|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| จัดใหญ่ "รับสร้างบ้าน 2008" ประเดิมอีเวนต์กระตุ้นขาช็อป มี.ค.51 |
|
ย่างเข้าปี 2551 สมาคมธุรกิจรับ สร้างบ้านยังคงวางนโนบายจัดกิจกรรม ในรูปแบบงานเอ็กซิบิชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดเช่นเดิม ปีละ 2 ครั้ง หลังจากงาน "รับสร้างบ้าน 2007" เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถทำยอดขายในงานสูงเกินกว่าเป้า
งานแรกจะเริ่มขึ้นช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม 2551 ใช้ชื่องานว่า "NEWS Home Builder" ครั้งที่ 4 ขึ้น ภายในห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เป้าหมายเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงต้นปี ภายในงานเป็นการร่วมออกบูทของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมในระดับสามัญเท่านั้น ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 24 บริษัท เบื้องต้นมีผู้ประกอบการตอบรับเข้าร่วมงานแล้วจำนวน 19 บริษัท
สำหรับปี 2551 ได้พัฒนารูปแบบการจัดงานให้ดีขึ้น โดยมีพื้นที่จัดงานกว่า 1,700 ตารางเมตร และเพิ่มงบฯโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้น คาดว่าการจัดงานครั้งนี้น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดให้คึกคักมากขึ้น ประกอบกับในช่วงเวลาตรงกับการจัดงานสถานการณ์การเมืองน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนงานใหญ่ประจำปีจะจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2551 ภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
หวังรัฐบาลใหม่สร้างความเชื่อมั่น
ในแง่ของแนวโน้มธุรกิจโดยรวมในปี 2551 หากมองถึงปัจจัยการเมืองซึ่งคาดว่าจะเห็นรัฐบาลชุดใหม่อย่างชัดเจนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 จะเป็นตัวกำหนดอัตราการเติบโตของตลาดรับสร้างบ้านที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะการสร้าง "ความเชื่อมั่น" เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจอย่างเห็นมากที่สุด
โดยกรณีที่ปัจจัยด้านราคาน้ำมันและการเมืองมีทิศทางที่ดีขึ้น ย่อมส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุน ขณะที่สมาคมยังคงเน้นดำเนินนโยบายสร้างมาตรฐานในธุรกิจรับสร้างบ้านต่อไป ที่ผ่านมาคือการจัดทำสัญญามาตรฐานสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านเพื่อใช้เป็นบรรทัดฐาน ในการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค และรู้เท่าทันผู้ประกอบการที่ขาดจริยธรรมในการประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้ ในปี 2550 ถือเป็นอีกปีที่ธุรกิจรับสร้างบ้านสามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัวได้ โดยหลังจากผ่านพ้นไตรมาสที่ 3 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 7,500 ล้านบาท เกือบจะเท่ากับ เป้าหมายที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท จึงเป็นไปได้ว่าภาพรวมตลาดจะเติบโตเกินกว่าเป้าประมาณการที่ตั้งไว้เล็กน้อย โดยสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงเติบโตได้นั้นมีด้วยกันหลายปัจจัยดังนี้
ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นที่ยอมรับมากขึ้น
หลังการก่อตั้งสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเมื่อปี 2547 สมาคมได้วางนโยบายยกระดับมาตรฐานธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับ ตั้งแต่การพัฒนาสินค้า บริการ สร้างจริยธรรมการดำเนินงานของผู้ประกอบการ พัฒนากลยุทธ์การตลาดเพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาฝีมือแรงงานและบุคลากรในองค์กร สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ ได้รับการยอมรับจาก ผู้บริโภค และเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมที่ปลูกสร้างบ้านด้วย "ผู้รับเหมา" รายย่อย มาเป็นบริษัท "รับสร้างบ้าน" มากขึ้น
จัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง
ปี 2550 สมาคมได้จัดงานรับสร้างบ้านใน รูปเอ็กซิบิชั่นปีละ 2 ครั้ง คือ ในช่วงต้นปีเป็น การ จัดงานเฉพาะกลุ่มสมาชิกระดับสามัญของสมาคม และในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีได้จัดงานเอ็กซิบิชั่นใหญ่ภายใต้ชื่อ "รับสร้างบ้าน 2007" ในเดือน สิงหาคม ซึ่งถือเป็นการจัดงานที่มีบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำเข้าร่วมออกงานมากที่สุดกว่า 50 บริษัท และมียอดขายภายในงานประมาณ 1,500 ล้านบาท และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าตลาดรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ราคาวัสดุก่อสร้างไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก
สำหรับราคาวัสดุในปี 2550 มีการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าอาจปรับขึ้นราคาตามราคาน้ำมัน ซึ่งหมายถึงต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นตามมาอย่างไรก็ตามในความเป็นจริงพบว่าราคาวัสดุโดยเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยกเว้นปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น ไม้ ส่งผลให้ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3% และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยอมแบกรับภาระไว้จึงไม่กระทบการตัดสินใจปลูก สร้างบ้านของผู้บริโภคมากนัก
พัฒนารูปแบบบ้านและบริการ
สังเกตได้ว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทรับสร้างบ้านมีการพัฒนารูปแบบบ้านดีขึ้น มีแบบบ้านรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โดยสมาคมมีส่วนร่วมโดยจัดทำหนังสือรวบรวมแบบบ้านใหม่ขึ้นเป็นประจำทุกปี และเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเร่งพัฒนาแบบบ้านรุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่องส่วนการบริการ บริษัทรับสร้างบ้านได้สร้างความแตกต่างจากกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย อาทิ บริการหลังการขาย การรับประกันบ้านเป็นเวลานานขึ้น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
ความต้องการสร้างบ้านยังมีต่อเนื่อง
โดยจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคกว่า 9,000 คน ในงานรับสร้างบ้าน 2007 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่าในปี 2550-2551 มีผู้บริโภคที่มีความต้องการปลูกสร้างบ้าน
ในสัดส่วนสูงถึง 60% ของผู้ตอบแบบสอบถาม สะท้อนว่าในปี 2551 ยังมีผู้บริโภคที่พร้อมหรือเตรียมตัดสินใจปลูกสร้างบ้านเป็นจำนวนมากพอสมควร และทำให้แนวโน้มธุรกิจรับสร้างบ้าน น่าไม่ชะลอตัวลงหรือได้รับผลกระทบเหมือนกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เซ็กเตอร์อื่นๆ
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-01-2551
|
|
|
|
|
