|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เกมต่อยอด "แมกโนเลียส์ฯ" ลดเพดานบินเจาะตลาดแมส |
|
ภาวะที่ต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แนวทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการนำมาใช้เพื่อหวังลดต้นทุนค่าก่อสร้างและค่าบริหารจัดการ คือ เทคโนโลยีการก่อสร้างแบบสำเร็จรูป หรือ "พรีแฟบ" (Pre-fabrication) โดยเฉพาะดีเวลอปเปอร์ที่จับตลาดในเซ็กเมนต์ระดับกลาง-ล่างๆ อาทิ ค่ายพฤกษา เรียล เอสเตท, กานดา พร็อพ เพอร์ตี้, โฮมเพลส แม้กระทั่งยักษ์ใหญ่อย่างพร็อพเพอร์ตี้ เฟอร์เฟค, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก็ให้ความสำคัญในจุดนี้ แม้จะไม่เต็มรูปแบบ ก็ตาม ฯลฯ
แต่ในเคสของบริษัทพัฒนาที่ดินค่าย "แมกโนเลียส์ ควอลิตี้ ดีเวลลอปเปอร์ คอร์ปอเรชั่น" ในเครือกลุ่มบริษัทดีที ของตระกูลเจียรวนนท์ เจ้าของโครงการบ้านหรูย่านบางนา "แมกโนเลียส์ฯ" ที่เคยดังเปรี้ยงปร้างในช่วงก่อนหน้านี้ จากการเสนอตัวเป็น main sponsor ให้สถานที่ถ่ายทำรายการ Academy Fantasia ปีที่ 3 (AF3) เป็นอีกรายหนึ่งที่กำลังศึกษาเทคโนโลยีก่อสร้าง "พรีแฟบ" อย่างจริงจัง เพราะมีแผนจะแตก เซ็กเมนต์ลงมาเล่นตลาดที่อยู่อาศัยในระดับ "แมส" แข่งกับผู้ประกอบการเจ้าเก่าที่ทำตลาด อยู่ขณะนี้
ประเด็นนี้ทำให้เกิดคำถามว่า...เหตุใด "แมกโนเลียส์ฯ" จึงกล้าลดระดับลงมาเล่นในตลาด "แมส" ที่แม้จะเป็นตลาดที่ใหญ่ แต่การแข่งขันก็มีความรุนแรงแบบมันหยด
นอกจากนี้ชื่อชั้นในสายตาของผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็มองว่า "แมกโนเลียส์ฯ" มีลูกค้าหลักในตลาดบ้านระดับบนมากกว่า
ที่สำคัญการจะลงมาเล่นตลาดล่าง คงต้องเหนื่อยกับการออกแรงปลุกปั้นแบรนด์ใหม่ขึ้นมา เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม อีกทั้งบ้านระดับแมสให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าบ้านแพง อยู่มากโข
ในประเด็นนี้ "วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์" กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทดีที อธิบายว่า เหตุผลที่สนใจตลาดที่อยู่อาศัยระดับแมส เพราะต้องการขยายไลน์โปรดักต์ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ จากปัจจุบันบริษัทมีเพียงสินค้าในระดับบน แบรนด์ "แมกโนเลียส์ฯ" ราคาขายเริ่มต้นที่ 24 ล้านบาท และระดับบี แบรนด์ "The Muse" ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น ขณะที่ราคาบ้านระดับแมสที่อยู่ระหว่างการศึกษาขณะนี้ มีความเป็นไปได้ว่าราคาขายต่อยูนิตจะอยู่ที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
"ที่สนใจมาทำตลาดระดับล่าง เพราะบริษัทมองเห็นว่าเวลาจะทำอะไรจะคิดถึงคนกลุ่มใหญ่เป็นหลัก นโยบายจึงออกมาในเชิงมุ่งช่วยเหลือสังคมด้านที่อยู่อาศัย คอนเซ็ปต์จะเป็นบ้านประหยัดพลังงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาแบบ จะเห็นเป็นรูปร่างจริงๆ ปลายปี 2551"
ในการนี้ค่าย "แมกโนเลียส์ฯ" ที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นคนในตระกูล "เจียรวนนท์" เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ อาทิ วรรณี เจียรวนนท์, ณรงค์ เจียรวนนท์, ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์, บุษดี เจียรวนนท์, รวมทั้งศุภชัย เจียรวนนท์ บอสใหญ่ทรู คอร์ปอเรชั่น ถึงกับยอมทุ่มงบฯไม่อั้นส่งทีมงานไปศึกษาเทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปในหลายประเทศทั่วโลก
"เรามองไปถึงการลงทุนด้านการทำพรีแฟบแบบครบวงจร" "วิสิษฐ์" บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
ในอนาคตอันใกล้ "แมกโนเลียส์ฯ" ตั้งเป้าจะนำระบบพรีแฟบมาใช้ในกระบวนการผลิตบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์-คอนโดฯ ในตลาดระดับ "แมส" กระจายทุกทำเลทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล
ขณะเดียวกันก็มีแผนจะเปิดตัวคอนโดฯตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าอีก 2 โครงการในปีนี้ โดยใช้แบรนด์หลัก "The Muse" เหมือนเดิม หลังจากโปรเจ็กต์แรกในซอยสุขุมวิท 64/1 ใช้เวลาขายเพียง 1 เดือนหมดทั้งโครงการเท่านั้น จากนั้นปี 2551 จะเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มต่อเนื่อง
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดจากปีนี้จนถึงปีหน้า จะเน้นการทำตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ โดยการเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับรายการ Academy Fantasia ปีที่ 4 (AF4) เหมื่อนกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ตลาดที่สร้าง การรับรู้ใน brand awarenes ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ชื่อของโครงการ "แมกโนเลียส์ฯ" กลายเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ไม่แพ้กระแสฟีเวอร์ในตัวนักล่าฝันอย่าง "เกียรติกมล ล่าทา" หรือ "ตุ้ย" แชมป์ AF3 เมื่อปีที่แล้ว
นอกจากจะสนับสนุนสถานที่ในการถ่ายทำรายการแล้ว "แมกโนเลียส์ฯ" ยังได้มอบห้องชุดในโครงการ "The Muse" สุขุมวิท 64/1 มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เป็นรางวัลกับผู้ชนะอีกด้วย
เป็นการต่อยอดกลยุทธ์การตลาด ที่ "วิน-วิน" ด้วยกันทุกฝ่าย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 11-06-2550
|
|
|
|
|
