| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 76 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 06-08-2550    อ่าน 11510
 "กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์" โมเดลเมืองน่าอยู่ยุค "โลกร้อน"

วันนี้คำว่า "อนุรักษ์พลังงาน" หรือ "ภาวะโลกร้อน" กำลังเป็นประเด็นที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญมากขึ้น เช่นก่อนหน้านี้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน ได้จัดโครงการให้เงินสนับสนุนเจ้าของบ้านเพื่อปรับปรุงบ้านให้เป็นแบบอนุรักษ์พลังงาน หรือ "กรุงเทพมหานคร" ได้จัดทำ "ปฏิญญากรุงเทพมหานครว่าด้วยปัญหาภาวะโลกร้อน" เพื่อยืนยันเจตนารมณ์แก้ปัญหาโลกร้อนและพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็น "เมืองน่าอยู่"

ความรุนแรงของปัญหาดังกล่าวยืนยันจากข้อมูลความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อาทิ น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกที่ละลายรวดเร็วขึ้น จนเป็นไปได้ว่าอาจไม่มีน้ำแข็งเหลืออีกภายในช่วงฤดูร้อนปี 2040 ภาวะอากาศแปรปรวนซึ่งล่าสุดเป็นเหตุให้ป้ายโฆษณาในกรุงเทพฯ 2 แห่ง ถล่มลงมาทับคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ฯลฯ

ล่าสุด "มติชน" องค์กรมหาชนด้านสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งมีนโยบายเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีส่วนกู้วิกฤตสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน ได้จับมือกับ 18 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงพลังงาน กรุงเทพมหานคร กระทรวงแรงงาน การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ไออาร์พีซี ดีแทค ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฯลฯ ผนึกกำลังจัดงานแฟร์ในชื่อ "กระทรวงพลังงาน มติชน ชวนเที่ยวงานแฟร์ร่วมกันดูแลสังคม" ในวันที่ 15-19 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00-20.00 น. ภายในศูนย์ประชุมสิริกิติ์ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

"อภิรักษ์ โกษะโยธิน" ในฐานะพ่อเมือง กทม. หนึ่งในหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในงานนี้ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครมีนโยบายส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯ ทุกคนเห็นความสำคัญของปัญหาโลกร้อน เพราะ กทม.เป็นจังหวัดใหญ่ ปัจจุบันมีจำนวนประชากรประมาณ 10-12

ล้านคน มีรถจำนวน 5.5 ล้านคัน และมีส่วนปล่อยมลพิษ โดยเฉพาะ "ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์" ที่มีผลต่อการเกิดภาวะเรือนกระจกจำนวนมาก การแก้ไขจึงต้องเริ่มจากทุกคน

"โครงการที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนของ กทม. เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวคือ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา กทม.ได้ร่วมกับ 35 องค์กรภาครัฐและเอกชน ลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยปัญหาภาวะโลกร้อน ถือว่าเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญในการปลุกจิตสำนึกให้ชาวกรุงเทพฯ ทุกคนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น"

แน่นอนว่าผลพวงที่ตามมาไม่ได้มีเพียงแค่บรรเทาภาวะโลกร้อน แต่หมายถึงกรุงเทพฯ จะน่าอยู่มากขึ้น

สิ่งที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตามข้อตกลงในปฏิญญาคือ 1) รณรงค์ให้ปิดไฟเป็นเวลา 15 นาที ในวันที่ 9 ของทุกเดือนเพื่อลดการใช้พลังงาน 2) ร่วมกับ ปตท.รณรงค์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งขณะจอดรถ 3) สานต่อโครงการปลูกต้นไม้ปีละ 1 ล้านต้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เท่ากับภายในปี 2548-2550 กทม.จะมีต้นไม้เพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 3 ล้านต้น เท่ากับเป็นการขยายพื้นที่ปอดกรุงเทพฯ ให้ใหญ่ขึ้น

และ 4) รณรงค์ให้เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบตะเกียบแทนหลอดไส้ ซึ่งสอดรับกับนโยบายกระทรวงพลังงานที่กำลังขอความร่วมมือให้โรงงานผลิตหลอดไฟฟ้า ทยอยปรับเปลี่ยนมาผลิตหลอดตะเกียบแบบใช้ไฟฟ้า 28 วัตต์ แทน 32 วัตต์ในอนาคต เพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น

และล่าสุดในงานแฟร์ "กระทรวงพลังงาน มติชน ชวนเที่ยวงานแฟร์ร่วมกันดูแลสังคม" กทม.จะนำผลงาน "กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์" เป็นแบบจำลองเมืองและรูปแบบชีวิตของคนกรุงเทพฯ อย่างสมดุลมาจัดแสดง

เพราะการแก้ปัญหาโลกร้อนหรือใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าเป็นสิ่งที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ หากทำได้กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่น่าอยู่มากขึ้น !

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-08-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.