|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เอเชี่ยนฟื้นบ้านเดี่ยว"เดอะซิตี้" มั่นคงชูบ้านประหยัดพลังงาน |
|
"เอเชี่ยน" ปรับพอร์ตสร้างความสมดุล บริหารความเสี่ยงฟื้นบ้านเดี่ยวแบรนด์ "เดอะ ซิตี้" ชี้ปีนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่เปิดศึกแข่งกันเดือดแน่ แต่ตลาดคอนโดฯยังไปฉลุย น่าห่วงแค่บางทำเล เผยยอดขายปี"50 โต 94% ทำได้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท มีแบ็กล็อกในมืออีก 1.75 หมื่นล้านบาท ด้าน "มั่นคงเคหะการ" ชู 4 รางวัล บ้านประหยัดพลังงานดันยอด
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP) เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์การแข่งขันกันรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่จะแห่ลงมาเล่นตลาดคอนโดมิเนียมมากขึ้น จะส่งผลต่อยอดขายของผู้ประกอบการรายย่อยเนื่องจากมีข้อได้เปรียบหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเงินทุน การบริหารจัดการต้นทุนที่มีความเป็นมืออาชีพ บวกกับมีความน่าเชื่อถือมากกว่ารายย่อย
สำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดยังคงเป็นคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางขยับตามขึ้น แต่คอนโดฯบางทำเลอาจจะขายได้ช้าลง เนื่องจากมีซัพพลายเข้ามามากเกินไป ขณะที่บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ตลาดยังมีกำลังซื้อในระดับที่ไม่หวือหวา
"ปีนี้ผมเชื่อว่าต้นทุนค่าก่อสร้างโดยรวมจะปรับเพิ่มขึ้น 5% รวมถึงราคาวัสดุก่อสร้างที่ได้ทยอยปรับราคามาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นตัวกดดันให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาขายบ้านตามไปด้วย เพราะไม่สามารถอั้นราคาไว้ได้อีก"
สำหรับการลงทุนในปี 2551 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 13 โครงการ มูลค่า 14,250 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ มูลค่า 3,870 ล้านบาท คอนโดฯ 5 โครงการ มูลค่า 8,380 ล้านบาท โดย 2 โครงการเป็นการพัฒนาร่วมกับกลุ่มแปซิฟิค สตาร์ และบ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท
"สัดส่วนการลงทุนในปีนี้จะพยายามบาลานซ์พอร์ตระหว่างโครงการแนวสูงและแนวราบ ในสัดส่วน 60 : 40 โดยปีนี้สินค้าหลักยังเป็น คอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ เป็นหลัก ส่วนบ้านเดี่ยว
โครงการเดอะซิตี้หลังจากที่หยุดทำตลาดไประยะหนึ่ง จะกลับมาทำตลาดอีกครั้ง แต่เนื่องจากโครงการเก่าได้ปิดการขายไปแล้ว จึงต้องเปิดโครงการใหม่ในทำเลอื่นแทน"
ด้านผลประกอบการในปี 2550 ทำยอดขายได้ 15,000 ล้านบาท โต 94% เมื่อเทียบกับปี 2549 คาดว่าจะรับรู้รายได้ 7,000-7,500 ล้านบาท ขณะเดียวกัน็มียอดขายรอรับรู้
(แบ็กล็อก) ในมืออีก 17,500 ล้านบาท มาจากคอนโดฯ 14,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ได้ในปีนี้ประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท ที่เหลือ จะรับรู้ในปี 2552 ส่วนเป้าปีนี้ตั้งไว้ที่ 15,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 10-15%
ด้านนายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดในปีนี้บริษัทจะชูบ้านประหยัดพลังงานเป็นสินค้าหลักในการทำตลาด เนื่องจากเพิ่งได้รับรางวัลจากโครงการประกวดบ้านจัดสรรอนุรักษ์พลังงานดีเด่น ปี 2550 ที่จัดโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์รวม 4 รางวัล
ส่วนการลงทุนใหม่จะเป็นการขยายเฟสในโครงการเก่า 8 โครงการ จำนวน 900 ยูนิต และเปิดโครงการใหม่อีก 1 โครงการ ภายใต้ชื่อชวนชื่น โมดัส แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ถนนเลี่ยงเมือง ปากเกร็ด 260 ยูนิต บนเนื้อที่ 50 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในปี 2550 บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ 2,110 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2549 ที่มียอดขาย 1,750 ล้านบาท และรายได้จากสนามกอล์ฟอีก 70-80 ล้านบาท/ปี คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 1,900 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายที่น่าพอใจในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนในปี 2551 บริษัทตั้งเป้าเติบโตอีก 25-30% คิดเป็นยอดขายรวม 2,700 ล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 04-02-2551
|
|
|
|
|
