Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
กระเบื้องตราเพชรโปรโมตตลาด เจาะสถาปนิกรุกบ้านร่วมสมัย |
|
"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" เจาะกลุ่มสถาปนิก ทุ่มงบฯการตลาด 20 ล้านบาท ชู "กระเบื้องว่าวเจียระไน" รุกโครงการบ้านสไตล์ร่วมสมัย หวังขยายตลาดงานโครงการเพิ่มเป็น 10% เผยรายได้ไตรมาส 3 ตัวเลขฉลุย คาดทั้งปีแตะ 2.6 พันล้านบาทตามเป้า ปีหน้ารุกส่งออกเจาะตลาดใหม่ ดันยอดขายโตต่อเนื่อง
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตกระเบื้องหลังคาภายใต้แบรนด์ "ตราเพชร-อดามัส-เจียระไน" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2551 จะเน้นการเจาะตลาดผ่านกลุ่มสถาปนิก เพื่อสานต่อนโยบายการขยายฐานลูกค้ากลุ่มงานโครงการ
โดยมีโปรดักต์ธงคือ "กระเบื้องว่าว" สินค้าใหม่เป็นหัวหอกในการเจาะตลาด จุดเด่นคือการพัฒนาดีไซน์และคุณภาพ โดยผลิตจากปูนซีเมนต์และออกแบบแผ่นกระเบื้องให้เป็นปลายตัด ช่วยให้งานมุงหลังคามีมิติที่ชัดเจนมากขึ้น แตกต่างจากกระเบื้องว่าวทั่วไปที่ผลิตจากดินเผา แม้จะมีความสวยงามแต่ข้อเสียคือไม่ทนทานและน้ำรั่วซึมได้ง่าย
"กระเบื้องว่าวจะเหมาะกับบ้านแนวร่วมสมัย คือโมเดิร์นแต่คงความคลาสสิกในตัวเอง เป้าหมายคือเพิ่มสัดส่วนยอดขายงานโครงการจาก 5% เป็น 10% ในปีหน้า"
ทั้งนี้บริษัทวางงบฯการตลาดจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อโปรโมตสินค้า ล่าสุดได้จัดงานเสวนาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ พร้อมนำเสนอไอเดีย 10 สถาปนิกชั้นนำ อาทิ รศ.ฤทัย ใจจงรัก อาจารย์วนิดา พึ่งสุนทร ศ.ดร.ตรึงใจ บูรณสมภพ ฯลฯ ที่นำกระเบื้องว่าวมาเป็นส่วนประกอบในการออกแบบอาคารต่างๆ เพื่อเผยแพร่คุณสมบัติของกระเบื้องว่าวเจียระไนให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยมีสถาปนิกที่เชิญมาร่วมงานประมาณ 450 คน
สำหรับยอดขายช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา นายสาธิตกล่าวว่า บริษัทมียอดขายรวม 613 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาทเศษ เติบโตจากปีก่อน 19% เบ็ดเสร็จมียอดขายรวมในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา 1,974 ล้านบาท กำไรสุทธิ 316 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 2,600 ล้านบาท ถือว่าใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้
โดยในช่วงเดือนธันวาคมนี้บริษัทมีแผนจัดกิจกรรมเทรดโปรโมชั่นหรือการให้ส่วนลดกับร้านผู้แทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นการสต๊อกสินค้าในช่วงปลายปี ก่อนถึงฤดูการขายในช่วงต้นปีหน้า
ปี 2551 บริษัทวางเป้าเติบโตด้านรายได้อีก 10% กลยุทธ์หลักมาจากการขยายตลาดงานโครงการและตลาดต่างประเทศ โดยเน้นไปที่การเปิดตลาดใหม่ๆ ได้แก่ อินเดีย เกาหลี เวียดนาม ออสเตรเลีย และประเทศแถบตะวันออกกลาง จากปัจจุบันที่ส่งออกไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นหลัก
สำหรับแนวโน้มตลาดกระเบื้องหลังคาในปีหน้าเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของ
โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ ยกเว้นเมืองท่องเที่ยว อาทิ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต ฯลฯ คาดว่าตลาดน่าจะไปได้ดี
ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้วางแผนรองรับด้วยการปรับเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงในขั้นตอนการพ่นสีกระเบื้องมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี รวมถึงในปีหน้าจะทยอยปรับเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีในรถขนส่งเพิ่มขึ้นแทนการใช้น้ำมันดีเซล เพราะมีต้นทุนต่ำกว่า 3 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซล
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 19-11-2550
|
|
|
|
|