Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ขอครองแชมป์ |
|
ก้าวสู่ถนนสายพัฒนาที่ดินด้วยการประเดิมพัฒนาโครงการบ้านสุขุมวิท 101 และบ้านรัชดาภิเษก เมื่อ 14-15 ปีก่อน ก่อนจะแจ้งเกิดแบรนด์บ้านพฤกษาเจาะตลาดระดับล่างจนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ตั้งแต่ถือกำเนิดในวงการอสังหาฯในปี 2536
จนถึงขณะนี้ยอดขายและรายได้ของพฤกษา เรียลเอสเตท เติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้โตแบบก้าวกระโดดจากไม่กี่ร้อยล้านบาทในช่วงเริ่มแรก เป็น 9,054 ล้านบาท ในปี 2550 ที่ผ่านมา
ย้อนหลังจากนั้นไปอีก 2-3 ปี ช่วงเตรียมการเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯปี 2547 พฤกษาฯมีรายได้ 6,100 ล้านบาท ต่อมาปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับอนุมัติให้เข้าตลาดหุ้น รายได้โตขึ้นเป็น 7,596 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากบ้านเดี่ยว 3,268 ล้านบาท คิดเป็น 43% ของรายได้ทั้งหมด และรายได้จากทาวน์เฮาส์ 4,328 ล้านบาท หรือ 57%
หลังเข้าตลาดหุ้น พฤกษาฯขยายฐานกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้เติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยปี 2549 มีรายได้รวม 8,151 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากการขายบ้านเดี่ยว 3,269 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลืออีก 60% เป็นรายได้จากการขายทาวน์เฮาส์ 4,882 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2550 ที่ผ่านมา รายได้อยู่ที่ 9,054 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากการขายคอนโดฯตลาดใหม่ที่เพิ่งจะเบนเข็มเข้าไปแย่งแชร์เค้ก 200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2% ของรายได้รวมทั้งหมด 42% เป็นรายได้จากการขายบ้านเดี่ยว หรือเท่ากับ 4,200 ล้านบาท
ส่วนที่เหลืออีก 5,600 ล้านบาท หรือ 56% เป็นรายได้จากการขายทาวน์เฮาส์ โปรดักต์หลักที่สร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากลูกค้า จนทำให้พฤกษาฯมีวันนี้ได้
แต่ 3 ปีจากนี้ไป หรือปี 2553 พฤกษาฯภายใต้การนำของ "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" ที่วารสารการเงินธนาคาร จัดให้เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับสองของประเทศไทย ถือหุ้นพฤกษาฯอยู่ในมือ 62.19% คิดเป็นมูลค่า 11,153.95 ล้านบาท จะก้าวไปอีกขั้น ขอเป็นผู้นำธุรกิจอสังหาฯที่มีรายได้สูงสุดในประเทศไทย
แซงหน้าค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ของ "อนันต์ อัศวโภคิน" เศรษฐีหุ้นอันดับหนึ่งประจำปี 2550 ซึ่งถือหุ้นแลนด์ฯและแมนดารินโฮเต็ล 13,139.86 ล้านบาท และ 8.24 ล้านบาทตามลำดับ ที่มีรายได้สูงสุดเฉียด 2 หมื่นล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 14-01-2551
|
|
|
|
|