| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 76 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 21-05-2550    อ่าน 12185
 "วรเศรษฐการกิจ" ลุยอสังหาฯ ส่งทายาทปั้นแบรนด์ "บิ๊กทรี"

สัมภาษณ์

แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะผ่านพ้นช่วงบูมสุดๆ หลังฟื้นตัวในรอบใหม่ แต่เมื่อพกความมั่นใจมาแบบเต็มร้อย ทำให้เจเนอเรชั่นที่ 3 ของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมทอผ้า อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก เชือกไนลอน และเชือกอวน แบรนด์ "ตราไก่" ตระกูล "วรเศรษฐการกิจ" ไม่ลังเลใจที่จะถือโอกาสในช่วงที่มีความพร้อมเต็มที่แล้ว เปิดตัวขอแจ้งเกิดในวงการอสังหาฯอย่างเป็นทางการ

3 พี่น้องอายุไล่เลี่ยกันตั้งแต่ 28, 29 และ 30 ปี ที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อกลุ่ม "บิ๊กทรี" มองว่า วัยไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะมีเป้าหมายร่วมกันตั้งแต่ต้นที่จะเดินบนถนนสายนี้ การร่ำเรียนภาคทฤษฎีโดยมีดีกรีปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมเหรียญทอง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ่วงปริญญาโทจากสหรัฐ และเยอรมนี บวกกับที่เคยบริหารโครงการอสังหาฯ ของครอบครัวและเครือญาติ และการทำงานในบริษัทเอกชนในช่วงก่อนหน้านี้ ถือเป็นการสั่งสมประสบการณ์ก่อนลงสนามจริง

วันที่ "ประชาชาติธุรกิจ" นัดสัมภาษณ์บังเอิญ "รัฐพล วรเศรษฐการกิจ" น้องคนรอง ซึ่งนั่งบริหารงานในตำแหน่งเอ็มดี บริษัท บิ๊กทรี พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟก จำกัด ติดภารกิจด่วน แม้มีโอกาสได้พูดคุยเกี่ยวกับแง่คิดมุมมอง รวมทั้งเป้าหมายข้างหน้าที่ 3 หนุ่มคนรุ่นใหม่ฝันจะก้าวไปในอนาคต เพียงแค่ 2 หนุ่ม คือ "ภาณุพงษ์ วรเศรษฐการกิจ" พี่ชายคนโต และ "ธีรพล วรเศรษฐการกิจ" น้องคนเล็ก รองประธานกรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการบิ๊กทรีฯ แต่ก็ทำให้ได้รู้จักกลุ่ม "บิ๊กทรี" ชัดเจน

"ภาณุพงษ์" เล่าย้อนถึงธุรกิจของครอบครัวและเครือญาติว่า ก่อนหน้านี้ดำเนินธุรกิจในรูปของกงสี ตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่าที่หอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีน และเริ่มต้นทำโรงงานทอผ้าชื่อ "ย่งหลี" กับโรงงานผลิตเชือกไนลอน เชือกอวน ถึงรุ่นคุณพ่อคุณลุงนอกจากจะรับบริหารกิจการดังกล่าวต่อแล้ว ยังแตกไลน์มาทำอสังหาฯทั้งอาคารสำนักงาน อาทิ ไทยซีซี ทาวเวอร์ สาทร อาคารมหาทุนพลาซ่า เพลินจิต บ้านจัดสรรแบรนด์นิศาชล สยามนิเวศน์ สุขนิเวศน์ ทัศนีย์นิเวศน์ ฯลฯ อาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ รวมทั้งมินิแฟกตอรี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในทำเลประชาอุทิศ สุขสวัสดิ์ อ้อมน้อย ปทุมธานี ฯลฯ

