| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 391 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 03-12-2550    อ่าน 11507
 กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ คลิก "4 Joy" ดันยอดเฟอร์ฯ "อินเด็กซ์"

วงการเฟอร์นิเจอร์เมืองไทยแม้จะมีผู้เล่นบิ๊กแบรนด์เพียงแค่ไม่กี่ราย แต่ด้วยเงื่อนไขของกาลเวลาที่ทำให้พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้ค่ายเฟอร์นิเจอร์ระดับผู้นำในตลาดต้องพลิกกลยุทธ์หลากหลาย รูปแบบมัดใจลูกค้า

ในฐานะเป็นผู้ประกอบการแถวหน้า หลายปีที่ผ่านมานอกจากจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ การจัดกิจกรรมการตลาด อีเวนต์ออกมาอย่างต่อเนื่องแล้ว "อินเด็กซ์" ยังมีส่วนสำคัญทำให้เกิดสีสันและความคึกคักขึ้นในวงการเฟอร์นิเจอร์ ส่งผลให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์เมืองไทยมีการพัฒนาจากรูปแบบเดิมๆ และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตามมา

โดยเฉพาะการเปิดศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบบโมเดิร์นเทรด "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ตลอดจนบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการตกแต่งบ้านแบบครบวงจร จนสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการเฟอร์นิเจอร์ได้ ทุกก้าวความเคลื่อนไหวของ "อินเด็กซ์" จึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง

หลังจากจัดแคมเปญ "Top 20 Shoppers to Top of the World in Tibet" เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้า กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา "กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด ในเครือ อินเด็กซ์อินเตอร์เฟิร์น ได้นำคณะลูกค้าพร้อมสื่อมวลชนเดินทางไปสัมผัสดินแดนหลังคาโลก "ทิเบต" และ "จีน" พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มทิศทางของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งนโยบาย แผนการดำเนินการ ตลอดจนกลยุทธ์ในการบริหารจัดการ เป้าหมายก็เพื่อให้ "อินเด็กซ์" สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์เมืองไทย ขณะเดียวกันก็ผลักดันแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงการในระดับ อินเตอร์ด้วย

เปิดประเด็นด้วยการมองภาพรวมธุรกิจ เฟอร์นิเจอร์ยุคเศรษฐกิจชะลอตัวในปีนี้ "กิจจา" มองว่า แม้ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐรวบรวมสถิติตัวเลขในตลาดเฟอร์นิเจอร์เอาไว้อย่างเป็นทางการ แต่จากข้อมูลที่มีอยู่ก็พอ จะชี้ให้เห็นถึงดีมานด์และซัพพลายในตลาดได้ ประเมินดูแล้วจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง บวกปัญหาทางการเมือง สถานการณ์ราคาน้ำมัน ซึ่งล้วนแต่ทำให้ความมั่นใจของผู้บริโภคลดลง ส่งผลให้ดีมานด์ในตลาดเฟอร์นิเจอร์ปีนี้ ลดลงจากปีที่ผ่านมาราว 30%

ที่เห็นชัดเจนคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บาง เซ็กเตอร์โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ผู้ประกอบการหายไปเยอะ โชคดีที่มีตลาดซิตี้คอนโดฯมาทดแทน บริษัทพัฒนาที่ดินค่ายใหญ่ๆ มาทำซิตี้คอนโดฯ กันเกือบทุกราย จึงมีดีมานด์ในส่วนของผู้บริโภคที่ซื้อคอนโดฯซึ่งที่ผ่านมาเริ่มทยอยโอนห้องชุดมาทดแทน

"ถามว่ามองปีหน้าเป็นอย่างไร คิดว่าไม่น่าจะแย่ไปกว่าปีนี้ เพียงแต่จะดีขึ้นหรือไม่ต้องดูเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันปีหน้าต้องคอยจับตาดูว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ถ้าราคาไม่ปรับขึ้นสูงมาก มีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลชุดใหม่ ถ้าตั้งได้เร็ว ทำอะไรเร็ว แล้วผลเป็นบวก ก็จะทำให้เศรษฐกิจดี ความเชื่อมั่นดีขึ้น ตลาดที่อยู่อาศัยก็เช่นเดียวกัน คิดว่าปีนี้จะไม่แย่ลงไปกว่านี้แล้ว"

