|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เบื้องหลังงานสถาปนิก"50 อนุชา ยูสานนท์ "เราไม่เน้นขายของแต่โชว์ของ" |
|
สัมภาษณ์
หนึ่งปีจะมีสักครั้ง สำหรับงาน "สถาปนิก"50" ที่จัดโดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1-6 พฤษภาคม ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ถือเป็นงานเอ็กซิบิชั่นแฟร์ของวงการวัสดุที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับตั้งแต่ปี 2511 ถึงปัจจุบันเป็นการจัดงานครั้งที่ 21 ส่วนหน้าตาและไฮไลต์ในงานปีนี้จะเป็นอย่างไร "ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์ "อนุชา ยูสานนท์" ประธานจัดงานสถาปนิก"50 ในฐานะคีย์แมนถึงภาพรวมงานทั้งหมดในปีนี้
- ที่มาของทีมงานสถาปนิก"50
ปีนี้เราใช้ทีมงานว่า "ต้นกล้าสถาปัตย์" (Leap to the Future) ดังนั้นบูทของสมาคมสถาปนิกสยามฯขนาด 3,000 ตารางเมตร จะโฟกัสไปที่การพัฒนากลุ่มสถาปนิกรุ่นใหม่ที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญต่อไป พวกนี้เป็นกลุ่ม small office ไม่ใช่บิ๊กเฟิร์ม รวมกลุ่มกัน 3-4 คน เป็นสถาปนิกที่มีฝีมือแต่ไม่มีเวทีให้โชว์ตัว สิ่งที่จะเติมเต็มให้กับสถาปนิกรุ่นใหม่คือเรา มองว่าการทำงานออกแบบจะประสบความสำเร็จได้ต้องประกอบด้วย 4 ปาร์ตี้ คือ สถาปนิก เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมา และผู้ใช้อาคาร ทั้ง 4 กลุ่มต้องสื่อสารกัน ทำความเข้าใจในบทบาทซึ่งกันและกัน เพราะปัจจุบันเจ้าของบ้านบางรายที่ต้องการสร้างบ้าน ก็ไปว่าจ้างผู้รับเหมาก่อนโดยไม่ได้ติดต่อมายังสถาปนิกถือว่าข้ามขั้นตอน บูทของสมาคมก็จะเป็นเหมือนศูนย์กลางให้คนทั้ง 4 กลุ่มมาเจอกัน
- ความน่าสนใจของบูทสมาคม
เราแบ่งพื้นที่บูทเป็น 10 โซนคือ 1) ดิจิตอลแกลเลอรี่ นำเสนอมุมมองของกรุงเทพฯ ผ่านสื่อ Digital Media ภายใต้หัวข้อ "Bangkok is a Great City?" 2) นิทรรศการ 80 ปี ในหลวงและนิทรรศการสมาคมสถาปนิกสยามฯ 3) นิทรรศการสถาบันการศึกษาและ Student Workshop จาก 22 สถาบัน 4) นิทรรศการประกวดแบบของบุคคลทั่วไป 5) นิทรรศการผลงานสถาปนิกไทย "Freeland & Firm Exhibition" ที่เปิดโอกาสให้สถาปนิกที่เป็นสมาชิกสมาคม ได้นำเสนอผลงานทั้งใน รูปแบบของการออกบูท และผ่าน Digital Media 6) International Exhibition ผลงานด้านสถาปัตยกรรมจากต่างประเทศ 7) นิทรรศการสถาปัตยกรรมอนุรักษ์ 8) พื้นที่ให้บริการสมาชิก 9) มุมหมอบ้าน ให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับบ้าน และ 10) นิทรรศการสมาคมอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับวิชาชีพสถาปัตยกรรม
จากพื้นที่ทั้งหมดส่วนที่เป็นไฮไลต์คือ การนำระบบ "ดิจิทัล มีเดีย" มาใช้สำหรับ แสดงผลงานผ่านจอคอมพิวเตอร์และจอแอลซีดีที่จัดเตรียมไว้รวมประมาณ 50 จอ แทนการโชว์ผลงานเป็นชิ้นๆ และมีกิจกรรมสื่อสารกับ ผู้ที่มาชมบูทคือการตั้งประเด็นคำถามว่า "Bangkok is a Great City ?" เพื่อให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรุงเทพฯในหลายด้าน เช่น ธุรกิจ การคมนาคม การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ฯลฯ จากนั้นจะได้รับแถบสี 1 คนต่อ 1 ชิ้น นำไปต่อลงในภาพที่จัดเตรียมไว้คล้ายๆ จิ๊กซอว์ สุดท้ายก็จะปรากฏเป็นภาพสำเร็จ รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การใช้งานโปรแกรม การออกแบบ เป็นต้น
