Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
รัฐจุดพลุผู้ประกอบการ บ้านจัดสรรประหยัดพลังงาน รางวัลกระตุ้นรับกระแสโลกร้อน |
|
2 ปีที่ผ่านมา กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน เคยจุดพลุสร้างกระแสตื่นตัว "บ้านประหยัดพลังงาน" มาแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการเปิดตัวโครงการ "ประกวดบ้านจัดสรรอนุรักษ์พลังงาน"
แม้เสียงตอบรับในครั้งแรกอาจไม่ถึงกับดังเปรี้ยง !
เพราะเป็นการโฟกัสเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการส่งแบบบ้านเข้าประกวดรวมประมาณ 30 ราย
กระทั่งปี 2550 เพื่อสานต่อการสร้างกระแสบ้านประหยัดพลังงาน พพ.จึงจัดโครงการนี้ขึ้นอีกครั้ง โดยเปิดกว้างทั่วประเทศ เสียงตอบรับถือว่าดีเกินคาด จากแบบบ้านที่ส่งเข้าประกวดถึงกว่า 120 แบบ สะท้อนว่าทุกคนตื่นตัวในเรื่องนี้มีมากขึ้น
ล่าสุด ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พพ.ได้จัดพิธีมอบรางวัลให้กับบ้านที่เข้าร่วมโครงการในปี 2550 ขึ้นที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งมีบ้านทั้งหมด 24 แบบ จาก 14 บริษัท ที่ผ่านเกณฑ์ได้รับรางวัล โดยเปิดโอกาสให้แต่ละบริษัทส่งบ้านเข้าประกวดได้มากกว่า 1 แบบ
บรรยากาศในงานวันนั้นถือว่าคึกคัก เพราะเต็มไปด้วยตัวแทนผู้ประกอบการจากทุกบริษัทที่มากันพร้อมหน้า ส่วนใหญ่เป็นระดับ "เอ็มดี" ที่ขอมาเอง รวมถึงมีการออกบูทแนะนำแบบบ้านที่ได้รับรางวัลพร้อมนำเสนอแนวคิดการออกแบบอย่างละเอียด
สำหรับหลักเกณฑ์คร่าวๆ ที่ใช้ในการตัดสินแบบบ้านที่ส่งเข้าประกวดคราวนี้มี 2 ส่วน คือ 1)มาตรฐานการออกแบบจัดวางผังบ้านตามหลักการประหยัดพลังงาน และ 2)หลักเกณฑ์การประหยัดพลังงาน ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ต้องมีค่าการถ่ายเทความร้อนผ่านทางหลังคาไม่เกิน 25 วัตต์ต่อตารางเมตร มีค่าถ่ายเทความร้อนผ่านทางผนังอาคารไม่เกิน 45 วัตต์ต่อตารางเมตร มีการใช้หลอดตะเกียบประหยัดไฟในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 80% ของหลอดไฟทั้งหมด และส่วนระบายอากาศไม่ต่ำกว่า 15% ของพื้นที่อาคาร
ส่วนรางวัลแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ 1)ดีเด่น 2)ดี และ 3)ชมเชย แต่ละรางวัลก็มีระดับความเข้มข้นการพิจารณาแตกต่างกันไป เช่น ระดับ "ดีเด่น" ต้องมีการออกแบบจัดวางผังถูกต้องตามมาตรฐาน ส่วนของหลักเกณฑ์การประหยัดพลังงานต้องสูงกว่ามาตรฐานทุกข้อ โดยเฉพาะการใช้หลอดตะเกียบต้องมีสัดส่วน 100% ของหลอดไฟทั้งหมด ถือว่าเข้มข้นมากๆ
หลังจากผ่านการพิจารณาแล้ว ปรากฏว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯมีบริษัทที่ได้รับรางวัลระดับ "ดีเด่น" มีเพียง "แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น" ที่ได้รับรางวัล ส่วนรางวัลระดับ "ดี" มี 5 บริษัท ได้แก่ ฟายน์โฮมเฮาส์ซิ่ง ดีเวลลอปเม้นท์ ศุภาลัย เหรียญพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค และมั่นคงเคหะการ ส่วนรางวัล "ชมเชย" มี 5 บริษัท ได้แก่ เฉลิมนคร ปริญสิริ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มั่นคงเคหะการ และศุภาลัย
ส่วนโครงการในต่างจังหวัดที่เปิดให้เข้าร่วมเป็นปีแรก มี 5 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์ รางวัลระดับ "ดี" ได้แก่ พิมทองพัฒนา และฟ้าหลวง พร็อพเพอร์ตี้ ส่วนรางวัล "ชมเชย" ได้แก่ โคราชวิลเลจแอนด์ อาร์.เอ็น.พร็อพเพอร์ตี้, อีสานพิมานกรุ๊ป และ เจ.เอส.ซี.อาร์.สุพรรณ
