Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เปิดแผน "สยาม โซเคอิ" อสังหาฯเครือสหพัฒน์ลุยลงทุน 7,600 ล. |
|
นับเป็นครั้งแรกของ "สยาม โซเคอิ" บริษัทพัฒนาที่ดินอสังหาฯลูกผสมไทย-ญี่ปุ่น ที่มีกลุ่ม "สหพัฒน์" ร่วมลงทุนในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 51% ได้จัดงานอีเวนต์เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ "พีกส์ การ์เด้น เชียงใหม่" (Peaks Garden) อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ที่ผ่านมา หลังจากซุ่มพัฒนาโครงการอสังหาฯมาแล้วหลายโปรเจ็กต์
แม้งานวันนั้นเป็นอีเวนต์เล็กๆ แต่การเป็นบริษัทอสังหาฯในเครือสหพัฒน์ ก็ทำให้ชื่อของ "สยาม โซเคอิ" กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ต้องจับตา และน่าติดตามว่าจะมีแผนลงทุนพัฒนาโครงการต่อไปอย่างไร
เฉพาะคอนโดฯพีกส์ การ์เด้น เชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในมาสเตอร์แปลนของโครงการ "พีกส์ ทาวน์" บนเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ บริเวณถนน ช้างคลาน ใกล้กับ "เชียงใหม่ ไนท์บาซาร์" ทำเล ไข่แดงของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งว่ากันว่าที่นี่คือ "เจแปนนิสทาวน์" หรือเมืองญี่ปุ่นขนาดย่อมๆ
สำหรับบิ๊กโปรเจ็กต์พีกส์ ทาวน์ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและพื้นที่ให้เช่า รวมทั้งหมด 6 โครงการ ประกอบด้วย คอนโดฯ "ทวิน พีกส์" ที่มียอดขายแล้วเกือบ 100% คอนโดฯ "พีกส์ การ์เด้น" ที่เปิดขายล่าสุด ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 52% และโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ได้แก่ คอนโดฯ "พีกส์ ช้างคลาน" คอนโดฯ "พีกส์ อเวนิว" โครงการ "พีกส์ มอลล์" (พื้นที่ให้เช่า) และ "พีกส์ มาร์เก็ต" (พื้นที่ให้เช่า) ทั้งหมดคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
"ยาซูโอ มิยาซากิ" กรรมการผู้จัดการชาวญี่ปุ่นของ "สยาม โซเคอิ" ให้ข้อมูลหลังตัดริบบิ้นเปิดตัวคอนโดฯแห่งใหม่ว่า โครงการพีกส์ ทาวน์ น่าจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จะพัฒนาแล้วเสร็จพร้อมปิดการขายได้ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาทเศษ โดย "ทวิน พีกส์" เป็นคอนโดฯโครงการแรกที่เปิดตัว ปัจจุบันเหลือขายอีก 1-2 ยูนิตเท่านั้น
"ถ้าแบ่งสัดส่วนลูกค้าทั้งหมด 70% เป็นชาว ต่างชาติ 20% เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่เกษียณอายุ และ 10% เป็นคนไทย บางรายก็ซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่า เฉลี่ยถ้าเป็นห้องสตูดิโอ 42 ตารางเมตร ปล่อยเช่าได้เดือนละ 3 หมื่นกว่าบาท เพราะทำเลตรงนี้ถือว่าอยู่ใจกลางเมือง"
หลังจาก "ทวิน พีกส์" ประสบความสำเร็จ ในแง่ของการขาย สยาม โซเคอิ จึงเปิดตัว "พีกส์ การ์เด้น" ต่อทันที โดยพัฒนาเป็นคอนโดฯระดับไฮเอนด์ สูง 8 ชั้น 79 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 6.5 หมื่นบาทต่อยูนิต แยกเป็นห้องแบบสตูดิโอขนาด 44 ตารางเมตร ราคา 3 ล้านบาท แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 65-70 ตารางเมตร ราคา 4-6 ล้านบาท และแบบ 2 ห้องนอน 70 ตารางเมตร ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท พร้อมสระว่ายน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครบครัน ล่าสุดมี ยอดขายแล้วกว่า 52%
