|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "เพอร์เฟค"งัดนวัตกรรมใหม่ดึงลูกค้า เลือกบ้าน-วัสดุตกแต่งได้เอง100สไตล์ |
|
"เพอร์เฟค" ต่อยอดการตลาดเชิงรุกผุดนวัตกรรมเลือกซื้อบ้านแนวใหม่ "Perfect Customization" เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกแบบ-สไตล์ และวัสดุตกแต่งด้วยตัวเอง 100 สไตล์ หลังซุ่มเงียบจ้างบริษัทต่างชาติศึกษาวิจัยนานร่วมปี เทงบฯ 40 ล้านบาทสื่อถึงผู้บริโภค บูมหนังโฆษณาชุดใหม่ 9 เรื่องรวด ชี้เป็นกลยุทธ์ลดภาระแบกสต๊อกบ้านรอขายได้กว่า 800 ล้านบาท
นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแนวทางการทำตลาดใหม่เพื่อรองรับภาวะตลาดอสังหาฯที่ชะลอตัวลง ด้วยการปรับสินค้าและราคาขายให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า เช่น เน้นผลิตสินค้าที่มีราคาขายเฉลี่ย 3 ล้านบาท รองรับกำลังซื้อที่ลดลง และเน้นการพัฒนาโครงการในทำเลแนวรถไฟฟ้าต่อเนื่อง เนื่องจากมีที่ดินสะสมในแนวรถไฟฟ้าทั้งบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ในมือกว่า 2,000 ไร่ รองรับการพัฒนาโครงการได้ในระยะยาว คิดเป็นมูลค่าขายกว่า 5 หมื่นล้านบาท
"ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทต้องปรับราคาขายบ้านจากราคาเฉลี่ย 5-6 ล้านบาท มาเป็นกลุ่มราคา 3 ล้านบาท ผมมองว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้อย่างน้อย 2 ปี" นายชายนิดกล่าว และว่า
ล่าสุด ได้ศึกษาและวิจัยด้านการออกแบบการก่อสร้างของต่างประเทศ ทั้ง KB Home บริษัทพัฒนาอสังหาฯในอเมริกา และ SEKISUI จากญี่ปุ่น ในเรื่อง customization เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการเลือกรายละเอียดของบ้าน โดยจะนำมาพัฒนาบ้านสั่งสร้าง 9 โครงการ เป็นโครงการบ้านขนาดกลาง ภายใต้แนวคิด Prefect Customization ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรายละเอียดในการแต่งบ้านได้ถึง 100 สไตล์ และสามารถเลือกแบบบ้านได้ตามความต้องการ ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทั้งสีบ้าน แบบบ้าน วัสดุตกแต่ง และการจัดสวน ฯลฯ จากนั้นคอมพิวเตอร์จะประมวลผลแบบบ้านที่ลูกค้าเลือก ก่อนจะนำไปสู่กระบวนการก่อสร้างในโครงการที่บริษัทเตรียมทีมงานไว้รองรับ
"วิธีการนี้ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือใกล้เคียงกับราคาบ้านพร้อมอยู่ ในแง่การทำงานยอมรับว่ายุ่งยากขึ้น แต่ได้เตรียมทีมงานและเทคโนโลยีเอาไว้พร้อมตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เชื่อว่าบ้านสั่งสร้างรูปแบบนี้จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจและตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น" นายชายนิดกล่าว
นอกจากเพิ่มทางเลือกในการเลือกซื้อบ้านให้มีความหลากหลายแล้ว วิธีการดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทลดภาระในการผลิตบ้านไว้ในสต๊อกได้ไม่น้อยกว่า 200 ยูนิต เฉลี่ยยูนิตละ 4 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงินประมาณ 800 ล้านบาท และคาดว่า Prefect Customization ให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 20%
นายชายนิดกล่าวต่อว่า ในปี 2550 บริษัทตั้งเป้ายอดขายและรับรู้รายได้รวมที่ 8,000 ล้านบาทเท่ากัน แม้ไตรมาสแรกจะมียอดขายที่ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เพราะช่วงไตรมาสที่ 2-4 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากบ้านสั่งสร้าง ขณะที่รายได้ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากแบล็กล็อกที่ทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท จาก 2 โครงการ คือ โครงการเมโทรพาร์ค คอนโดมิเนียม และเดอะ วิลล่า
เพื่อให้ "Perfect Customization" เป็นที่รู้จักของลูกค้า บริษัทได้ทุ่มงบฯการตลาดกว่า 40 ล้านบาท จัดแคมเปญใหม่ My Perfect และจัดทำภาพยนตร์โฆษณาถึง 9 เรื่อง ตอกย้ำจุดเด่นของโครงการที่มีเรื่องเพอร์เฟคมากมายให้ผู้บริโภคได้รับรู้
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 31-05-2550
|
|
|
|
|
