Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์" โมเดลเมืองน่าอยู่ยุค "โลกร้อน" |
|
วันนี้คำว่า "อนุรักษ์พลังงาน" หรือ "ภาวะโลกร้อน" กำลังเป็นประเด็นที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญมากขึ้น เช่นก่อนหน้านี้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน ได้จัดโครงการให้เงินสนับสนุนเจ้าของบ้านเพื่อปรับปรุงบ้านให้เป็นแบบอนุรักษ์พลังงาน หรือ "กรุงเทพมหานคร" ได้จัดทำ "ปฏิญญากรุงเทพมหานครว่าด้วยปัญหาภาวะโลกร้อน" เพื่อยืนยันเจตนารมณ์แก้ปัญหาโลกร้อนและพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็น "เมืองน่าอยู่"
ความรุนแรงของปัญหาดังกล่าวยืนยันจากข้อมูลความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อาทิ น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกที่ละลายรวดเร็วขึ้น จนเป็นไปได้ว่าอาจไม่มีน้ำแข็งเหลืออีกภายในช่วงฤดูร้อนปี 2040 ภาวะอากาศแปรปรวนซึ่งล่าสุดเป็นเหตุให้ป้ายโฆษณาในกรุงเทพฯ 2 แห่ง ถล่มลงมาทับคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ฯลฯ
ล่าสุด "มติชน" องค์กรมหาชนด้านสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งมีนโยบายเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีส่วนกู้วิกฤตสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน ได้จับมือกับ 18 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงพลังงาน กรุงเทพมหานคร กระทรวงแรงงาน การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ไออาร์พีซี ดีแทค ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฯลฯ ผนึกกำลังจัดงานแฟร์ในชื่อ "กระทรวงพลังงาน มติชน ชวนเที่ยวงานแฟร์ร่วมกันดูแลสังคม" ในวันที่ 15-19 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00-20.00 น. ภายในศูนย์ประชุมสิริกิติ์ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
"อภิรักษ์ โกษะโยธิน" ในฐานะพ่อเมือง กทม. หนึ่งในหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในงานนี้ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครมีนโยบายส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯ ทุกคนเห็นความสำคัญของปัญหาโลกร้อน เพราะ กทม.เป็นจังหวัดใหญ่ ปัจจุบันมีจำนวนประชากรประมาณ 10-12
ล้านคน มีรถจำนวน 5.5 ล้านคัน และมีส่วนปล่อยมลพิษ โดยเฉพาะ "ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์" ที่มีผลต่อการเกิดภาวะเรือนกระจกจำนวนมาก การแก้ไขจึงต้องเริ่มจากทุกคน
"โครงการที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนของ กทม. เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวคือ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา กทม.ได้ร่วมกับ 35 องค์กรภาครัฐและเอกชน ลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยปัญหาภาวะโลกร้อน ถือว่าเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญในการปลุกจิตสำนึกให้ชาวกรุงเทพฯ ทุกคนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น"
แน่นอนว่าผลพวงที่ตามมาไม่ได้มีเพียงแค่บรรเทาภาวะโลกร้อน แต่หมายถึงกรุงเทพฯ จะน่าอยู่มากขึ้น
สิ่งที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตามข้อตกลงในปฏิญญาคือ 1) รณรงค์ให้ปิดไฟเป็นเวลา 15 นาที ในวันที่ 9 ของทุกเดือนเพื่อลดการใช้พลังงาน 2) ร่วมกับ ปตท.รณรงค์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งขณะจอดรถ 3) สานต่อโครงการปลูกต้นไม้ปีละ 1 ล้านต้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เท่ากับภายในปี 2548-2550 กทม.จะมีต้นไม้เพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 3 ล้านต้น เท่ากับเป็นการขยายพื้นที่ปอดกรุงเทพฯ ให้ใหญ่ขึ้น
และ 4) รณรงค์ให้เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบตะเกียบแทนหลอดไส้ ซึ่งสอดรับกับนโยบายกระทรวงพลังงานที่กำลังขอความร่วมมือให้โรงงานผลิตหลอดไฟฟ้า ทยอยปรับเปลี่ยนมาผลิตหลอดตะเกียบแบบใช้ไฟฟ้า 28 วัตต์ แทน 32 วัตต์ในอนาคต เพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น
และล่าสุดในงานแฟร์ "กระทรวงพลังงาน มติชน ชวนเที่ยวงานแฟร์ร่วมกันดูแลสังคม" กทม.จะนำผลงาน "กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์" เป็นแบบจำลองเมืองและรูปแบบชีวิตของคนกรุงเทพฯ อย่างสมดุลมาจัดแสดง
เพราะการแก้ปัญหาโลกร้อนหรือใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าเป็นสิ่งที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ หากทำได้กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่น่าอยู่มากขึ้น !
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-08-2550
|
|
|
|
|