|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| Total Home Solution ปฏิบัติการ SCG ไล่ล่าอนาคต ปั้นร้านโฮมมาร์ทโฉมใหม่ |
|
เคยประกาศเป็นนโยบายองค์กรไว้ว่า ภายในปี 2560 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า เครือซิเมนต์ไทย (SCG) จะต้องมีสินค้าและบริการแบบครบวงจร สามารถรองรับการปลูกสร้างบ้านได้ครบทั้งหลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านตราช้าง"
ล่าสุด SCG กำลังเดินกลยุทธ์ให้นโยบายดังกล่าวเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น ภายใต้แนวคิด power of synergy เครือข่ายความร่วมมือกันของ 3 กลุ่มธุรกิจคือ 1) ธุรกิจจัดจำหน่าย 2) วัสดุก่อสร้าง และ 3) คอนกรีตผสมเสร็จ เพื่อเปิดตัวร้านซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท "โฉมใหม่" ในรูปแบบ "total home solution"
คอนเซ็ปต์คือมีทั้งจุดบริการ "คอตโต้ ไทล์ สตูดิโอ" (ศูนย์กระเบื้องครบวงจร) "คอตโต้ บาธรูม เซอร์วิส" (ศูนย์ห้องน้ำครบวงจร) "ซิเมนต์ไทย รูฟฟิ่ง เซ็นเตอร์" (ศูนย์หลังคาครบวงจร) และจุดบริการสั่งซื้อ "คอนกรีตซีแพค" รวมอยู่ภายในร้านเดียวกันแบบ "วันสต็อปช็อป วันสต็อปเซอร์วิส" ครบเครื่องทั้งสินค้าและบริการ
ถือว่าเป็นการต่อยอดพัฒนาไปอีกขั้น จากร้านซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ทแมกซ์รูปแบบเดิมๆ ที่เริ่มทยอยเปิดจุดบริการกระเบื้อง หลังคา ภายในร้าน แต่ยังไม่มีร้านไหนที่มีบริการแบบครบวงจรทุกอย่าง
total home solution มาดใหม่ของ ซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท มีรูปแบบการลงทุนระหว่างซิเมนต์ไทย (ลงทุนเรื่องระบบซอฟต์แวร์และการตกแต่งดิสเพลย์) กับเจ้าของร้านหรือดีลเลอร์ (ลงทุนที่ดิน- ค่าก่อสร้าง ภายใต้เงื่อนไขจัดให้มีพื้นที่แสดงสินค้าขั้นต่ำ 3,000-6,000 ตารางเมตร) สัดส่วนการลงทุนร้อยละ 30 : 70
ล่าสุดเพิ่งจะมีพิธีตัดริบบิ้นเปิดตัว total home solution แห่งแรกของประเทศไทยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปักหมุดทำเล "ประตูสู่ภาคเหนือ" ที่จังหวัดนครสวรรค์ บนถนนนครสวรรค์-พิษณุโลก อำเภอเมือง เนื้อที่ 6 ไร่ มีพื้นที่ขายรวม 9,000 ตารางเมตร แยกเป็นพื้นที่แสดงสินค้า 3,200 ตารางเมตร โกดังสินค้าและที่จอดรถ 5,800 ตารางเมตร นับเป็นสาขาที่ 300 ของเครือข่ายร้านซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท
"การแข่งขันของธุรกิจร้านวัสดุก่อสร้างในจังหวัดนครสวรรค์ค่อนข้างรุนแรง คาดว่าทั้งจังหวัดมีร้านวัสดุก่อสร้างประมาณ 100 แห่ง ในจำนวนนี้อยู่ในอำเภอเมืองประมาณ 20 แห่ง แต่สำหรับเราถือเป็นร้านแรกที่มีสินค้าและบริการครบวงจรของจังหวัดนครสวรรค์ ใช้งบฯลงทุนเกือบ 200 ล้านบาท คาดว่าถ้าปีหน้าเศรษฐกิจ เริ่มฟื้นตัวน่าจะคืนทุนได้ภายใน 4-5 ปี" อนันต์ ชำนาญโลหะวานิช กรรมการผู้จัดการร้าน โฮมมาร์ท แมกซ์ เจริญภัณฑ์ จังหวัดนครสวรรค์ ให้ข้อมูล
