Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
จับตารื้อ พ.ร.บ.การเคหะ กคช.พลิกบทบาท สร้างชุมชนน่าอยู่ |
|
รายงาน
รอมานานกว่า 7 ปีที่ร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเคหะแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ...จะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงจังโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
และ สนช.ได้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในวาระแรกแล้วเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากนี้ไปจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ซึ่งหากเป็นไปตามความคาดหมายเท่ากับว่าอีกไม่นานเกินรอ พ.ร.บ.การเคหะแห่งชาติ ฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้
เหตุผลหลักๆ ของการเสนอแก้ไขปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้ ก็เพื่อให้การดำเนินการของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) มีความคล่องตัวมากขึ้นในการพัฒนาและก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยให้กับ ผู้มีรายได้น้อย และให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 เนื่องจากร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่นี้จะให้ชุมชนที่อยู่อาศัยที่พัฒนาขึ้นโดย กคช.สามารถออกกฎหมายลูกเพื่อจัดตั้งนิติบุคคลชุมชนการเคหะ ลักษณะเดียวกันกับนิติหมู่บ้านจัดสรร ขึ้นมาดูแลและบริหารจัดการชมชนของตนเองให้มีความเข้มแข็งในอนาคต
สาระสำคัญของตัวร่างกฎหมายมี 3 ประเด็นหลัก คือ 1.แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของ กคช.ให้สามารถดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง ซึ่งหมายรวมถึงการจัดให้มีสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย การบำรุงรักษา ปรับปรุงและพัฒนาบรรดาที่อยู่อาศัยรวมทั้งการพัฒนาผู้อยู่อาศัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
2.แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจการกระทำกิจการภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของ กคช. ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และการจัดการสาธารณูปโภค และบริการสาธารณะ
และ 3.กำหนดให้มีนิติบุคคลชุมชนการเคหะ เพื่อให้การบริหารจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการจัดระบบรักษาความสะอาดภายในชุมชนให้มีประสิทธิภาพ โดยให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าว โดยการรวมตัวกันจัดตั้งเป็นนิติบุคคลขึ้นมาในลักษณะเดียวกับนิติบุคคลบ้านจัดสรรตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน
ทั้งนี้ กคช.มีแนวคิดในการพัฒนาปรับปรุง พ.ร.บ.เคหะแห่งชาติฯ มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2543 เพื่อให้ กคช.สามารถพัฒนาและบริหารชุมชนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของ กคช.ในการบริหารจัดการและการดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของอาคารที่พักอาศัย ตลอดจนสภาพแวดล้อมของเคหะชุมชนและชุมชนแออัด หรือชุมชนเสื่อมโทรมของผู้มีรายได้น้อยอย่างเต็มรูปแบบ แต่เวลาผ่านไปนานหลายปีก็ยังไม่มีความคืบหน้า
"พรศักดิ์ บุณโยดม" ผู้ว่าการ กคช.กล่าวว่า หากการแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ประสบความสำเร็จ จะทำให้การทำงานของ กคช.มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยสามารถจัดเก็บค่าสาธารณูปโภคหรือค่าบำรุงส่วนกลางเพื่อใช้ในการบริหารงานได้ ขณะเดียวกันยังสามารถตั้งนิติบุคคลชุมชนการเคหะได้ด้วย ซึ่งรูปแบบจะคล้ายกับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรของภาคเอกชน จะทำให้การบริหารหมู่บ้านดีขึ้น และกฎหมายดังกล่าวสามารถย้อนหลังสำหรับชุมชนการเคหะที่เกิดขึ้นมาในอดีตได้
"หากกฎหมายมีผลบังคับใช้จะทำให้ กคช. บริหารงานได้ง่ายและคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการบริหารชุมชนให้เข้มแข็ง รวมทั้งกำหนดกรอบในพื้นที่ส่วนกลางซึ่งอาจจะนำมาซึ่งรายได้ให้กับ ชุมชนนั้นๆ ในอนาคต"
ด้าน "ชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์" อดีตผู้ว่าการ กคช. ในฐานะประธานกรรมาธิการพิจารณา
ร่าง พ.ร.บ.การเคหะแห่งชาติ แสดงความเห็นเดียวกับประเด็นนี้ว่า หลัง สนช.ร่าง พ.ร.บ.การเคหะฯ และเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 คาดว่าจากนึ้ไปคงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือนหรือมากกว่านั้นในการพิจารณา หากได้รับความเห็นชอบก็จะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้
"ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กคช.เคยผลักดันมาตั้งแต่ปี 2543 แต่ได้หยุดชะงักไปเป็นบางช่วงตามการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล แต่ในครั้งนี้คิดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยและมีผลในทางปฏิบัติได้เร็ว" อดีตผู้ว่าการ กคช.กล่าว
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-07-2550
|
|
|
|
|