"ผมและน้องๆ ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเข้ามาในวงการอสังหาฯ แม้แต่ช่วงที่เอนทรานซ์เราทั้ง 3 คนก็เลือกเรียนวิศวฯ ที่จุฬาฯ และก็จบจากที่นั่น เพียงแต่คนละสาขาวิชา ผมจบวิศวฯ คอมพิวเตอร์ น้องคนที่สองจบวิศวกรรมโยธาฯ แล้วบินไปเรียนต่อด้านเดียวกันที่สหรัฐ จากนั้นก็ไปทำงานหาประสบการณ์ในบริษัทรับเหมา (บริษัท ไทย-โอบายาชิ จำกัด) ส่วนคุณธีรพลน้องคนเล็กจบวิศวกรรมเครื่องกล แล้วได้ทุนกาญจนาภิเษกไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐ จากนั้นก็เข้าไปช่วยงานในโรงงานซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว"

สำหรับ "ภาณุพงษ์" หลังจากคว้าปริญญาโทด้านเรียลเอสเตต ไฟแนนซ์ จากสหรัฐได้แล้ว ยังสั่งสมประสบการณ์เพิ่มเติมด้วยการสมัครเข้าทำงานด้านระบบการบริหารงานอสังหาฯ จาก บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ในตำแหน่งนักวิเคราะห์การลงทุนด้านอสังหาฯให้กับบริษัท มิลเลนเนี่ยม เรียลตี้ อินเวสเตอร์ ก่อนจะกลับมาทำธุรกิจส่วนตัว และร่วมกับน้องทั้ง 2 คน ก่อตั้ง "บิ๊กทรี" ขึ้น

"ธีรพล" กล่าวเสริมว่า เมื่อแต่ละคนเรียนจบมาและทำงานหาประสบการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะรวมตัวกันมาบุกเบิกพัฒนา โครงการอสังหาฯที่เราเคยใฝ่ฝันไว้ เลยก่อตั้งบริษัท บิ๊กทรีฯ ขึ้นเมื่อประมาณปลายปี 2548 เพราะคิดว่าต่างคนต่างก็มีความพร้อมแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เราก็เคยไปสานต่อการพัฒนาโครงการอสังหาฯที่กงสีริเริ่มเอาไว้ และประสบปัญหาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจนเสร็จเรียบร้อยและสามารถปิดการขายได้ ครั้งนั้นเราได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นมาก ทำให้มั่นใจมากขึ้นด้วย

"หลังก่อตั้งบริษัท บิ๊กทรีฯ ก็เริ่มเดินหน้าพัฒนาโครงการทันที โครงการแรกคือ โครงการทรัพย์ทวี โฮม แฟกตอรี่ สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ บนพื้นที่ 36 ไร่ ย่านสมุทรปราการ ห่างจากย่านใจกลางเมืองแถบสาทรเพียงแค่ 20 กิโลเมตร รูปแบบเป็นโรงงานสำเร็จรูปที่สามารถใช้ทั้งเป็น ที่อยู่อาศัยและโรงงาน ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของโรงงานสำเร็จรูปอย่างแท้จริง ตัวโครงการจะคล้ายๆ นิคมอุตสาหกรรมขนาดเล็ก รองรับผู้ที่ประกอบธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือธุรกิจเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ จุดเด่นนอกจากจะเป็นโฮม แฟกตอรี่ ที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ในเมืองแล้ว ตัวโรงงานยังก่อสร้างตามมาตรฐานการก่อสร้างโรงงาน มีความมั่นคงแข็งแรง รับน้ำหนักได้เกินกว่ามาตรฐานด้วยซ้ำไป"

สาเหตุที่เลือกพัฒนาโครงการโฮม แฟกตอรี่ เป็นเพราะเราและครอบครัวรวมทั้งญาติๆ มีประสบการณ์ในการทำโรงงานมาก่อน ซึ่งก็โชคดีที่ได้ญาติๆ คอยแนะนำและให้คำปรึกษา ที่สำคัญที่ตั้งโครงการก็เหมาะที่จะพัฒนาเป็นโฮม แฟกตอรี่ และตลาดนี้มีคู่แข่งน้อยมาก ยิ่งเรา ฉีกตลาดออกมาเจาะกลุ่มเอสเอ็มอีและพัฒนา รูปแบบโครงการแบบใหม่ มีทั้งส่วนของโรงงาน ส่วนบริการ ส่วนค้าขาย ที่พักอาศัยซึ่งเป็น อพาร์ตเมนต์ให้เช่า มีสวนหย่อม ลานกีฬาครบวงจร นอกเหนือจากโรงงาน แถมถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา ท่อระบายน้ำ ฯลฯ โดยเน้นเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน ก็ยิ่งจะมีโอกาสทางการตลาด

