Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เอส.บี.ดีไซน์สแควร์ ภูเก็ต เป็นมากกว่า "ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์" |
|
นับเป็นการเปิดตัวสาขาใหม่ที่น่าจับตามองของ "เอส.บี." หนึ่งในแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำที่เพิ่งดีเดย์ แกรนด์โอเพนนิ่ง "เอส.บี. ดีไซน์สแควร์" สาขาภูเก็ต เมื่อวันที่ 29 กันยายน ด้วยงบฯลงทุนสูงถึง 300 ล้านบาท
เพราะเป็นการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดใหม่ "space lifestyle furniture and houseware center" ในรูปแบบอาคารสแตนด์อะโลนแห่งแรกของ เอส.บี. ทำให้ดีไซน์สแควร์สาขาภูเก็ต กลายเป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ที่มีไลฟ์สไตล์ พร้อมบริการออกแบบครบวงจร และมีรูปร่างหน้าตาทันสมัยมากกว่า 3 สาขาแรกที่เปิดตัวก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
ย้อนหลังกลับไป เอส.บี.ทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวผืนนี้มาตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ สึนามิ (เดือน ธ.ค.2547) โดยเลือกปักหมุดบนถนนเฉลิมพระเกียรติ (ติดห้างโลตัส) "ทำเลทอง" ของธุรกิจวัสดุตกแต่งบ้านที่ถูกนำมาเปรียบเทียบเป็นถนนรัชดาภิเษก (กทม.) เพราะเต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งและศูนย์รวมวัสดุตกแต่งครบวงจร
แม้ว่าผลกระทบจากสึนามิจะทำให้ เอส.บี. ชะลอแผนการลงทุนสาขาภูเก็ตไประยะหนึ่ง แต่ด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลก ทำให้ภูเก็ตฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว "ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด "เอส.บี. อุตสาหกรรมเครื่องเรือน" หรือ "เอส.บี." หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการวางคอนเซ็ปต์ จึงไม่รีรอเริ่มงานใหญ่
บนที่ดินขนาด 6 ไร่ ดีไซน์สแควร์ถูกออกแบบเป็นอาคารสไตล์ "ทรอปิคอล โมเดิร์น" ตัวอาคารเน้นโทนสีน้ำเงิน-ขาว ตกแต่งผนังด้วยกระจกสีเขียวตัดแสงเพื่อให้กลมกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบ เบ็ดเสร็จมีพื้นที่แสดงสินค้ารวม 10,000 ตารางเมตร ถือเป็นสโตร์ใหญ่ที่สุดของ เอส.บี.
พื้นที่ภายในนอกจากเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านทั้งแบรนด์ในประเทศและสินค้านำเข้าครบครัน ได้แก่ สินค้าภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว บิลต์อิน เอาต์ดอร์ เฮาส์แวร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว โคมไฟตกแต่ง พรม ไม้ปูพื้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า จึงได้ตกแต่ง "รูมเซตติ้ง" (ห้องตัวอย่างตกแต่งสไตล์ต่างๆ) ไว้ถึงกว่า 100 แบบ รวมถึงมีพื้นฮอลขนาดใหญ่ในรูปแบบเอ็กซิบิชั่น ใช้เป็นจุดโชว์สินค้าใหม่ๆ ที่มี ไอเดียเก๋
สิ่งที่บ่งบอกว่า "เอส.บี. ดีไซน์สแควร์" เป็นมากกว่าศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ เพราะเป็นความตั้งใจของบริษัทที่ต้องการให้สาขาภูเก็ต เป็นแหล่งรวมของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่หลากหลายจาก "เดอะเบสต์ แบรนด์" โดยอาศัยการดึงพันธมิตรหลายรายเข้ามาเพิ่มสีสัน
เริ่มจาก 1)โคมไฟตกแต่งแบรนด์ Lamtitude โดยจัดวางสินค้าแบบอินทิเกรต ผสมผสานกันระหว่างชุดเฟอร์นิเจอร์และโคมไฟที่เป็นสไตล์เดียวกัน 2)เครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ "วีรสุ" (Verasu) 3)เฟอร์นิเจอร์เอาต์ดอร์ แบรนด์ "Moban" ที่โดดเด่นในเรื่องดีไซน์ 4)เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงแบรนด์ "โพเดียม" (Podium)
5)เฟอร์นิเจอร์หวายและไม้จริง แบรนด์ "เบญจา" (Benja) 6)ที่นอนแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Slimberland Synda ฯลฯ และ 7)SCG Consult ที่มาเปิดจุดบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้วัสดุก่อสร้างและการต่อเติมบ้าน โดยมัณฑนากร อาชีพจากซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย เติมเต็มให้สาขาภูเก็ตกลายเป็นศูนย์ให้คำปรึกษาตกแต่งบ้านครบวงจร
ในเชิง "บริการ" ที่ เอส.บี. ตั้งใจพัฒนาให้เป็น "service and solution center" ของการตกแต่งบ้าน
สิ่งที่มาเติมเต็มมี 2 ส่วน คือ บริการ "3D- pro designer" ที่เคยเปิดตัวก่อนหน้านี้ มาให้บริการปรึกษาออกแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบ 3 มิติ และการสาธิตการทำอาหารด้วยเครื่องครัวของ เอส.บี. จาก "วีรสุ" ไลฟ์สไตล์ที่กำลังมาแรงมากๆ เพื่อสร้าง customer experience กับกลุ่มลูกค้า
ในเชิงการแข่งขันอาจถือได้ว่า เอส.บี. เป็น ผู้เล่นรายใหม่ เฉพาะในงานวันเปิดตัวจึงทุ่มงบฯประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมการตลาดจำนวน 10 ล้านบาท ขอเปิดตัวแบบแรงๆ โดยมีทั้งดารา "วิลลี่-เยลหลี" และ "เคน-ธีรเดช" พร้อมโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพียบ
อย่างไรก็ตามการเปิดดีไซน์สแควร์สาขา ล่าสุด ไม่ใช่การรุกตลาดเฟอร์นิเจอร์ภูเก็ตเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เคยวางจำหน่ายใน โฮมโปร (ภูเก็ต) มาก่อน แต่จากการเปิดสาขาใหม่คาดว่าจะผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท
เป้าหมายหลัก คือ การเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ และสถาปนิก มัณฑนากร รวมถึงโครงการวิลล่า รีสอร์ต โรงแรม ที่ปลุกตลาดเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
โดยหมายมั่นปั้น "เอส.บี. ดีไซน์สแควร์" ให้เป็นศูนย์เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และบริการตกแต่งบ้านแบบวันสต็อปเซอร์วิสของภูเก็ต
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 01-10-2550
|
|
|
|
|