ในส่วนของ "อินเด็กซ์" เขามั่นใจว่า ด้วย จุดเด่นที่มีอยู่จากที่แบรนด์อินเด็กซ์เป็นที่รู้จักใน วงกว้าง และได้รับความเชื่อถือในกลุ่มผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มีช่องทางจัดจำหน่ายที่มากที่สุด ปีหน้าจึงน่า จะไปได้ดี

"กิจจา" บอกว่า ที่กล้าฟันธงอย่างนั้นเป็นเพราะนอกจากข้อเด่นที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ "อินเด็กซ์" มีลูกค้าโครงการอย่างโครงการซิตี้คอนโดฯ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ อยู่ในมือจำนวนมาก ซึ่งเวลานี้เริ่มทยอยโอนบางส่วนแล้ว และจะมากยิ่งขึ้นในปีหน้า เท่ากับว่ามีลูกค้าลอตใหญ่ๆ หลายลอตรออยู่

"ตลาดโครงการเวลานี้มีออร์เดอร์อยู่ประมาณ 6,000-8,000 ห้อง ต้องทยอยส่งมอบตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป รวมประมาณ 16 เดือน ส่วนใหญ่เป็นซิตี้คอนโดฯ นอกนั้นมีบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์รวมอยู่ด้วย"

เขาบอกว่าแม้การขายเฟอร์นิเจอร์ลอตใหญ่เข้าโครงการจะมีมาร์จิ้นต่ำกว่าขายปกติบ้าง แต่ข้อดีคือปริมาณวอลุ่มจะเยอะกว่ามาก

"อินเด็กซ์" จึงให้ความสำคัญกับตลาดนี้ เห็นได้จากการมีทีมติดตั้งเฟอร์นิเจอร์เข้าโครงการโดยเฉพาะถึง 40 ทีม นอกนั้นยังมีทีมขนส่งโลจิสติกส์ ทีมออกแบบ ทีมผลิต ทีมอาร์คิเทกต์ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานกับสถาปนิกของโครงการ

ไม่แปลกที่ดีเวลอปเปอร์บิ๊กแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, แสนสิริ, แอล.พี.เอ็น., เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ฯลฯ จะเลือกติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ "อินเด็กซ์" ให้กับลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯ บ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮาส์ จนทำให้ค่ายนี้มีงานโครงการในมือสูงที่สุดในตลาด ส่งผลให้ยอดขายเติบโตมากขึ้นตามไปด้วย

"กิจจา" บอกว่า งานโครงการดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ ยาก เพราะต้องมีความพร้อมในการผลิต ต้องมีโกดังเก็บสินค้า ก่อนจะออกไปติดตั้งก็ต้องมีทีมออกแบบ ทีมผลิต ทีมติดตั้ง มีอาร์คิเทกต์ที่จะต้องดิวกับทางโครงการพร้อม

ในเรื่องของการบริหารจัดการองค์กร ที่ผ่านมา "อินเด็กซ์" มีการพัฒนาโมเดลธุรกิจอย่างต่อเนื่องจนสามารถก้าวเป็นผู้นำในตลาด ขณะที่การวิจัยด้านการตลาดและพฤติกรรมของลูกค้า ที่ผ่านมาก็ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ โดยยอมทุ่มงบประมาณทำอย่างน้อย 3-4 เดือน/ครั้ง ซึ่งผลที่ได้รับกลับมาก็คุ้มค่า

"อีกด้านหนึ่งเราพยายามสร้างเค้กให้ใหญ่ขึ้นด้วยการขยายฐานด้านการตลาด เดือนธันวาคมนี้ เราจะเปิด "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" ที่อุดรธานี ขนาดเนื้อที่ 1.8 หมื่น ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในประเทศ จากนั้นไตรมาสแรกปีหน้าจะเปิดสาขาใหม่ที่ชลบุรี ขนาด 1.5 หมื่น ตร.ม. กลางปีเปิดที่ขอนแก่น 1.8 หมื่น ตร.ม. เพราะแถบภาคอีสานกำลังซื้อเยอะมาก"

