๆ ก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้น เช่น การก่อสร้างคอนโดฯ ซึ่งเป็นความเสี่ยง ที่มาจาก คนซื้อไม่มีเงินจ่าย อย�าลืมว�าแม�จะขายสินค้าได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีศักยภาพในการโอน เพราะความสำเร็จของคอนโดฯไม่ได้อยู่ที่วันขาย แต่อยู่ที่วันโอน
- จะลดความเสี่ยงอย่างไร
วิธีลดความเสี่ยงคือการลดสต๊อก ต้องประมาณการสต๊อกให้พอกับยอดขายในแต่ละเดือน ให้งานกับผู้รับเหมาให้พอดี จ้างให้มากรายขึ้น วิธีนี้จะแก้ไขได้
- จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ความเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาฯต่อไปการพัฒนาโครงการในเมืองจะเกิดจากดีเวลอปเปอร์ต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะดีเวลอปเปอร์รายใหญ่จะเป็นของต่างชาติหมด อีกไม่เกิน 5-10 ปีข้างหน้า
เพราะความต้องการใช้เงินทุนที่มากขึ้นจะถูกเร่งให้เพิ่มทุนขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วทุนที่ไหนจะเพิ่มขึ้นถ้าไม่เอาทุนจากต่างประเทศ และถ้า จัดการไม่ดี หุ้นของผู้ถือหุ้นในประเทศก็โดน ไดรูทหมด
- ในส่วนของโฮมเพลสฯ ปีนี้ทิศทางจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่จะต้องเดิน คือ เรายังมุ่งมั่นในวิชาชีพนี้ ยังคงมีการพัฒนาโครงการออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ตามสถานการณ์ตลาดในแต่ละช่วงเวลา ปีที่ผ่านมาโครงการที่เราดำเนินการอยู่ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี
สำหรับปี 2551 คิดว่าในส่วนของการพัฒนาโครงการใหม่คงมีอย่างน้อย 3 โครงการ คือ ในย่านพระราม 2 เป็นทาวน์เฮาส์ ส่วนโซนตะวันตก แถวรัตนาธิเบศร์และบางใหญ่ ใกล้ ถนนวงแหวนตะวันตก ก็จะเดินหน้าต่อพร้อมๆ กับดูสถานการณ์ไปด้วย เพราะเราไม่มีนโยบายเปิดตัวอย่างหวือหวา และไม่มีนโยบายในการเข้า ตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย
- เป้าหมายในอนาคตของโฮมเพลสฯ
คงจะเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินระดับกลางแบบนี้ ไม่โตไม่ใหญ่มาก และดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ค่อนข้างจะคอนเซอร์เวทีฟบ้าง แต่สิ่งที่เราเน้นหนักและให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ พยายามทำสินค้าออกมาให้มีคุณภาพ พยายามใกล้ชิดและให้บริการกับลูกค้าให้มากขึ้น นั่นคือเป้าหมายของผม ไม่ใช่แข่งการลดราคา แต่ผลิตสินค้าที่คุณภาพไม่ดีให้กับลูกค้า |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 28-02-2551
|
|
|
|
|
