| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 358 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 03-12-2550    อ่าน 12094
 "เฮฟต้า" ต่อยอดโปรดักต์ไวนิล เปิดตัวนวัตกรรม "เรือนกระจกน็อกดาวน์"

รายงาน


ในวงการประตูหน้าต่าง "ไวนิล" วัสดุทดแทนที่กำลังได้ความรับนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ "เฮฟต้า" ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำที่เข้ามารุกตลาดได้ 2-3 ปี ถึงตอนนี้มีเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายแล้วกว่า 40 รายทั่วประเทศ

ล่าสุด เฮฟต้ามองเห็นช่องทางการตลาดใหม่ด้วยการเปิดตัว "เรือนกระจกน็อกดาวน์" ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นด้วยการนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่มาต่อยอดสร้างตลาดใหม่

ปัจจุบันเรือนกระจกแบบน็อกดาวน์ถูกนำไปอวดโฉมอยู่บริเวณหน้าศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม จนถึงช่วงกลางเดือนมกราคมปีหน้า โดยออกแบบตกแต่งเป็นร้านกาแฟดีไซน์เก๋ หลังจากเคยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบ้านและสวนแฟร์ 2007 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับดีจากผู้เข้าชมงาน

สำหรับประเทศอังกฤษ เยอรมนี เรือนกระจกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมานานแล้ว แต่ใช้ชื่อเรียกต่างกันว่า "Conservatory House" (บ้านอนุรักษ์) เช่น ประเทศอังกฤษ ซึ่งเริ่มต้นมาจากการสร้างเรือนกระจกไว้ในพระราชวัง ระยะแรกใช้ไม้เป็นวัสดุ และพัฒนามาใช้โลหะไวนิล ตามลำดับ ระยะหลังเรือนกระจกเริ่มแพร่หลายมากขึ้นโดยถูกนำมาออก แบบดัดแปลงเป็นร้านอาหาร อาคารสำนักงานชั่วคราว ห้องรับประทานอาหาร ห้องนอน ฯลฯ

ทำให้เฮฟต้ามองว่าเมืองไทยก็น่าจะตอบรับกับสินค้าตัวนี้เช่นเดียวกัน จึงทดลองนำเข้ามาทำตลาดพร้อมกับพัฒนาระบบติดตั้งให้เป็นแบบ "น็อกดาวน์" ถอดประกอบได้ง่าย เพื่อเพิ่มความสะดวกให้สามารถย้ายเรือนกระจกไปติดตั้งใหม่ที่ไหนก็ได้ เป้าหมายคือกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับไฮเอนด์ โดยเคาะราคาขายเฉลี่ย 2.5 หมื่น/ตร.ม.

รูปแบบของเรือนกระจกน็อกดาวน์ มีโครงสร้างทำจากไวนิล ส่วนผนังทำจากกระจก สีเขียวตัดแสงความหนา 6 มิลลิเมตร เพื่อช่วยลดความร้อน ยกเว้นด้านบนเป็นวัสดุประเภท โพลีคาร์บอเนต หรือจะเลือกใช้กระจกแบบนิรภัยก็ได้แล้วแต่ความต้องการลูกค้า

มีดีไซน์ให้เลือก 3 แบบคือ 1) จอร์เจี้ยนต์ ลักษณะเด่นคือหลังคาทรงหน้าจั่ว เหมาะกับการสร้างเรือนกระจกขนาดใหญ่

2) วิกตอเรีย ลักษณะเด่นคือมีหลังคา ทรงหน้าจั่ว 3 อันต่อเชื่อมกัน แบบนี้จะดูหรูหราแต่ผลิตได้ยากกว่า และ 3) เอ็ดเวิร์ดเดี้ยน ออกแบบพิเศษให้มีลักษณะหลังคาเป็นมุม 5-8 เหลี่ยม เพื่อให้ดูแปลกแตกต่าง

โดยเรือนกระจกที่โชว์อยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ปัจจุบัน เป็นสไตล์วิกตอเรีย มีขนาด 5.5x10x4 เมตร (กว้างxยาวxสูง) เบ็ดเสร็จมีพื้นที่ใช้สอยรวม 55 ตารางเมตร ราคา 1.5 ล้านบาท (ไม่รวมตกแต่งภายใน) ส่วนถ้าต้องการเปลี่ยนหลังคาให้จากโพลีคาร์บอเนตเป็นกระจกนิรภัย ราคาจะขยับเพิ่มสูงขึ้นอีกพอสมควร นอกจากนี้ยังสามารถปรับเพิ่มหรือลดขนาดความกว้าง ยาว สูง ได้ตามความต้องการ เบ็ดเสร็จใช้เวลาในการติดตั้งหรือการถอดย้ายไปประกอบในสถานที่แห่งใหม่รวมประมาณ 8 วัน

หลังจากเริ่มทำตลาดมาระยะหนึ่ง เฮฟต้ามีลูกค้าทั้งโครงการบ้านจัดสรร รีสอร์ต โรงแรม รวมแล้ว 14 หลัง มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท

และมีผู้เข้าชมงานบ้านและสวนแฟร์ 2007 อีกประมาณ 100 ราย ที่ลงชื่อแสดงความสนใจ โดย "วิทยา เปี่ยมพงศ์สุข" ผู้จัดการทั่วไปของ "เฮฟต้า" ประมาณการว่า เฉพาะในปี 2551 เรือนกระจกน็อกดาวน์น่าจะสร้างยอดขายให้กับ เฮฟต้าได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เฮฟต้ายังไม่ได้หยุดการพัฒนาเรือนกระจกน็อกดาวน์เพียงเท่านี้ โดยสเต็ปถัดไปคือการวิจัยพัฒนาโดยใช้ "สลิง" เป็นตัวยึดกับฐานราก รูปแบบคล้ายๆ กับสะพาน ซึ่งจะช่วยให้มีต้นทุนลดลงได้อีกส่วนหนึ่ง
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-12-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.