|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| โอละพ่อ"ค่าเช่า"แฟลตดินแดง ชาวบ้านขอจ่ายอ้างรักษาสิทธิ์ |
|
ผู้เช่าแฟลตดินแดงค้านมติบอร์ด กคช.ทันควัน หลังไม่ต่อสัญญาเช่ารอบใหม่ เหตุจากคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติชี้โครงสร้างอาคารไม่ปลอดภัย แต่ชาวบ้านหวั่นรัฐลงทุนผุด โปรเจ็กต์ในอนาคตจะเสียสิทธิในการเข้าอยู่อาศัย การเคหะฯรับลูกข้อเสนอเตรียมชงเรื่องขอทบทวน
แหล่งข่าวจากการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) กคช. ที่มีนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน มีมติไม่ต่อสัญญาเช่าให้กับผู้เช่าแฟลตดินแดงอาคาร 1-8 บริเวณริมถนนดินแดง และแฟลตดินแดงอาคาร 21-32 ด้านริมถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 20 อาคาร 1,300 หน่วย เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย และเกรงว่าหากต่อสัญญาเช่าให้ กคช.อาจต้องรับผิดชอบกรณีตัวอาคารซึ่งเวลานี้อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมก่อให้เกิดอันตรายกับผู้อยู่อาศัย
ประกอบกับคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีหนังสือมาถึง กคช. โดยระบุว่า ปัจจุบันอาคาร ดังกล่าวไม่มีความปลอดภัยในการอยู่อาศัย จึงต้องการให้ กคช.หาทางป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้า ขณะเดียวกัน กคช.มองว่าหากจะซ่อมแซมจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งไม่มีงบฯเพียงพอ จึงต้องแก้ปัญหาโดยไม่ต่อสัญญาให้ผู้เช่า เพราะหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวความรุนแรงขนาด 8 ริกเตอร์ ที่อินโดนีเซีย ได้เกิดรอยเลื่อนใหม่ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออาคารสูงใน กทม. ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะกระทบโครงสร้างแฟลตดินแดงได้ในอนาคต
"ปกติ กคช.จะต่อสัญญาเช่าให้แบบปีต่อปี เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมไปสิ้นสุดในเดือนกันยายนปีถัดไป เท่ากับว่าสัญญาเช่าจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายนนี้ บอร์ดจึงไม่ต้องการให้ต่อสัญญาออกไปอีก เพราะเกรงว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กคช.จะรับมือไม่ไหว" แหล่งข่าวกล่าว และว่า
อย่างไรก็ตาม หลังมีกระแสข่าวเรื่องนี้ออกมา ปรากฏว่าผู้เช่าปัจจุบันได้เคลื่อนไหวคัดค้าน โดยบางส่วนเรียกร้องขอจ่ายค่าเช่าต่อไปเพื่อรักษาสิทธิ์ของตนไว้ เพราะเกรงว่าหากไม่จ่ายค่าเช่าจะไม่ได้สิทธิ์ในการเข้าอยู่อาศัยในโครงการนี้อีก หากมีการพัฒนาขึ้นใหม่ในอนาคต
ดังนั้นทางผู้บริหาร กคช.จึงจะเสนอบอร์ดทบทวนอีกครั้งเพราะเกรงจะมีการคัดค้านบานปลายออกไป จนส่งผลให้การหาข้อยุติร่วมกันในการแก้ไขปัญหาแฟลตดินแดงที่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่มีความคืบหน้าไปมากเกิดชะงักขึ้นอีก
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 04-10-2550
|
|
|
|
|
