Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
สนามกอล์ฟเมืองแก้วบุกเหนือ ปักหมุดเชียงใหม่ขึ้นโครงการ |
|
"ม่อนพญาพรหม" บริษัทในเครือบริษัทสนามกอล์ฟเมืองแก้วทุ่ม 4 พันล้าน ผุด "เชียงใหม่ ไฮแลนด์ กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท" สนามกอล์ฟน้องใหม่สวยงามที่สุดอันดับ 3 ในเอเชีย พร้อมบ้านเดี่ยวสไตล์ยุโรปล้านนาประยุกต์ รีสอร์ต สปา ฟิตเนสครบวงจร เจาะลูกค้าไทย-ต่างชาติ
นายวรนล สามโกเศศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ม่อนพญาพรหม จำกัด ในเครือบริษัทสนามกอล์ฟเมืองแก้วเปิดเผยว่าบริษัทได้เปิดตัวโครงการ เชียงใหม่ ไฮแลนด์ กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท บนเนื้อที่กว่า 700 ไร่ ที่ตำบลออนเหนือ กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โดยโครงการจะแบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกจะพัฒนาเป็นสนามกอล์ฟ 18 หลุม รวมทั้งรีสอร์ตและสปา ส่วนที่ 2 จะเป็นบ้านพักอาศัยรอบสนามกอล์ฟ รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท
ในส่วนของสนามกอล์ฟบริษัทได้จัดสรรเนื้อที่ประมาณ 450 ไร่ พัฒนาเป็นสนามกอล์ฟที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดในภาคเหนือ โดยได้รับการโหวตเป็นอันดับ 3 ของสนามน้องใหม่ที่สวยที่สุดในเอเชีย จากหนังสือ Asian Golf Monthly ในปี พ.ศ.2549 ที่ผ่านมา ตัวสนามออกแบบโดย Mr.Lee Schmidt จากบริษัท Schmide-Curley Golf Design ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงด้านการออกแบบสนามกอล์ฟทั่วโลก ขณะนี้โครงการในส่วนของสนามกอล์ฟพร้อมเปิดให้บริการแล้ว
นายวรนลกล่าวว่า สำหรับตัวโครงการบ้านเดี่ยว ออกแบบเป็นบ้านสไตล์ยุโรปล้านนาประยุกต์ เน้นพื้นที่ใช้สอยนอกบ้านมากกว่าในบ้าน โดยตัวบ้านมีให้เลือก 5 แบบ ได้แก่ บ้านทับภูคา บ้านทับธารา บ้านทับจันทรา บ้านทับนครา และบ้านทับเทวา แต่ละแบบแสดงถึงความเป็นล้านนาแบบไทย มีทั้งหมด 300 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 222-382 ตร.ม. ขนาด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จนถึง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นที่ 5.8 ล้านบาท
"โครงการเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อปี 2547 ตอนนั้นที่ๆ เชียงใหม่ 1 ไร่ ประมาณ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท จากนั้นก็ค่อยๆ ทยอยซื้อ คอนเซ็ปต์ของเราคือต้องการรองรับลูกค้าคนกรุงเทพฯ
ที่ต้องการหนีความวุ่นวายและอยากพักผ่อนในบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ โปรเจ็กต์นี้เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ ที่มีทั้งสนามกอล์ฟ รีสอร์ต บ้านเดี่ยว สปา ฟิตเนส สนามเทนนิส คลับเฮาส์ และห้องอเนกประสงค์
โดยกลุ่มเป้าหมายจะเน้นที่คนกรุงที่มาพักผ่อน ลูกค้ามีทั้งต่างชาติและคนไทย ในส่วนของยุโรปก็จะมีสแกนดิเนเวีย เยอรมนี ส่วนโซนของเอเชียมี ญี่ปุ่น เกาหลี"
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาน่าจะแล้วเสร็จใน 3 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้มีลูกค้าสนใจและจองซื้อบางส่วนแล้ว แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เห็นได้จากลูกค้าโดยเฉพาะชาวต่างชาติต่างชะลอการตัดสินใจซื้อ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายลง มีการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ช่วงต้นปีหน้า เศรษฐกิจน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลดีทำให้ผู้บริโภคทั้งไทย และต่างชาติ มีความมั่นใจและกล้าตัดสินใจซื้อบ้านมากขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-12-2550
|
|
|
|
|