Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"สตาร์มาร์ค"รุกใหญ่ แตกเพื่อโตแบบครบวงจร |
|
หากเอ่ยถึง "สตาร์มาร์ค" แบรนด์ชุดครัวระดับไฮเอนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน 25 ปี อาจดูเหมือนยาวนาน แต่นับจากนี้ "สเต็ปใหม่" ในการขยายธุรกิจของสตาร์มาร์คกำลังเริ่มต้น
"สตาร์มาร์ค" ถือเป็นแบรนด์ชุดครัวระดับไฮเอนด์ที่ครองมาร์เก็ตแชร์ระดับต้นๆ ในตลาดโครงการบ้านจัดสรร ทั้ง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, คิวเฮ้าส์, แสนสิริ, เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นลูกค้าทั้งสิ้น
ในวัยเบญจเพส สตาร์มาร์คกำลังก้าวสู่ความท้าทายครั้งใหม่ ด้วยการขยายไลน์ธุรกิจแบบ
แอ็กเกรสซีฟที่สุดครั้งหนึ่ง โดยใช้ "ลิฟวิ่ง แอท โฮม" บริษัทในเครือเป็นหัวหอกผลิตสินค้าใหม่ในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์บ้านและของตกแต่ง ขณะเดียวกันก็จัดตั้งบริษัทใหม่ "ไอดอล ซิสเต็ม" เพื่อรุกตลาดบันไดสำเร็จรูปที่ผลิตจากไม้ เหล็ก และอะลูมิเนียม หลังจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้แตกไลน์รุกตลาดสุขภัณฑ์ในนามบริษัทในเครือ "โมเก้น (ประเทศไทย)"
"ด้วยภาวะเศรษฐกิจตอนนี้บางคนอาจนิ่ง
หรือชะลอลงทุน แต่สำหรับเราเลือกเดินหน้าเต็มตัวหลังจากใช้เวลาเตรียมตัวมานาน 2 ปี ผมว่า
เราตัดสินใจไม่ผิดแน่นอน" พีรพัฒน์
ศรีสกุลภิญโญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทสตาร์มาร์ค บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ก่อนงานอีเวนต์ฉลองครบรอบ 25 ปีของบริษัทจะเริ่มต้นไม่กี่ชั่วโมง
การขยายธุรกิจครั้งนี้ดำเนินการผ่านงบฯ ลงทุน 300 ล้านบาท ในจำนวนนี้แยกเป็นการลงทุนใน "สตาร์มาร์ค" 150 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์บริหารจัดการและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงขยายโรงงานเพื่อผลิตชุดครัวระดับกลางและซูเปอร์ไฮเอนด์ ส่วนที่เหลืออีก 150 ล้านบาท ใช้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตบันไดสำเร็จรูปและผลิตเฟอร์นิเจอร์บ้าน
เป้าหมายของการแตกเพื่อโต ก็เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและเพิ่มความได้เปรียบเทียบในการนำเสนอสินค้าเพื่อเจาะตลาดงานโครงการ ภายใต้กลยุทธ์ "Integrate Solution" หรือการนำเสนอสินค้าเป็นแพ็กเกจทั้งชุดครัว สุขภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์บ้าน บันไดสำเร็จรูป พร้อมบริการแบบครบวงจร
สินค้าใหม่ทั้งหมดจะเริ่มผลิตออกสู่ตลาดได้ภายในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า
ในเชิงการบริหารองค์กรได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ โดยบริษัทในเครือทั้ง 4 บริษัท จะมีกรรมการผู้จัดการทำหน้าที่บริหารงานแยกกันชัดเจน
"นันทนา ศรีสกุลภิญโญ" ในฐานะน้องสาวยังคงนั่งเก้าอี้ผู้บริหารสตาร์มาร์ค เช่นเดียวกับ "พงษ์ธร วานิชพงษ์พันธุ์" ที่ยังคงดูแลสุขภัณฑ์โมเก้น
ส่วนผู้บริหารที่เข้ามาดูแล 2 ธุรกิจใหม่ คนแรกคือ "ยรรยง พงษ์สุทธิมนัส" อดีตผู้บริหารออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ร้อกเวิธ เข้ามาดูแลธุรกิจเฟอร์นิเจอร์บ้าน และ "สุทธิชัย ธีระศักดิ์" วิศวกรที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวมาก่อนเข้ามาดูแลธุรกิจบันไดสำเร็จรูป ซึ่งทั้งคู่ต่างถือหุ้นในนามส่วนตัว
ในบริษัทที่ตนดูแลด้วย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20%
ส่วน "พีรพัฒน์" ในฐานะซีอีโอจะดูแลนโยบายในภาพรวมและงานออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ทั้ง 4 แบรนด์ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากส่วนกลาง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 25 คน
วิธีการแบบนี้จะช่วยให้แต่ละบริษัทสามารถพัฒนาตัวเองไปสู่ความเป็นสเปเชี่ยลลิสต์ ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้เหมือนกับสตาร์มาร์คที่ปั้นแบรนด์จนติดลมบนไปแล้ว
ส่วนเป้าหมายในอนาคต กลุ่มบริษัทสตาร์มาร์คมองไปถึงการผลักดันสินค้าไปสู่ตลาดระดับภูมิภาคอาเซียน หลังจากได้นำร่องส่งออกสุขภัณฑ์ไปจำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า และจะขยายมาสู่ตลาดในแถบอาเซียนมากขึ้น
ควบคู่ไปกับการขยายโชว์รูมในประเทศ โดยแต่ละแบรนด์จะมีโชว์รูมสินค้าแยกจากกันชัดเจน เฉพาะในปี 2551 สตาร์มาร์ควางแผนเปิดโชว์รูมภายในโฮมโปรและโฮมเวิร์ค รวม 5 สาขา จากปัจจุบันมี 42 สาขา รวมถึงอยู่ระหว่างวางแผนและมองหาทำเลเปิดโชว์รูมสินค้าอื่นๆ ต่อไป
จากแผนการลงทุนครั้งนี้คาดว่าจะทำให้กลุ่มสตาร์มาร์คมียอดขายใกล้เคียงหรือแตะ 1,000 ล้านบาท ได้ในปีหน้า และทำให้คู่แข่งต้องหันมาจับตามองมากขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 12-11-2550
|
|
|
|
|