Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"แสนสิริ" รุกคอนโดฯ แบรนด์ชนแบรนด์ |
|
ร้อนแรงขึ้นมาทันใด สำหรับคอนโดฯ ระดับพรีเมี่ยม หลังจากที่ปล่อยให้ตลาดเล่นกับคอนโดฯ ระดับกลาง-ล่างมาได้สักพักใหญ่ๆ
ปรากฏการณ์ในรูปแบบ "แบรนด์ชนแบรนด์" กลับมาให้เห็นอีกครั้ง พลันที่ค่าย โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ปะทะโครงการเปิดตัวใหม่กับค่ายจัดสรร "แสนสิริ" ชนิดที่แถลงข่าวหายใจรดต้นคอแบบไม่มีใครยอมใคร
หากจะวัดกันที่โลเกชั่น โลเกชั่น และโลเกชั่น ค่ายโนเบิลเปิดตัวในทำเลคุ้นเคย ลึกเข้าไป 150 เมตรในซอยอารีย์ ขณะที่ "แสนสิริ" เพดานบินสูงตามเคย ปักหมุดโครงการใหม่ล่าสุด "Siri on 8" ซอยสุขุมวิท 8 โซนที่ว่ากันว่าเป็นทำเลไข่แดงหรือดงคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์
กล่าวสำหรับ "Siri on 8" เป็นโครงการคอนโดมิเนียมรูปแบบโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้นเพียง 74 ยูนิต เปิดพรีเซลนับเวลายังไม่ทันชนสัปดาห์ดี ยอดขายทะลุทะลวงกว่า 80% มูลค่าโครงการรวมเกือบ 600 ล้านบาท
ขนาดเนื้อที่โครงการ 1 ไร่ 18 ตารางวา ห่างจากรถไฟลอยฟ้า (บีทีเอส) 300 เมตร ออกแบบให้มีห้องชุดขนาดเริ่มต้น 55 ตารางเมตร ราคาขายเคาะเริ่มต้นที่ 4.9 ล้านบาท/ยูนิต ที่เหลือจะเป็นห้องชุด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 78-81 ตารางเมตร และห้องชุด 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยอยู่แถวๆ 9 หมื่นบาท/ตารางเมตร
คอนโดฯ "Siri on 8" ต้องถือว่าเป็นโครงการต่อยอดมาจากความสำเร็จชนิดถล่มทลายของโครงการคอนโดฯ ระดับพรีเมี่ยมที่เพิ่งทำสถิติปิดการขายใน 1 เดือนของค่ายแสนสิริก่อนหน้านี้ เรา
กำลังพูดถึงโครงการ "SIRI at Sukhumvit by Sansiri" คอนโดฯไฮไรส์จำนวน 460 ยูนิต ทำเลสุขุมวิท-ทองหล่อ มูลค่าโครงการ 3,100 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 106,000 บาท
อาจกล่าวได้ว่าโครงการ SIRI at Sukhumvit และ Siri on 8 ที่โชว์ตัวเลขการขายได้รวดเร็ว ทั้งๆ ที่หลายต่อหลายคนยังกลัวๆ กล้าๆ กับภาวะเศรษฐกิจแกว่ง การเมืองไม่นิ่งในปัจจุบันได้ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่สำคัญเหนือกว่านั้นคือ "ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพของแสนสิริ"
"เศรษฐา ทวีสิน" เอ็มดีหนุ่มใหญ่ของ บมจ. แสนสิริ เปิดมุมมองจังหวะการลงทุนที่ตัดสินใจขึ้นโครงการระดับพรีเมี่ยม 2 โปรเจ็กต์รวดในช่วงเวลาใกล้เคียงกันว่า ประเมินตลาดในภาพรวม โครงการคอนโดฯ ส่วนใหญ่มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-ล่าง ทำให้ลูกค้าระดับพรีเมี่ยมไม่ค่อยมีคู่แข่งในเซ็กเมนต์นี้มากนัก
ในขณะที่มีปัจจัยบวกคืออัตราดอกเบี้ยยังอยู่ ในระดับค่อนข้างต่ำ ทำให้นักลงทุนมองหาทางเลือกลงทุนกับโครงการคอนโดมิเนียมที่มีศักยภาพสูง ในรูปแบบ "ซื้อเพื่อลงทุน" สำหรับปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติหรือนักธุรกิจคนไทยที่มีความต้องการที่พักอาศัยใจกลางเมือง เมื่อ "แสนสิริ" ผลิตสินค้าออกมาตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ จึงนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วในที่สุด
คีย์ซักเซสของค่ายจัดสรรแบรนด์ "แสนสิริ" ครบเครื่องตั้งแต่การเฟ้นทำเลที่ตั้ง "ต้องโดดเด่นไม่เป็นรองใคร" เท่านั้น ผสมผสานกับการออกแบบที่สวยถึงสวยจัด ฟังก์ชันดีไซน์สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ลงลึกรายละเอียดจนถึงวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพสูง บริการหลังการขายครบวงจร อาทิ บริการบริหารอาคาร บริการฝากซื้อ-ฝากขายและจัดหาผู้เช่า รวมถึงบริการผู้ช่วย concierge services
"แสนสิริเน้นหนักการพัฒนาโครงการระดับพรีเมี่ยม และให้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทในเครือรุกตลาดระดับกลาง ในความเป็นเครือแสนสิริที่ครบวงจรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เราโดดเด่นในแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นทุกโครงการนั่นเอง" คำอธิบายถึงเคล็ด (ไม่) ลับความสำเร็จของ "เศรษฐา ทวีสิน"
โดยช่วงครึ่งปีหลังนี้ "แสนสิริ" ประกาศแผนธุรกิจที่จะมุ่งเน้นขยายฐานการดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 ของวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย มีตัวเลขยอดขายโครงการต่างๆ ที่จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงช่วง 3 ปีหน้า เบ็ดเสร็จมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ถือว่าสูงสุดแล้วของวงการในขณะนี้
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-08-2550
|
|
|
|
|