|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "เวียดนาม" ดาวรุ่งตลาดเฟอร์นิเจอร์ ผู้ผลิตทยอยรุกสร้างแบรนด์ |
|
รายงาน
คำเปรียบเทียบ "เวียดนาม" ว่าเป็นเหมือน "เสือเศรษฐกิจ ตัวใหม่" ของเอเชีย ด้วยอัตราเติบโตจีดีพีระดับ 7-8% มาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เวียดนามกลายเป็นตลาดที่กำลังหอมหวนสำหรับการเข้าไปทำธุรกิจ
นอกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในฐานะธุรกิจ "ดาวเด่น" ที่ต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะที่ "โฮจิมินห์ซิตี" และ "ฮานอย" เมืองเศรษฐกิจ และเมืองหลวง ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจ "เฟอร์นิเจอร์" ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีผู้ผลิตจากเมืองไทยทยอยเข้าไปรุกตลาดอย่างต่อเนื่องจนน่าจับตา ทั้งในรูปแบบการส่งออกไปจำหน่าย และลงทุนเปิดโรงงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ โดยที่ทั้ง 2 เมืองนี้มักเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าไปทำธุรกิจหลากหลายแขนง
ข้อมูลคร่าวๆ ที่ทำให้โฮจิมินห์ซิตีและฮานอยเป็นพระเอกที่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์บ้านเราให้ความสนใจเข้าไปลงทุน เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าจีดีพีในปี 2550 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้น 12.6% หรือมีมูลค่า 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของจีดีพีประเทศ เวียดนาม ขณะที่ฮานอยก็มีความสำคัญในฐานะเมืองหลวง
เอส.บี.สร้างแบรนด์ในเวียดนาม
สำหรับ "เอส.บี." ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ เฟอร์นิเจอร์จากเมืองไทยที่เข้าไปรุกตลาดเวียดนามมานาน โดยเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2547 ในรูปแบบการจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงรายเดียว ในลักษณะกึ่งๆ สแตรทิจิกพาร์ตเนอร์ ร่วมกันวางกลยุทธ์การทำตลาดและสร้างแบรนด์ โดย เอส.บี.เฟอร์นิเจอร์เป็นผู้สนับสนุนการให้คำแนะนำจัดวางเลย์เอาต์สินค้า งบประมาณกิจกรรมตลาด การทำวิจัยตลาด และโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ บางส่วน แต่อยู่ภายในเงื่อนไขว่าภายในโชว์รูมต้องขายสินค้า แบรนด์ "เอส.บี." เพียงอย่างเดียว
ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เอส.บี.และพาร์ตเนอร์ขยายโชว์รูมในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 8 แห่ง แยกเป็นเมือง โฮจิมินห์ 4 แห่ง และฮานอย 4 แห่ง แต่ละแห่งมีพื้นที่จัดวางสินค้าเฉลี่ย 600-1,100 ตารางเมตร
ส่วนการสร้างแบรนด์เฉพาะปี 2550 ที่ผ่านมา เอส.บี.ใช้งบฯการตลาดในเวียดนามประมาณ 4-5 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จนปัจจุบันแบรนด์ เอส.บี.เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนหนุ่ม-สาวรุ่นใหม่ ในฐานะแบรนด์ เฟอร์นิเจอร์จากเมืองไทย เพราะมีการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์หลากหลาย ได้แก่ ทีวี สิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา ส่วนวิทยุเลือกใช้บ้างเพียงเล็กน้อย
"อุดมพงศ์ อนุกูลการกุศล" ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ "เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน" ให้ข้อมูลจากประสบการณ์ว่า... "เอส.บี. น่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์รายแรกที่เข้าไปเปิดโชว์รูมในเวียดนาม สิ่งที่เราเรียนรู้คือ การเลือกใช้สื่อโฆษณาจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลจากพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นมากพอสมควร เพราะที่นั่นมีทีวีประมาณ 20 ช่อง แต่เท่าที่ทราบมีเพียงช่องเดียวที่ออกอากาศทั่วประเทศ ส่วนช่องอื่นๆ ที่เหลือเป็นทีวีที่ลงทุนโดยเอกชน และออกอากาศเฉพาะพื้นที่เท่านั้น เช่นเดียวกับคลื่นวิทยุส่วนใหญ่ไม่สามารถฟังได้ ทั่วประเทศ การใช้งบฯโฆษณาจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดีเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ"
