Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
กทพ.ไฟเขียวพัฒนาพท.ใต้ทางด่วน นำร่อง3ทำเลผุดที่จอดรถ-ลานกีฬา |
|
บอร์ด กทพ.ไฟเขียวพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วน 2.9 แสนตารางวา เผยทำได้ทั้งที่จอดรถ สวนสาธารณะ ลานกีฬา นำร่องก่อน 3 ทำเล "ซอยศาสนา-ด่านสุขุมวิทฝั่งเหนือและใต้" เบื้องต้นให้โอกาสหน่วยงานรัฐยื่นข้อเสนอกับผลตอบแทน หากไม่มีหน่วยงานสนใจจะพิจารณาเชิญชวนเอกชนประกวดราคาต่อไป เตรียมชงเรื่องให้ ครม.พิจารณาเร็วๆ นี้
นายมณเฑียร กุลธำรง รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ กทพ.พัฒนาพื้นที่ใต้เขตทางพิเศษในพื้นที่ส่วนที่เหลืออยู่จำนวน 297,000 ตารางวา เพื่อทำประโยชน์ให้กับสังคมและกิจการของ กทพ.เอง
โดยศักยภาพของพื้นที่ใต้เขตทางพิเศษดังกล่าว สามารถพัฒนาได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ ที่จอดรถยนต์ หรืออำนวยความสะดวกของผู้ใช้บริการในการจัดทำทางเชี่อม ทางลัด หรือประสานประโยชน์กับระบบขนส่งมวลชน ด้วยการจัดทำที่จอดแล้วจรหรือปาร์กแอนด์ไรด์ จัดพื้นที่เพื่อประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เช่น ทำสวนสาธารณะ ลานกีฬา เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการจัดหาผลประโยชน์พื้นที่ใต้เขตทางได้ศึกษาและพิจารณาตามขั้นตอน พบว่าในเบื้องต้นมีพื้นที่ใต้เขตทางเหมาะสมสำหรับเป็นโครงการนำร่อง 3 แห่ง คือ ด่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณซอยบุญช่วยหรือซอยศาสนา พื้นที่ 8,476 ตารางวา หน้าด่านสุขุมวิทบริเวณฝั่งเหนือ พื้นที่ 5,600 ตารางวา และตรงข้ามด่านสุขุมวิทฝั่งใต้ พื้นที่ 1,478 ตารางวา
"พื้นที่ทั้ง 3 แห่งนี้มีศักยภาพสูงเพราะทำเลอยู่ในย่านธุรกิจและใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีอนุสาวรีย์ชัย สถานีเพลินจิต สามารถนำพื้นที่มาทำเป็นที่จอดรถได้ ทำให้คนที่มีรถเดินทางสะดวกมากขึ้น ที่สำคัญจากการศึกษาพบว่าทั้ง 3 แห่งหากมีการพัฒนาแล้ว จะมีผลตอบแทนด้านการเงินเกิน 15% นอกจากนี้ยังมีผลตอบแทนด้านสังคมอีกด้วย"
นายมณเฑียรกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ กทพ.จะทำเรื่องนี้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อนที่จะทำเรื่องเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการต่อไป สำหรับการพัฒนาพื้นที่ กทพ.จะเปิดให้ทางหน่วยงานรัฐมายื่นความต้องการก่อน รวมถึงกรุงเทพ มหานคร (กทม.) ด้วย
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากไม่มีหน่วยงานไหนสนใจยื่นข้อเสนอ จะเปิดประกวดราคาทั่วไป โดยให้เอกชนที่สนใจเข้ามาแข่งขันยื่นข้อเสนอและจ่ายค่าตอบแทนให้กับ กทพ. ซึ่งจะรวมถึงบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีซีแอล ผู้รับสัมปทานมายื่นข้อเสนอด้วย
"แนวทางในการพัฒนาจะต้องให้สอดคล้องกับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร และสอดรับกับระบบขนส่งมวลชนที่มีจุดตัดกับแนวทางด่วนหรือใกล้เคียงกับทางด่วน แผนแม่บทนี้กำหนดระยะเวลาไว้ว่า กทพ.จะต้องพัฒนาพื้นที่ใต้เขตทางส่วนที่เหลือให้เสร็จภายใน 5-7 ปี" นายมณเฑียรกล่าวตอนท้าย
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 28-06-2550
|
|
|
|
|