| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 308 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 30-07-2550    อ่าน 11371
 มุมมองวิกฤต "ค่าบาท" ปูนใหญ่เจ็บมากที่สุด รีสอร์ตหรูตลาดเริ่มหด

อึดอัดกันมาพักใหญ่ เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลง

แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาทและทำให้เกิดภาวะขาดทุนกว่า 1.7 แสนล้านบาทแล้วก็ตาม

ความวิตกกังวลของกลุ่มผู้ส่งออกในสายวัสดุก่อสร้างก็ยังไม่หมดไป

โดยเฉพาะเครือซิเมนต์ไทย ผู้ผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยก็หนีไม่พ้นกับวังวนนี้

ล่าสุด "กานต์ ตระกูลฮุน" กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือซิเมนต์ไทย หรือ SCG (Siam Cement Group) ให้ความเห็นกับเรื่องนี้เป็นครั้งแรกอย่างตรงไปตรงมาว่า

"ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกวัสดุก่อสร้างมากที่สุด"

และในส่วนของปูนใหญ่เอง ซึ่งมีการส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างทั้งเครือเฉลี่ยประมาณ 30% นั้น ปรากฏว่าครึ่งแรกปีนี้ยอดรายได้หายไปประมาณ 1,900 ล้านบาท เทียบกับรายได้ที่หายไปทั้งปีในปี 2549 ที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 1,800 ล้านบาท

ทั้งๆ ที่ยอดส่งออกเติบโตกว่าปีก่อนถึง 13%

อย่างไรก็ตาม "กานต์" เชื่อว่า การที่ภาครัฐออกมาตรการแก้ไขปัญหาเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะช่วยทำให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลงระดับหนึ่ง แต่ยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

"รัฐบาลควรมีมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเวลานี้การส่งออกทั้งระบบประสบกับปัญหามาก ไม่ใช่จะขาดทุนอย่างเดียว แต่ทำให้เราตกอยู่ในภาวะที่เสียเปรียบ คู่แข่งขันมากขึ้นเรื่อยๆ" เบอร์หนึ่ง SCG กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่ นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นต่างมุมว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจาก กรณีดังกล่าว เนื่องจากมีรายได้จากการส่งออกเพียงแค่ 10% ของรายได้รวม ที่เหลืออีก 90% เป็นรายได้จากการขายภายในประเทศ นอกจากนี้ในการส่งออกจะอิงสกุลเงินบาทเป็นหลัก ผลกระทบจึงไม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันยังได้รับผลดีในการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศด้วย เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าลดลง

เช่นเดียวกับ นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ในเครือปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตวัสดุทดแทนไม้ จำพวกไม้เชิงชาย ไม้ระแนง ไม้บัว ฟื้น และไม้ฝาแบรนด์ "คอนวูด" ที่บอกว่าไม่ได้รับผลกระทบจากค่าบาทแข็ง เนื่องจากเพิ่งจะส่งออกผลิตภัณฑ์คอนวูดไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ในการส่งออกก็จะคิดราคาโดยอิงกับราคาขายภายในประเทศ

นายวิษณุ สุชาติล้ำพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้

ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งถือเป็นธรรมชาติของธุรกิจในด้านนี้อยู่แล้วขณเดียวกันหากตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลดีต่อการลงทุนพร็อพเพอร์ตี้ด้วยเช่นกันแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าก็ไม่ใช้ประเด็นสำคัญ

"ผมรู้สึกเฉยๆ กับค่าเงินบาทที่แข็งค่า เนื่องจากอสังหาฯ ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งธรรมชาติของการลงทุนในลักษณะนี้ยิ่งจะทำให้ความต้องการของผู้บริโภคเทมาที่ตลาดคอนโดก่อนอันดับแรก ตามมาด้วยทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว"

หากหันกลับมามองตลาดของลูกค้าต่างชาติจะพบว่า ผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องล้วนมีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้มากทีเดียว โดย นายทรัพยากร แสนสุขทวีทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงอุตสาหกรรม บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) มองว่า ภาพรวมจากปัญหาวิกฤตค่าบาทส่งผลกระทบโดยตรงต่ออสังหาริมทรัพย์บางตลาดเท่านั้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยหรือบ้านพักตากอากาศที่พัฒนาขึ้น เพื่อเจาะลูกค้าชาวต่างชาติจะได้รับผลกระทบตรงๆ เมื่อลูกค้าต่างชาติต้องจ่ายแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่สองก็ตาม

"เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ชาวต่างชาติที่คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยต้องจ่ายแพงขึ้นถึง 8% ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าเงิน เมื่อคิดราคากลับเป็นเงินสกุลดอลลาร์"

หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ ต่อไปจะไม่ใช่แค่อสังหาริมทรัพย์เฉพาะบ้านหรูที่ขายต่างชาติเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ภาพรวมของตลาดทั้งระบบจะได้รับผลกระทบซ้ำไปด้วย บิ๊กค่ายโจนส์ แลงฯ กล่าวทำนายอนาคต

"แม้ราคาอสังหาฯ ในไทยจะมีราคาในระดับที่ ต่ำ เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้ แต่ปัญหาข้างหน้ามาแน่ ถ้าเราไม่มีมาตรการเบ็ดเสร็จ"

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 30-07-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.