Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เขย่าใหม่มอเตอร์เวย์ "บางปะอิน-โคราช" เวนคืน 3,400 ราย-งบฯพุ่ง 5 หมื่นล้าน |
|
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-โคราช เป็นมอเตอร์เวย์สายแรกที่กรมทางหลวงเลือกจะก่อสร้าง ทันที หากมีความพร้อมทางด้านงบประมาณ
เนื่องจากเป็นเส้นทางสายสำคัญที่จะช่วยแบ่งเบาการจราจรได้มาก โดยเฉพาะช่วงที่จะเดินทางไปยังภาคอีสานบนถนนสายหลักอย่าง ถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ นอกจากนี้ยังเชื่อมการเดินทางระหว่างเมืองได้เป็นอย่างดี ทั้งจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลและในพื้นที่ใกล้เคียง
ปัจจุบันกรมทางหลวงอยู่ระหว่างสำรวจและออกแบบรายละเอียด เพื่อเตรียมความพร้อมในการก่อสร้าง ซึ่งจากผลการศึกษาขณะนี้ได้มีการปรับแบบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว มีระยะทางทั้งหมด 197 กิโลเมตร
จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ตอน คือ ตอน 1 จากอำเภอบางปะอิน-อำเภอปากช่อง ระยะทาง 104 กิโลเมตร และตอน 2 จาก อำเภอปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 93 กิโลเมตร
"ปัญจะ คุปรัตน์" รองอธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงการบางปะอิน-โคราช ได้ปรับแบบใหม่หลังเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ปรากฏว่างบประมาณก่อสร้างและเวนคืนที่ดินเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยศึกษาไว้ที่ 29,000 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 45,000 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 4,700 ล้านบาท มีผู้ถูกเวนคืนประมาณ 3,400 ราย ส่วนระยะทางสั้นลงจากเดิมเล็กน้อย
"ปลายปี 2551 กรมทางหลวงจะออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน หลังจากแนวเวนคืนมีความชัดเจน และคาดว่าจะของบประมาณเวนคืนในปีงบประมาณ 2552 ส่วนค่าก่อสร้างกำลังดูว่าจะใช้เงินกองทุนหรือใช้เงินกู้ ซึ่งตอนนี้ทางเวิลด์แบงก์ให้ความสนใจจะปล่อยกู้ หรืออาจจะใช้วิธีการลงทุนโดยให้เอกชนเข้าร่วมการลงทุนในรูปการให้สัมปทาน ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ"
ด้านการเวนคืนที่ดิน เนื่องจากโครงการนี้เป็นเส้นทางตัดใหม่ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเวนคืนได้ แต่มีการปรับแบบใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเวนคืนให้มากที่สุด โดยปรับแนวเส้นทางให้ห่างจากอาคารและสิ่งก่อสร้างหลายจุด อาทิ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย นิคมอุตสาหกรรม SIL สุสานฮูลิน โรงปูนซีเมนต์ทีพีไอ ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี คลังแสงและจุดบรรจบทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ฯลฯ
ส่งผลให้ค่าก่อสร้างและค่าเวนคืนของโครงการเพิ่มขึ้นกว่า 40% ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ ได้แก่ 1.ต้องปรับค่าก่อสร้างและค่าเวนคืนที่ดินเพิ่ม จากเดิมที่กำหนดไว้ 29,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นราคาที่ประเมินไว้นานแล้ว ตั้งแต่เมื่อปี 2543
2.จำนวนช่องจราจรและสะพานเพิ่มจาก 4 ช่องจราจรเป็น 6 ช่องจราจร บริเวณช่วงอำเภอบางปะอิน-อำเภอแก่งคอย ระยะทาง 45 กิโลเมตร 3.มีการเพิ่มทางแยกต่างระดับอีก 2 แห่ง คือ ที่บางปะอิน และสระบุรี
4.เปลี่ยนรูปแบบถนนเป็นทางยกระดับบริเวณทางเลี่ยงเมืองสระบุรี ประมาณ 7 กิโลเมตร 5.การปรับแนวเส้นทางช่วงโรงปูนซีเมนต์ทีพีไอ ทำให้ระยะทางช่วงสะพานยกระดับยาวขึ้น 2 กิโลเมตร
6.การปรับแนวเส้นทางช่วงผ่านพื้นที่เขตทหารที่คลังแสง และลำตะคอง ทำให้สะพานยกระดับ มีความยาวเพิ่มขึ้น 8 กิโลเมตร 7.จำนวนจุดทางลอดและทางข้ามเพิ่มขึ้นมาก 8.อาคารด่านพร้อมงานระบบและจุดบริการข้างทางมีจำนวนมากและขนาดอาคารใหญ่ขึ้น
สำหรับแนวโครงการมอเตอร์เวย์สายใหม่สายนี้ จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่อำเภอบางปะอิน ต่อจากวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก ผ่านอำเภอวังน้อย อำเภออุทัย อำเภอหนองแค อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ สิ้นสุดที่อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งจะบรรจบทางเลี่ยงเมืองพอดี
รูปแบบโครงการจะเป็นถนนขนาด 4-6 ช่องจราจร โดยช่วงอำเภอบางปะอิน-แก่งคอย ระยะทาง 45 กิโลเมตร ถนนขนาด 4 ช่องจราจร จากอำเภอแก่งคอย-อำเภอเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 120 กิโลเมตร เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 14 กิโลเมตร ใน 3 ช่วง คือ ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี กิโลเมตรที่ 40-กิโลเมตรที่ 47 บริเวณโรงปูนซีเมนต์ทีพีไอ กิโลเมตรที่ 69-กิโลเมตรที่ 75 บริเวณฟาร์มโคนม อสค. กิโลเมตรที่ 82-กิโลเมตรที่ 84 เป็นทางยกระดับที่ลำตะคองขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 18 กิโลเมตร ช่วงกิโลเมตรที่ 125-กิโลเมตรที่ 143
นอกจากนี้มีทางแยกต่างระดับ รวม 9 แห่ง คือ บางปะอิน วังน้อย หินกอง สระบุรี แก่งคอย มวกเหล็ก ปากช่อง สีคิ้ว นครราชสีมา มีด่านเก็บค่าผ่านทาง 9 แห่ง ที่บางปะอิน วังน้อย หินกอง สระบุรี แก่งคอย มวกเหล็ก ปากช่อง สีคิ้ว ขามทะเลสอ และมีจุดพักรถ 8 แห่ง ที่วังน้อย หนองแค สระบุรี ทับกวาง ปากช่อง ลำตะคอง สีคิ้ว และขามทะเลสอ
ขณะนี้ทุกอย่างพร้อม รอแค่รัฐบาลไฟเขียวก็สามารถเดินหน้าก่อสร้างได้ทันที
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-01-2551
|
|
|
|
|