ทั้งสองคนมั่นใจว่าโครงการทรัพย์ทวี แฟกตอรี่ สามารถจะตอบโจทย์ทางการตลาดของลูกค้ากลุ่มที่ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้าที่ปัจจุบันดัดแปลงอาคารพาณิชย์เป็นที่ตั้งโรงงาน และกำลังต้องการหาซื้อโรงงานขนาดเล็กที่สามารถอยู่อาศัยและใช้ประกอบธุรกิจร่วมกันไปในตัว

ภายในโครงการเฟสแรกจะมีโฮม แฟกตอรี่ให้เลือก 2 รูปแบบรวมทั้งหมด 50 ยูนิต ประกอบด้วยขนาด 100 ตร.ว. ราคาขาย เริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท และขนาด 200 ตร.ว.ขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นที่ 10-14 ล้านบาท นอกนั้นมีอาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นที่สำหรับประกอบธุรกิจและการค้า 30 ยูนิต และอพาร์ตเมนต์ 200 ยูนิต สำหรับให้ผู้ที่ทำงานโรงงานเช่าพักอาศัย มูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 450 ล้านบาท

หากโครงการนี้ได้รับการตอบรับเหมือนกับที่คาดหมายไว้ นวัตกรรมใหม่ๆ ของโฮม แฟกตอรี่จะมีตามออกมาอีกอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน "บิ๊กทรี" กำลังตระเตรียมแผนที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรร โดยเฉพาะโครงการทาวน์เฮาส์ โดยพุ่งเป้า เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักในปัจจุบัน เพียงแต่ขออุบรายละเอียดไว้ก่อน พร้อมกับแย้มๆ ว่าปีหน้าหรืออย่างช้าต้นปี 2552 คงได้เห็นแน่ ขณะเดียวกันจะมีการพัฒนาโครงการในลักษณะของการลงทุนระยะยาว สำหรับนำไปปล่อยเช่าหารายได้ด้วย อาทิ โครงการออฟฟิศ อพาร์ตเมนต์ ซึ่งในส่วนอพาร์ต เมนต์โครงการแรกจะอยู่ในโครงการทรัพย์ทวี สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ

"ทุกโครงการจะใช้แบรนด์บิ๊กทรี สัญลักษณ์เป็นรูปเลข 3 ในภาษาโรมันเป็นตัวยืน และจะมีอักษรภาษาอังกฤษบ่งบอกชื่อย่อของแต่ละโครงการ เช่น โครงการทรัพย์ทวี แฟกตอรี่ จะมีรูปตัวเอส (S) อยู่ในเลข 3 โรมัน ถ้าเป็นทาวน์เฮาส์ใช้ชื่ออื่นก็จะมีอักษรย่อตัวอื่นๆ เพราะเราต้องการจะปั้นแบรนด์นี้ให้เกิดในวงการอสังหาฯ

โดยตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี "บิ๊กทรี" จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดมินิแฟกตอรี่ในเขตเมืองและใกล้เมือง และภายใน 10 ปีจากนี้ไปจะสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากลูกค้าในตลาดที่อยู่อาศัย

"สิ่งที่เราคิดเอาไว้คือในอนาคต ถ้าหากใครเห็นสัญลักษณ์เลข 3 โรมัน ก็สามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพการก่อสร้างที่ดี และมีมาตรฐาน คือได้คุณภาพที่เหนือกว่าราคา" ภาณุพงษ์สรุปตอนท้ายชัดเจน

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 21-05-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.