| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 296 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 03-12-2550    อ่าน 11443
 สัญญาณอันตรายอสังหาฯปี"51 น้ำมันพ่นพิษวัสดุขึ้นราคาตั้งตัวไม่ติด !

สกู๊ป


ในที่สุดราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานเกือบแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็จุดชนวนให้วัสดุก่อสร้างหลักอย่าง "ปูนซีเมนต์" จำใจต้องปรับขึ้นราคา หลังจากผู้ผลิตทุกรายต่างอยู่ในสภาพยอมเสียเลือดแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไว้เองมาระยะหนึ่ง

ที่ต้องจับตาคือ "ปูนซีเมนต์นครหลวง" ในฐานะผู้ผลิตปูนรายแรกที่ประกาศปรับราคาได้ระบุว่า การขึ้นราคาปูนอีกตันละ 200 บาท หรือถุงละ 10 บาท ในครั้งนี้ สามารถชดเชยต้นทุนที่แบกรับไว้จริง 60% เท่านั้น

ลึกๆ แล้วอาจสะท้อนว่าภายในปีหน้าอาจเป็นปูนซีเมนต์ปรับขึ้นราคาระลอกสองก็เป็นได้

จากการปรับขึ้นราคาปูนครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณบอกว่าวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ที่ใช้ปูนซีเมนต์เป็นวัตถุดิบ หรือวัสดุตกแต่งอาจทยอยปรับราคาตามมาในเร็วๆ นี้ และย่อมกระทบชิ่งไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อาจต้องปรับราคาบ้านขึ้นตามต้นทุนก่อสร้างใหม่ แม้ว่าหลายฝ่ายจะวิเคราะห์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าจะยังถึงจังหวะ "ฟื้นตัว" อย่างที่หวังกัน

ล่าสุด "สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตไทย" ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มผู้ผลิตเสาเข็ม แผ่นพื้นคอนกรีต คอนกรีตมวลเบา ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยเตรียมจัดสัมมนาและนัดประชุมสมาชิกในวันที่ 6 ธันวาคมนี้

ประเด็นสำคัญคือการร่วมกันหารือทางออกของธุรกิจต่างๆ ในภาวะต้นทุนพุ่งสูงขึ้น แต่ความต้องการใช้ลดลง ซึ่งถือเป็นภารกิจแรกที่ท้าทาย "วิรัตน์ จินดานุวัฒน์" ในฐานะนายกสมาคมคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งหมาดๆ

เนื่องจากในกระบวนการผลิต "เสาเข็ม" ปูนซีเมนต์ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มีต้นทุนคิดเป็น 1 ใน 3 การปรับราคาปูนขึ้นอีกถุงละ 10 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% จากราคาขายเดิม เท่ากับการผลิตเสาเข็มต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้นทันที

"ครั้งนี้ถือว่าเป็นวิกฤตของธุรกิจเสาเข็มเหมือนกัน แต่อาจจะรุนแรงน้อยกว่าช่วงปี 2540 เพราะปัจจุบันโครงการอสังหาฯใหม่ยังมีเกิดขึ้นบ้าง" วิทวัส พรกุล อดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตไทยคนก่อน ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมบอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

ในการนัดประชุมหารือที่จะเกิดขึ้นจึงอาจเป็นไปได้ว่า หนึ่งในแนวทางที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือคือการลดกำลังผลิตหรือปิดโรงงานชั่วคราว สำหรับโรงงานที่คำนวณแล้วว่าหากผลิตต่อไปก็ไม่ถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งจุดคุ้มทุนโดยเฉลี่ยของโรงงาน เสาเข็ม ควรมีการผลิตในสัดส่วน 60% จากกำลังผลิตสูงสุด

สำหรับโรงงานที่หยุดการผลิตชั่วคราว อาจใช้วิธีการสั่งซื้อเสาเข็มจากโรงงานอื่นในราคาพิเศษไปจำหน่ายแทน เพื่อรอจังหวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวค่อยกลับมาเดินกำลังการผลิตอีกครั้ง ซึ่งวิธีการแบบนี้เคยนำมาใช้แล้วในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540

