|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เกียรตินาคินดีเดย์25ก.ย.เทขายเอ็นพีเอ7แปลงเด็ด700ล้าน |
|
แบงก์เกียรตินาคินคัดทรัพย์เด่นเพื่อการลงทุน 7 รายการ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล-ตจว.ออกประมูลขายให้นักลงทุน ชูสโลแกนสร้างจุดขาย "ทำเลที่ใช่สำหรับการลงทุน" ชี้ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบครึ่งปีหลังยังไร้วี่แววฟื้นตัว ยกเว้นตลาดแนวสูงที่ยังมีดีมานด์ต่อเนื่อง
นายธวัชชัย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธนาคารได้คัดทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) ในทำเลกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวม 7 รายการ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท จากพอร์ตเอ็นพีเอทั้งหมด 8,600 ล้านบาท ออกประมูลขายให้นักลงทุนที่มีความสนใจในวันที่ 24 กันยายน 2550 ที่สำนักงานใหญ่ และจะเปิดซองประมูลในวันที่ 25 กันยายน เวลา 11.00 น.
ตัวอย่างทรัพย์ ได้แก่ 1.ที่ดินเปล่า ซอยพัฒนาใต้ 1 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เนื้อที่ 6 ไร่ หน้ากว้างติดถนน 92 เมตร ราคาประมูลขั้นต่ำ 41 ล้านบาท สามารถนำไปพัฒนาโรงแรมหรือคอนโดฯได้
2.ที่ดินเปล่า ซอยสวนส้ม อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เนื้อที่ 17 ไร่เศษ ราคาขั้นต่ำ 103 ล้านบาท
3.ที่ดินเปล่า ถนนวัดศรีวารีน้อย อ.บางเสาธง สมุทรปราการ เนื้อที่ 13 ไร่เศษ ราคาขั้นต่ำ 108 ล้านบาท หน้ากว้างติดถนน 100 เมตร สามารถนำไปพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยขนาดย่อม
4.ที่ดินเปล่า ซอยบรมราชชนนี 6 เขตบางพลัด เนื้อที่ 4 ไร่เศษ หน้ากว้างติดถนน 72 เมตร ราคาขั้นต่ำ 99 ล้านบาท เป็นต้น
"คอนเซ็ปต์การประมูลในครั้งนี้คือ คัดทรัพย์เด่นในทำเลที่ใช่สำหรับนักลงทุนและอยู่ในแนวรถไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันและกำลังจะก่อสร้างในอนาคต โดยธนาคารได้ส่งรายละเอียดไปยังลูกค้าเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบการกว่า25ราย รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนอื่น"
นายธวัชชัย กล่าวว่า ผู้สนใจเข้าประมูลทรัพย์ในครั้งนี้สามารถแสดงความจำนงยื่นซองภายในวันที่ 24 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. โดยต้องวางหลักประกันวงเงิน 1 ล้านบาท/รายการ โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ และต้องทำสัญญาภายใน 7 วันนับจากวันประกาศผล พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 60 วันนับจากวันทำสัญญาซื้อขาย ซึ่งผู้ซื้อเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมการโอน
ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่ออสังหาฯของธนาคารอยู่ที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้กว่า 20-25% เป็นลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้และการดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย ส่วนยอดสินเชื่อเคหะปล่อยใหม่ในครึ่งปีแรกสามารถปล่อยได้ 400-500 ล้านบาท จาก เป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในครึ่งปีหลังสถานการณ์ไม่ได้ดีไปกว่าครึ่งปีแรกมากนัก แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นผลลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ กำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถทำให้ตลาดฟื้นตัวเร็วมากนัก เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ส่วนรายได้ของธนาคารในครึ่งแรกปี 2550 ทำได้ 4,000 ล้านบาท เป็นรายได้จากดอกเบี้ย 85% ที่เหลือ 15% เป็นรายได้จากค่าธรรมเนียม ขณะที่เป้าหมายรายได้ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีรายได้เท่ากับครึ่งปีแรกที่ 4,000 ล้านบาท รวมทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8,000 ล้านบาท เนื่องจากมีภาระต้นทุนดอกเบี้ยลดลงอยู่ที่ 3.8% จากเดิม 4.5%
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-09-2550
|
|
|
|
|
