|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ไรมอนแลนด์ลุยคอนโดฯพัทยา6.5หมื่น/ตร.ม. |
|
"ไรมอน แลนด์" ทุ่ม 600 ล้านบาท ตุนแลนด์แบงก์เมืองพัทยาเพิ่ม 2 แปลง วางแผนพัฒนาคอนโดฯแบรนด์ใหม่ "The Lofts South Shore" จับตลาดระดับกลาง เคาะราคาขายตารางเมตรละ 6.5 หมื่นบาท ชี้ปัญหาซับไพรมไม่กระทบความเชื่อมั่นพาร์ตเนอร์และยอดขาย เผยยอดรับรู้รายได้ครึ่งปีแรก 700 ล้านบาท จากเป้า 2,000 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีได้ตามเป้า
นายไนเจล เจ.คอร์นิค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้ซื้อที่ดินจำนวน 2 แปลง รวมมูลค่า 600 ล้านบาท ในเมืองพัทยาเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากผลการวิจัยตลาดคอนโดฯในเมืองตากอากาศ โดยเฉพาะเมืองพัทยามีแนวโน้มเติบโตดี
เปรียบเทียบราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรในช่วงครึ่งปีหลัง 2549-ครึ่งปีแรก 2550 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 86,974 บาทต่อตารางเมตร เป็น 89,842 บาทต่อตารางเมตร ส่วนในแง่ซัพพลายใหม่ก็ลดจำนวนลดลงจากปี 2549 อยู่ที่ 1,350 ยูนิต ในช่วงครึ่งปีแรก 2550 ลดลงเหลือ 231 ยูนิต
"เดือนพฤศจิกายนปี 2549 ที่ผ่านมาเราเปิดตัวโครงการคอนโดฯระดับไฮเอนด์ภายใต้ชื่อนอร์ท พอยต์ ที่พัทยา ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละกว่า 90,000-150,000 บาท ยอดขายถือว่าไปได้ดี อย่างไรก็ตามเรามองว่าคอนโดฯระดับกลางถึงบนราคาขาย 6-7 หมื่นบาทต่อตารางเมตร เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ"
โดยที่ดินแปลงแรกตั้งอยู่บริเวณเขาพระนาง (ใกล้พัทยาใต้) มีเนื้อที่กว่า 6 ไร่ ซื้อมาในราคา 235 ล้านบาท วางแผนพัฒนาเป็นคอนโดฯระดับกลางภายใต้แบรนด์ใหม่ "The Lofts South Shore" (เดอะลอฟต์ส เซาท์ ชอร์) จำนวน 2 อาคาร สูง 40 และ 50 ชั้น รวมประมาณ 850 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 30-300 ตารางเมตร ราคา 1.8-19 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 6.5 หมื่นบาทต่อ ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 4,500 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวในช่วงเดือนธันวาคมนี้
ส่วนที่ดินอีกแปลงตั้งอยู่ติดกับโครงการคอนโดฯนอร์ทพอยต์ (หาดวงศ์อมาตย์ เมืองพัทยา) เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ซื้อมาในราคา 400 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างรอดูผลตอบรับโครงการนอร์ท พอยต์ เพื่อกำหนดเซ็กเมนต์การทำตลาด มีแผนทางเลือก 2 กรณี คือ 1.กรณีสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2551 จากปัจจุบันมียอดขายแล้ว 43% จากทั้งหมด 374 ยูนิต จะพัฒนาเป็นโครงการระดับไฮเอนด์เฟส 2 ต่อเนื่อง 2.กรณีที่ยอดขายล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ แผนทางเลือกคือปรับแนว ทางพัฒนาโครงการจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางแทน
ส่วนกลุ่มลูกค้าพบว่ามีทั้งกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ โดยมีทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า โดยประมาณการว่าหากเป็นห้องพักขนาด 60-100 ตารางเมตร จะได้ค่าเช่าเดือนละ 3.5-6.5 หมื่นบาท
"ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือซับไพรมในอเมริกาไม่มีผลกระทบมากนัก ทั้งในแง่ของผู้ถือหุ้นต่างชาติคือกลุ่มอิสทิธมาร์จากดูไบ และในแง่ของลูกค้า เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนหรือคนที่เกษียณอายุแล้วและต้องการมาพักอาศัยในประเทศไทย"
นายไนเจลกล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมียอดรับรู้รายได้ 700 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีแผนปรับลดประมาณการลง เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังจะมียอดรับรู้รายได้โครงการ 3 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ โครงการเดอะลอฟต์ (เย็นอากาศ) โครงการนอร์ทพอยต์ (พัทยา) และโครงการเดอะไฮต์ (ภูเก็ต)
ส่วนโครงการที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2551 ได้แก่ 1)คอนโดฯเดอะริเวอร์ (สาทร-เจริญนคร) มูลค่าโครงการ 1.5 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 20% กำหนดเริ่มการก่อสร้างในช่วงต้นปีหน้า และ 2)คอนโดฯ 185 ราชดำริ บนที่ดินสถานทูตกัมพูชาเดิม กำหนดก่อสร้างภายในปีหน้าเช่นเดียวกัน
"ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ยอดรับรู้รายได้ของบริษัทน่าจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังจากขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เฉพาะช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาเรามียอดขายสะสมแล้ว 6-7 พันล้านบาท คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะแตะ 1 หมื่นล้านบาท"
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 30-08-2550
|
|
|
|
|
