|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เดอะ วูแมนบีไฮนด์ "ซีคอน โฮม" ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ มองบวก...ภาพรวมรับสร้างบ้านปีนี้ดีขึ้น |
|
สัมภาษณ์
กว่า 2 ปีที่ "ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์" เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด ของตระกูล "ซอโสตถิกุล" พี่ใหญ่ในวงการธุรกิจรับสร้างบ้าน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ซีคอนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการบริหารจัดการหลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนคือการทำตลาดโดยสร้างสีสันมากขึ้น การแตกบริษัทในเครือ 2 แห่งเพื่อรุกธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและรับสร้างบ้านราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทโดยเฉพาะ
"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสได้สนทนากับ หญิงแกร่งแม่ทัพใหญ่ "ซีคอน" เกี่ยวกับภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน ความเป็นไปในตลาด การแข่งขัน รวมทั้งนโยบายและกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่ ซีคอนนำมาใช้ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ-การเมืองยุคนี้
- มองธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างไร
มองว่ามีการแข่งขันมากขึ้นเยอะพอสมควร ดูจากหน้าหนังสือพิมพ์มีทั้งแอด พี.อาร์. ทำให้มีสีสัน การแข่งขันมากขึ้นเป็นเรื่องที่ดีในแง่ที่ผู้บริโภคเองได้รับข่าวสารมากขึ้น รู้จักธุรกิจ มากขึ้น แต่การแข่งขันในธุรกิจนี้ไม่ได้เอาเป็นเอาตาย มีการร่วมมือกันระหว่าง ผู้ประกอบการด้วย เพราะตลาด รับสร้างบ้านเป็นตลาดใหญ่ ผู้ประกอบการคนเดียวไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้หมด มันแชร์กันได้ การแข่งขันจะมีแต่ทำให้ดีขึ้น ผลดีจะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค แต่ละบริษัทก็เก่งขึ้น มีการแข่งขันในเรื่องคุณภาพ สินค้า การให้บริการ การวางแปลนโพซิชันนิ่งของตัวเองก็ชัดเจนขึ้น
- ตัวเลขตลาดรวม
ที่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์หาได้ยากลำบาก ตัวเลขที่ใช้อยู่เราดึงมาจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท และรวบรวมจากสมาชิกในสมาคมกว่า 30 บริษัท แต่ตัวเลขจริงๆ ของตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศน่าจะถึง 3 หมื่นล้านบาท เพราะยังมีผู้ประกอบการที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมอีกมาก เฉพาะที่มีรายชื่ออยู่ในทำเนียบตามหัวเมืองใหญ่ก็เป็นร้อยๆ บริษัท
- ภาวะเศรษฐกิจผลเชิงบวกเชิงลบอย่างไร
ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2549 บรรยากาศการเมืองมีเรื่องของม็อบซึ่งส่งผลทางด้านจิตวิทยา ตลาดชะลอตัวไปเยอะ แต่เมื่อเทียบกับปีนี้ก็มีบรรยากาศความวุ่นวายทางการเมืองเหมือนกัน แต่ปีนี้เปอร์ฟอร์แมนซ์ดีกว่า รวมทั้งตัวเลขของ ซีคอนด้วย เพราะที่ตั้งเป้าไว้ก็ทำได้ตามเป้า คงเป็นเพราะกำลังซื้อมันอั้นอยู่ตั้งแต่ช่วงปี 2549 ที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม เวลาออกไปตรวจบ้าน (ลูกค้า) ตามที่ต่างๆ จะเห็นโอกาสเยอะ พื้นที่เปล่ายังว่างหรือบ้านเก่าแล้วถึงเวลาต้องสร้างใหม่ ไม่เหมือนจัดสรรที่ดิน ในเมืองเริ่มหมดต้องขยายออกชานเมือง แต่ธุรกิจรับสร้างบ้านเราไปได้หมด เช่น ที่แถวเมืองทอง 1 เมื่อ 30 ปีก่อนมีหมู่บ้านที่จัดสรรขายที่ดินเปล่า ก็น่าสนใจ รวมทั้งหมู่บ้านเก่าแก่ของการเคหะแห่งชาติเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มจะเห็นมีการสร้างบ้านใหม่เยอะ หรือรื้อบ้านเก่าสร้างใหม่
- รับสร้างบ้านทำการตลาดเชิงรุกอย่างไรบ้าง
ประเด็นนี้เราทำมากว่า 1 ปี เป็นคาราวานเล็กๆ เดินสายหย่อนไดเร็กต์เมล์ตามตู้ หน้าบ้าน มีทีมงานเหมือนรถเร่เข้าไปให้ความรู้ทำมาประมาณ 10 โครงการแล้ว อาทิ โซนลาดพร้าว โชคชัย 4 ศรีนครินทร์ หมู่บ้านนักกีฬา ประชาชื่น ประชานิเวศน์ ฯลฯ เพราะหมู่บ้านเก่าเท่าที่สังเกตจะมีการสร้างบ้านใหม่ด้วย บางคนเห็นเพื่อนบ้าน สร้างใหม่ก็อยากจะสร้างด้วย
- ตรงไหนที่เป็นทำเลหลัก