ที่ผ่านมาการทำตลาดของ เอส.บี.เลือกโฟกัสกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อระดับกลาง-บน สอดรับกับรสนิยมของคนเวียดนามที่เปลี่ยนแปลงไป คือชอบนั่งทานกาแฟในร้านคอฟฟี่ช็อป ชื่นชอบวัฒนธรรมตะวันตก และกล้าใช้เงินซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ซึ่งมาจากผลพวงเศรษฐกิจของเวียดนามที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับปีนี้ เอส.บี.จะร่วมกับพาร์ตเนอร์ขยายโชว์รูมใหม่ในเวียดนามเพิ่มขึ้นอีก 3-4 แห่ง เน้นไปที่การเปิดตลาดในเมืองเศรษฐกิจอื่นๆ ของเวียดนาม และอาจเป็นไปได้ที่จะเห็นการเปิดสาขาขนาดใหญ่ในรูปแบบ "เอส.บี.ดีไซน์สแควร์" ที่มีพื้นที่หลายพันตารางเมตรเกิดขึ้นในอนาคต
"อินเด็กซ์" ผนึกพันธมิตร
เตรียมลงทุนลิฟวิ่งมอลล์
ด้าน "อินเด็กซ์" อีกหนึ่งแบรนด์ลีดเดอร์ในตลาดเฟอร์นิเจอร์เมืองไทย ที่เข้าไปศึกษาตลาดและเตรียมขยับแผนลงทุนในประเทศเวียดนามอย่างจริงจัง โดย "กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ" กรรมการผู้จัดการของ "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" ที่เดินทางไปดูตลาดในเมืองโฮจิมินห์มาแล้วหลายครั้ง ยอมรับว่าเวียดนามเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตต่อเนื่องและมีศักยภาพเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะโฮจิมินห์ซิตีถือว่าเป็นเมืองที่เจริญที่สุดของเวียดนามในขณะนี้
ล่าสุด อินเด็กซ์อยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียดการลงทุนกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่น ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างประเทศ และสนใจขยายไลน์เข้ามาทำธุรกิจด้านเฟอร์นิเจอร์ หลังจากมองเห็นโอกาสทางการตลาดจากธุรกิจอสังหาฯในเวียดนามที่กำลังบูม
การเจรจาครั้งนี้เป็นรูปแบบการขาย "แฟรนไชส์" ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งครบวงจรขนาดใหญ่ "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" ที่มีสาขาในประเทศไทยแล้วจำนวน 15 แห่ง เพื่อนำโมเดลลิฟวิ่งมอลล์ไปบุกตลาดเวียดนาม โดยพุ่งเป้าไปที่เมืองโฮจิมินห์ ส่วนหนึ่งเพื่อชิงปักธงก่อนที่จะมีคู่แข่งสำคัญอย่าง "อิเกีย" ผู้ประกอบธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ของโลกจากประเทศสวีเดนเข้าไปลงทุนเปิดมอลล์ขนาดใหญ่
เบื้องต้นคาดว่าการเจรจาจะมีความชัดเจนภายในช่วงปลายปีนี้ รูปแบบเบื้องต้นจะมีพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับการทดลองตลาด
อย่างไรก็ตาม นอกจาก "เอส.บี." และ "อินเด็กซ์" ค่าย "โบฟา อินเตอร์เนชั่นแนล" ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ "โบฟา" จากเมืองไทย เป็นอีกรายที่ร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นเข้าไปลงทุนโรงงานประกอบเฟอร์นิเจอร์เพื่อรุกตลาดอย่างจริงจัง หลังจากมองเห็นโอกาสจากการไปร่วมออกบูทกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อปลายปี ที่ผ่านมา
ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวเพื่อขยายฐานการตลาดและกลุ่มลูกค้า ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงต้องเอาใจช่วยและสนับสนุนเพื่อให้เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไทยแจ้งเกิดและเจาะตลาดเวียดนามได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 14-01-2551
|
|
|
|
|