นอกจากเสาเข็ม วัสดุตกแต่งอย่าง "สีทาอาคาร" เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่มีแนวโน้มจะต้องปรับขึ้นราคาในปีหน้า เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่อิงกับราคาน้ำมันเป็นหลัก

โดยค่ายสี "เบเยอร์" ที่ปัจจุบันกำลังมารุกหนักตลาดสีทาอาคารยอมรับว่า ในปีนี้บริษัทได้แบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นไว้เอง และกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาการปรับขึ้นราคาในปีหน้า วิธีการคือ "ดึงส่วนลด" กลับคืนจากร้านผู้แทนจำหน่ายคล้ายๆ กับธุรกิจปูนซีเมนต์ โดยมีปัจจัยหลัก 2 ส่วนคือ 1) หากราคาน้ำมันทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ 2) แนวโน้มผู้ผลิตรายอื่นในตลาด ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยที่จะต้องพิจารณาควบคู่กัน

ส่วนธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ บมจ.โมเดอร์นกรุ๊ป หนึ่งในแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ เป็นผู้ผลิตอีกรายที่อยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้นราคาในช่วงต้นปีหน้า

อย่างไรก็ตาม "ทักษะ บุษยโภคะ" ประธานกรรมการของ บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป ระบุว่าการปรับขึ้นราคาของโมเดอร์นฟอร์มจะดำเนินการเป็นประจำปีละ 1 ครั้ง ในช่วงต้นปี และการปรับราคาครั้งนี้คาดว่าอยู่ในระดับไม่เกิน 3-5% เนื่องจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อาจถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าวัสดุก่อสร้างหรือตกแต่งอื่นๆ โดยหลักคือต้นทุนค่าขนส่ง และวัตถุดิบบางตัว เช่น วัสดุที่มีส่วนผสมของพลาสติก ฯลฯ

แต่ที่แน่ๆ ผลกระทบจากน้ำมันและวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นราคาได้กระทบชิ่งมาถึงภาคธุรกิจอสังหาฯอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" เป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาที่ดินที่ยอมรับว่าในปีหน้าได้เตรียมปรับขึ้นราคาบ้านต้นทุนใหม่ขึ้นอีก 2-4% จากปัจจุบัน เพื่อช่วยพยุงอัตรากำไรขั้นต้นไม่ให้ปรับลดลงมากนัก โดยผลพวงของราคาน้ำมันนอกจากจะส่งผลให้วัสดุก่อสร้างหลักอย่างปูนซีเมนต์ปรับขึ้นราคาไปแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคในโครงการ รวมถึงค่าจ้างถมดินซึ่งปรับขึ้นมาประมาณ 20% จากช่วงต้นปีนี้

ส่วน "เสนาดีเวลลอปเม้นท์" เป็นอีกรายที่วางแผนตั้งรับต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ร่วมกับผู้รับเหมาพัฒนาวิธีการก่อสร้างให้รวดเร็วขึ้น รูปแบบคือเป็นการผสมผสานและแลกเปลี่ยนเทคนิคระหว่างบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เข้ามารับงานหลายๆ รายเข้าด้วยกัน

โดยปีหน้าเสนาฯตั้งธงการก่อสร้างบ้านต่อ 1 หลัง จะต้องแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วัน จากปัจจุบันที่ใช้เวลาประมาณ 90-120 วัน เพื่อช่วยลดต้นทุนและทดแทนการปรับขึ้นราคาบ้าน

เช่นเดียวกับธุรกิจ "รับสร้างบ้าน" ซึ่งกลุ่มกรรมการสมาคมต่างระบุว่า ปีหน้าราคารับสร้างบ้านน่าจะต้องปรับขึ้นตามต้นทุนแน่ คาดว่าโดยภาพรวมน่าจะมีการปรับขึ้นราคาบ้านเฉลี่ย 5-10%

เรียกว่านอกจากวัสดุขึ้นราคา ปีหน้าบ้านจัดสรรและบ้านสร้างเองมีแนวโน้มแพงขึ้นอีกด้วย
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-12-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.