สิ่งที่ทำให้เชื่อว่าการพัฒนาร้านโฮมมาร์ท โฉมใหม่ช่วยให้เดินมาถูกทาง คือภายหลังจากเปิดจุดบริการ "ซิเมนต์ไทย รูฟฟิ่ง เซ็นเตอร์" แต่ละร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น 60-100% ส่วนร้านที่มีจุดบริการ "คอตโต้ ไทล์ สตูดิโอ" และ "คอตโต้ บาธรูม เซอร์วิส" เฉลี่ยมียอดขายกระเบื้องและสุขภัณฑ์เพิ่มขึ้นกว่า 20%
ดังนั้นภายใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2555) จะเห็นการทยอยเปิดร้านโฮมมาร์ทแบบ total home solution เพิ่มขึ้นเป็น 60-70 แห่ง โดยสาขาถัดไปที่จะเปิดบริการจะอยู่ในกรุงเทพฯ
เมื่อรวมกับการขยายสาขาร้านซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ทในรูปแบบ "แมกซ์" (เน้นจับลูกค้ารายย่อย) และ "บิลเดอร์" (เน้นจับกลุ่มผู้รับเหมา) และจุดบริการภายในร้านอย่างต่อเนื่อง SCG คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ "กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่าย" มียอดขายปีนี้ตีตื้นขึ้นเป็น 5.1-5.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับรายได้เทียบเท่ากับปี 2549
โดยรายได้สะสม 3 ไตรมาสแรกของปี 2550 คาดว่าจะมีรายได้ 3.7 หมื่นล้านบาท ถึงแม้จะเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปีก่อน 3% แต่เมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี อาทิ ตลาดหลังคาที่มีภาวะหดตัว 10-15% กระเบื้องเซรามิกหดตัว 8% สุขภัณฑ์หดตัว 7% ฯลฯ แล้วต้องบอกว่าสามารถประคองรายได้ระดับนี้ถือว่าโอเคพอสมควรทีเดียว
"เราวิจัยความต้องการตลาด พบว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าลูกค้าจะต้องการซื้อสินค้าพร้อมบริการแบบครบวงจรมากขึ้น แต่ร้านโฮมมาร์ทแบบ total home solution ยังไม่ถือว่าครบวงจร ที่ขาดอยู่คือจุดบริการ floor and ceiling หรือสินค้ากลุ่มพื้นและผนัง" ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจจัดจำหน่ายเครือ ซิเมนต์ไทย บอกถึงเป้าหมาย
วินาทีนี้ที่ SCG หายใจเข้า-หายใจออกเป็นคำว่า "ครบวงจร" การวาด เป้าหมายอนาคตจึงมองไปถึงเรื่องการขยายบริการจิปาถะ อาทิ บริการติดตั้งบ่อดักไขมัน ปั๊มน้ำ "แบบครบวงจร"
ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีจิ๊กซอว์อีกชิ้นที่จะเข้ามาเติมเต็มแนวคิดบ้านตราช้างให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น นั่นคือการทำ "รีโนเวชั่น เซ็นเตอร์" หรือจุดให้บริการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านภายในร้านโฮมมาร์ท ด้วยทีมช่างของ SCG ที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างดีจากวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการเป็นเวลา 2 ปี พร้อมรับประกันคุณภาพงาน
โดยล่าสุด SCG ได้รื้อถอนร้านซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท แมกซ์ (ร้านต้นแบบ) สุขาภิบาล 3 และอยู่ระหว่างออกแบบก่อสร้างใหม่เป็นศูนย์ รีโนเวชั่น เซ็นเตอร์ (ร้านต้นแบบ) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มทดลองให้บริการได้ภายในปี 2551
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-09-2550
|
|
|
|
|