สอบถามถึงแนวคิดการพัฒนาบ้านประหยัดพลังงานแบบ "ESTRELLA" ของ "แมกโนเลียฯ" จาก "วิสิษฐ์ มาลัยศิริ" ในฐานะเอ็มดี หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลระดับ "ดีเด่น" ระบุว่า การออกแบบบ้านประหยัดพลังงานเป็นคอนเซ็ปต์หลักในการพัฒนาโครงการของบริษัทมาตั้งแต่แรก โดยมีการตั้งทีมงานขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
"การออกแบบบ้านของเรามี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ไม่มีต้นทุนเพิ่ม อาทิ การวางผังบ้าน ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา และส่วนที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นคือ การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน เบ็ดเสร็จเฉพาะงานโครงสร้างน่าจะมีต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากบ้านทั่วไปไม่เกิน 5%"
ลงลึกไปในแง่ของสเป็กวัสดุของแบบบ้าน ESTRELLA ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 218 ตารางเมตร (ไม่รวมที่จอดรถ) ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานจริงๆ สิ่งที่ให้มี อาทิ การก่ออิฐมวลเบา 2 ชั้น และเว้นช่องระบายอากาศอีก 10 เซนติเมตร หน้าต่างยูพีวีซี และกระจกเขียวตัดแสง ปูพื้นชั้นล่างด้วยกระเบื้องดินเผาเพื่อดึงความเย็นจากชั้นดิน ฯลฯ สมกับสนน ราคาบ้านที่ตั้งไว้ 38 ล้านบาท
ส่วนผู้ประกอบการระดับกลางอย่างบริษัท "เฉลิมนคร" ผู้พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ "บ้านสถาพร" เป็นอีกบริษัทที่สนใจสร้างบ้านตามแนวคิดประหยัดพลังงานมาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งครั้งนี้สามารถคว้ารางวัลระดับชมเชยถึง 2 รางวัล จากแบบบ้าน "ปทุมมา" และ "ฉัตรอุบล"
หลักการสร้างบ้านประหยัดพลังงานของ "บ้านสถาพร" มีทั้งหมด 13 รายการ ถือว่าเป็นการสร้างบ้านตามหลักการประหยัดพลังงานแบบพื้นฐานจริงๆ อาทิ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยการ ใช้สวนเข้ามาลดแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง การติดตั้งยิปซัมบริเวณผนังภายในด้านตะวันตกที่ ต้องรับแดดในตอนเย็นเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ฯลฯ
ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างบ้านแต่ละหลังเพิ่มขึ้นจากแบบบ้านทั่วไปเพียง 1-3% เท่ากับว่าถ้าเป็นบ้านราคา 2 ล้านบาท จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพียง 2 หมื่นบาทเท่านั้น แต่ในทางกลับกัน สามารถช่วยให้บ้านมีอุณหภูมิลดลงได้ถึง 2-3 องศาเซลเซียส
"สุนทร สถาพร" กรรมการผู้จัดการ ของ "เฉลิมนคร" ให้ข้อมูลว่า... "ทุกๆ อุณหภูมิที่ลดลง 1 องศา ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 5% จากปกติบ้านขนาด 200 ตารางเมตร จะเสียค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อเดือน 6-7 พันบาท ถ้าลดลง 5% คือ 300-400 บาทต่อเดือน เบ็ดเสร็จแล้วคืนทุนได้ภายในเวลา 5-6 ปี"
ล่าสุด พพ.ในฐานะหน่วยงานหลักผลักดันเรื่องนี้ จึงกำลังเดินหน้าตรวจสอบเพื่อมอบ "ฉลากบ้าน" ให้บ้านที่ส่งเข้าประกวดในโครงการ "ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในอาคารโดยการติดฉลาก" ซึ่งมีบ้านเข้าร่วมประมาณ 900 หลัง
จึงไม่แน่ว่าหาก "บ้านติดฉลาก" ได้รับความนิยมเหมือนฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 อนาคต "ฉลากบ้าน" อาจกลายเป็นเหมือนเครื่องการันตีที่ทำให้ซื้อขายบ้านได้ราคาดีขึ้นกว่าบ้านทั่วไปก็ได้ ! |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-01-2551
|
|
|
|
|