เมื่อสร้างเค้กใหญ่ขึ้นก็มีมาร์เก็ตแชร์มากสุด ยอดขายก็สูงขึ้น "อินเด็กซ์" เลยเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดด้วยการตอกย้ำ "enjoy customer strategy" 4 Joy ออกมา ประกอบด้วย Joy Price, Joy Design, Joy Quality และ Joy Service เนื่องจากว่าคอนเซ็ปต์ให้ "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ ซึ่งแตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์สโตร์แบบธรรมดาๆ ที่เป็นรูปแบบเก่าๆ

"เราพยายามทำให้ลูกค้าได้อยู่อาศัยดีขึ้น มีความเป็นอินเทรนด์มากขึ้น ไม่ได้ขายอินโซลูชั่นเพียงอย่างเดียว แต่ลูกค้าของเราต้องมีดีไซน์ มีแอ็กเซสซอรี่ ดีไซน์ดี มีคุณภาพ ทันสมัย และราคาไม่แพง สิ่งที่เรามุ่งมั่นทำหลักๆ คือ ขยายเซ็กเมนต์ ทำวอลุ่มให้ใหญ่ขึ้น ทำการตลาดต่อเนื่อง เพื่อทำเป็นสินค้าที่มีดีไซน์"

อย่างล่าสุดหลังจากออกสปอตโฆษณาชุดใหม่ โดยดึงดีไซเนอร์ชื่อดัง นายรูตเกอร์ แอนเดอร์สัน ที่ทำงานร่วมกับอินเด็กซ์มากว่า 10 ปี และเคยเป็นดีไซเนอร์ให้ IKEA เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังระดับโลก 2-3 สัปดาห์ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมาก

"กิจจา" บอกว่า แม้เวลานี้ตลาดเฟอร์นิเจอร์แข่งขันกันมากขึ้น แต่จากที่ "อินเด็กซ์" เน้นความเฟรชด้วยการพยายามปรับ room setting ปรับไลฟ์สไตล์ให้โดนใจลูกค้าคนรุ่นใหม่ พร้อมๆ กับเอดูเดตให้ลูกค้ารู้จักเลือกซื้อเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ คุณภาพดี และราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด บวกกับเซอร์วิสที่ทำมานานจึงทำให้แบรนด์อินเด็กซ์ยังเป็นตัวเลือกที่ลูกค้าเลือกในลำดับแรกๆ

เขาย้ำว่าปีหน้าจะยังใช้ 4 Joy เป็นหลัก แต่จะแอปพลายอะไรเพิ่มขึ้น เพราะปีกว่าที่ผ่านมาหลังนำกลยุทธ์นี้มาใช้ มีผลชี้วัดชัดเจนว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ สามารถผลักดันยอดขายให้สูงขึ้นมาก โดยปีนี้คาดว่ายอดขายโดยรวมทั้งปี น่าจะอยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่อยู่ในระดับ 6 พันล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นอีก 10-15%

นอกจากบุกตลาดในประเทศต่อเนื่องเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ต้องการให้ "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" เป็นแหล่งรวมสินค้าตกแต่งบ้านที่ดีที่สุดในเมืองไทยแล้ว อีกด้านหนึ่งก็จะผลักดันแบรนด์ให้ก้าวสู่ระดับอินเตอร์ด้วย

นอกจากรับจ้างผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบ OEM เหมือนที่ผ่านมาแล้ว ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ มีเป้าหมายจะเจาะตลาดสร้างแบรนด์ "อินเด็กซ์" ให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น โดยนำร่องในบางประเทศก่อนอย่างเวียดนาม ยุโรป เป็นต้น เพราะเชื่อมั่นว่าเวลานี้ แบรนด์ "อินเด็กซ์" ไม่ได้เป็นรองใคร
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-12-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.