- สถาปนิกรุ่นใหม่เป็นกลุ่มที่ขาดเวที โชว์ตัว
กลุ่มนี้อาจจะมีถึง 1,000 ราย เป็น กลุ่มที่มีฝีมือแต่ไม่ได้ปรากฏตัว จนกว่า จะมีงานออกแบบโครงการใหญ่ๆ ถึงจะเป็นรู้จักขึ้นมา เพราะจรรยาบรรณของสถาปนิกห้ามโฆษณาตัวเอง อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถาปนิกรุ่นใหม่ยังนิยมทำงาน แบบฟรีแลนซ์และเราเป็นห่วง เพราะต่อไปถ้าสถาปนิกต่างชาติเข้ามามากขึ้น คุณอาจจะถูกแย่งงานได้ หรือมีงานแต่องค์กรไม่เติบโตถึงขั้นแข่งขันกับสถาปนิกต่างชาติได้
- ไฮไลต์งานสัมมนา
เรามีการจัดสัมมนาทุกวันตลอดการ จัดงาน ที่เป็นไฮไลต์ อาทิ Mr.Aybars จาก SOM ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบตึกเวิลด์เทรด (เก่า) ในประเทศอเมริกา จะมาพูดในหัวข้อ Performative Design (การทำงานออกแบบให้ประสบความสำเร็จ) Mr.Takahar- & Mrs.Yui Tezuka สถาปนิกชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นจะมาพูดในหัวข้อ Environmental Integrated Design (งานออกแบบที่เข้ากันได้สิ่งแวดล้อม)
- สิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนที่มา ชมงาน
สมาคมจับมือกับ "ทรู" ส่งข้อความกิจกรรมในงานผ่านโทรศัพท์มือถือระบบเครือข่ายทรูมูฟให้กับผู้เข้าชมงานที่มาลงทะเบียนรวมถึงลิสต์รายชื่อผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมสถาปนิกสยามฯ จำนวน 1 หมื่นเลขหมายต่อวัน ขณะเดียวกันก็จับมือ กับสำนักงานนโยบายแผนและพลังงาน นำแผ่นซีดีแนะนำวิธีการปรับปรุงบ้าน ให้ประหยัดพลังงานจำนวน 1 แสนชุด มาแจกผู้เข้าชมงาน มีมุม "หมอบ้าน" ให้คำแนะนำแบบรายต่อราย รวมถึง มีรถกอล์ฟประมาณ 10 คัน วิ่งวนบริเวณงานไว้คอยให้บริการผู้เข้าชมไปยังบูท ต่างๆ ฟรี
- รูปแบบพื้นที่แสดงสินค้า
มีทั้งหมด 8 โซน ได้แก่ โซน สุขภัณฑ์-เครื่องครัว กระเบื้อง-หินตกแต่ง วัสดุสำเร็จรูป หลังคา สินค้าจาก ต่างประเทศ ประตู-หน้าต่าง โคมไฟ-สินค้าไอที และสินค้าตกแต่งบ้าน รวมทั้งสิ้น 750 บูท โดยปีนี้ยังคงมีการจัดประกวดบูทเช่นเดียวกับปีก่อนๆ แต่ได้เพิ่มรางวัล "นวัตกรรม" เปิดให้ผู้ที่มาออกบูทส่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเข้าร่วมประกวด
- รูปแบบงานจะเป็นอินเตอร์ฯมากขึ้น
ปีนี้เรามีบูทแสดงสินค้าจากต่างชาติ เข้ามาร่วมมากขึ้นกว่าปีก่อน รวมทั้งสิ้นจาก 30 ประเทศ เปรียบเทียบจากพื้นที่ จัดงานถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากงานของประเทศจีนและญี่ปุ่น แต่ถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 1 ในแถบอาเซียน อย่างไรก็ตามถ้าเทียบในเชิงคุณภาพงาน ที่ผู้เข้าร่วมงานทุกรายทุ่มทุนในการตกแต่งบูทแสดงสินค้า และความแตกต่างที่มีบูทสมาคมสถาปนิกสยามเป็นไฮไลต์สำคัญเชื่อว่าเราแพ้ใคร เพราะงานสถาปนิกสยามไม่ใช่งาน "ขายของ" แต่เป็นงาน "โชว์ของ" ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในแต่ละกลุ่มสินค้าที่มาพรีเซนต์ในงานนี้เป็นแห่งแรก ไม่ใช่แค่มาเดินเก็บแค็ตตาล็อกสินค้าเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจซื้อของเท่านั้น
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 30-04-2550
|
|
|
|
|