ข้อดีของธุรกิจนี้คือกระจายทำเลทั่วไปหมด ดังนั้นเรามองว่าความต้องการลูกค้าเริ่มหลากหลายขึ้น ที่ผ่านมาเราเปิดตัวแบบบ้าน "ซิตี้โฮม" เป็นแคมเปญตั้งแต่ต้นปีรองรับคนรุ่นใหม่ ไลฟ์สไตล์คือไม่อยากทำงานประจำ อายุ 30 ปีเศษ เริ่มเข้าไปเรียนรู้ธุรกิจทำกิจการของตัวเอง
นอกจากนี้ ก็เปิดตัวบริษัทในเครือ "คอมแพคโฮม" จับตลาดกลุ่ม 7 แสน-2 ล้านบาท ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์คุณกอบชัย (ซอโสตถิกุล) ที่มองว่าธุรกิจรับสร้างบ้านตลาดใหญ่สุด คือ บ้านระดับราคา 2-5 ล้านบาท ประมาณ 50% ทุกคนมาเล่นตลาดนี้กันหมด แต่กลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท เป็นตลาดใหญ่ที่อยู่ในมือผู้รับเหมารายย่อย อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งซีคอนมีความพร้อมกว่า คนอื่น เพราะมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปของตนเอง
- สัดส่วนลูกค้าที่ขอสินเชื่อกับแบงก์
เดิมลูกค้าใช้เงินส่วนตัว 40% กู้แบงก์ 60% แต่ระยะหลังเนื่องจากเราจับตลาดหลังเล็กลง ทำให้สัดส่วนลูกค้ากู้แบงก์เพิ่มเป็น 70% อย่างไรก็ตาม ช่วงปีเศษๆ ที่ผ่านมายอมรับว่าแบงก์เข้มงวดมากขึ้น เน้นเรื่องคุณสมบัติและรายได้ของลูกค้า ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือขอกู้ได้ไม่เต็มวงเงิน เช่น ต้องการ 1.8 ล้านบาท แต่ก็ได้แค่ 1.2 ล้านบาท
- สร้างบ้านราคา 7 แสน กับ 4 ล้านบาท แตกต่างกันอย่างไร
ต่างที่ "ราคา" แต่ "คุณภาพ" ไม่ต่าง เรามีทีมผู้รับเหมา 60 ทีมรองรับ หลักการสร้างเหมือนกันต่างกันที่วัสดุ สร้างบ้านราคา 7 แสนบาท วัสดุที่ใช้คือพื้นไม้ลามิเนต ขณะที่บ้านราคา 4 ล้านบาท จะใช้ปาร์เกต์
- บ้านสไตล์ไหนที่ได้รับความนิยม
"คอนเทมโพรารี" หน้าตาออกมาคล้ายๆ บ้านของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก่อนหน้านี้แบบบ้านที่นิยมสูงสุด คือ "บาวาเรีย 6" เป็นแบบบ้านทรง เหลี่ยมๆ ขนาด 3 ห้องนอน ไม่ได้ใช้วัสดุฟุ่มเฟือย ดูเรียบๆ บางคนอาจมองว่าไม่สวย แต่หมู่บ้านจัดสรรก็ทำเยอะ แม้แต่ญี่ปุ่นก็ทำอย่างนี้
- ยังต้องให้ความรู้กับผู้บริโภคอีกมาก
บางคนรู้เยอะหลุดจากตำราออกมาเลย บางรายเจอแล้วหงายหลังเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ ขอให้เราช่วยแนะนำให้ก็ยินดี
แต่ถ้ากลุ่มลูกค้าที่มีฐานะชอบเอดูเคตเรา บางครั้งเราทำถูกแต่เขาคิดว่าถูกกว่า
- เป้ารายได้ซีคอนปีนี้
ซีคอนวางไว้ 650 ล้านบาท ช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมาได้ 383 ล้านบาท เท่ากับอีก 5 เดือนที่เหลือต้องทำให้ได้อีก 267 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 50 กว่าล้านบาท คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา
- ภาพการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านจากนี้ไป
แต่ละรายคงต้องมีกลยุทธ์ใหม่ๆ ออกมา แต่ไม่ใช่การห้ำหั่นกัน เพราะคนกลุ่มนี้ (สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน) แข่งกันแล้วก็มากินข้าวกัน สนุกสนานด้วยกัน เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยเจอตอนอยู่ในวงการพัฒนาที่ดิน อาจเป็นเพราะตลาดมันใหญ่มากไม่สามารถทำคนเดียวได้ ยิ่งทำมากเกินไปกลับเป็นผลเสียหากควบคุมคุณภาพไม่ดีพอ
- สร้างทีมงาน-พัฒนาบุคลากรอย่างไร
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเราจัดตั้งโรงเรียน "นักสร้างบ้านมืออาชีพ" ขึ้น โดยประสานกับหลายองค์กร อาทิ เครือซิเมนต์ไทย ที่มีการเปิดสอนช่างผ่านสถาบันนายช่างดี ฯลฯ ก็ส่งคนของเราไปเรียน สอนให้เข้ากับระบบงานซีคอน เพราะจุดแข็งของเรานอกจากมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปคือระบบงานที่คุณกอบชัยทำไว้ตั้งแต่เปิดกิจการ และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเขียนเป็นคู่มือไว้
- เปรียบเทียบจุดต่างของซีคอนกับรายอื่น
สิ่งที่เราให้มากกว่าคือได้บริการหลังการขาย ซีคอนมีฐานลูกค้า 1 หมื่นกว่าหลัง และลูกค้าที่อยู่ในเวตติ้งลิสต์ (waiting list) อีกกว่า 2 หมื่นราย เช่น มีคุณลุงคนหนึ่งสร้างบ้านกับเรา 11 หลัง หลังแรกทำประมาณปี 2541-2542 ส่วนที่สร้างรายละ 2-3 หลังขึ้นไปก็มีพอสมควร
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-09-2550
|
|
|
|
|