ศักยภาพของตลาดอสังหาฯในตัวเมืองเชียงใหม่ ณ วันนี้ แม้เศรษฐกิจชะลอตัวลงตามภาพรวม แต่คอนโดฯแถบใจกลางยังมีความต้องการอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะ "เชียงใหม่" ยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เสมอในสายตาชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นต้องการเข้ามาใช้ชีวิตอยู่อาศัยหลังเกษียณอายุ ซึ่งมีทั้งรูปแบบการซื้อเป็นกรรมสิทธิ์และเช่าระยะยาว
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจุบันราคาที่อยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ประชากรผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นส่วนหนึ่งต้องขยับขยายออกมาอยู่อาศัยในประเทศอื่นๆ
นอกจากมาสเตอร์แปลนพัฒนาคอนโดฯ และโครงการพื้นที่ให้เช่า "พีกส์ ทาวน์" น่าสนใจว่า "มิยาซากิ" มีความคิดนำที่ดินเล็กๆ ส่วนหนึ่งในโครงการมาพัฒนาเป็น "พื้นที่การเกษตร" ซึ่งเป็นความฝันลึกๆ ของเขาที่อยากพัฒนาพื้นที่ตรงนี้สำหรับการปลูกพืชผักสวนครัวแบบปลอดสารเคมีเพื่อนำออกจำหน่าย พร้อมกับหวังว่าในอนาคตสินค้าการเกษตรอาจพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ "โอท็อป"
หันมาดูตัวเลขยอดขายของ "สยาม โซเคอิ" ในปี 2550 ที่ผ่านมา มียอดขายประมาณกว่า 1,200 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เนื่องจากมีคอนโดฯหลายโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน
นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการออกแบบและเตรียมพัฒนาในอนาคตอีกหลายโปรเจ็กต์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในรูปแบบเกือบครบวงจร ตั้งแต่คอนโดฯ ออฟฟิศให้เช่า วิลล่า เบ็ดเสร็จมีมูลค่าโครงการรวมกันกว่า 7,600 ล้านบาท แต่ทั้งหมด "มิยาซากิ" สรุปสั้นๆ ว่า... "การลงทุนของสยาม โซเคอิ ไม่ใช่รูปแบบการกอบโกยเพื่อให้เติบโตอย่างรวดเร็ว"
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ "ค่าเงินบาท" ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในประเทศไทยพอสมควร โดยประมาณการว่าเงินบาทในปัจจุบันแข็งค่าขึ้นมา 20% เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน ทำให้จำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยในเมืองไทยอาจมีแนวโน้มลดลงบ้าง
เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่ "มิยาซากิ" ยอมรับว่าได้ให้ความสนใจและนำเข้าหารือในที่ประชุมกรรมการบริษัท เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาโครงการของบริษัทในอนาคตต่อไป จากปัจจุบันที่การพัฒนาโครงการมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก อนาคต "สยาม โซเคอิ" คงต้องหันมาจับตลาดคนไทยมากขึ้น
"ซิตี้คอนโดฯ" ตามแนวรถไฟฟ้า จึงเป็นหนึ่งในแผนการลงทุนที่กำลังมองหาอยู่ โดยยอมรับว่ามีที่ดินอยู่ 2-3 แปลงในกรุงเทพฯที่กำลังเล็งเตรียมซื้อเก็บเข้ามาไว้ในพอร์ต
ถือเป็นการปรับตัวของบริษัทอสังหาฯร่วมทุนให้สอดรับกับสถานการณ์ และไม่แน่ว่าในอนาคต "สยาม โซเคอิ" อาจกลายเป็นเสือในวงการอสังหาฯที่น่าจับตามองก็ได้ ! |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-01-2551
|
|
|
|
|