Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
คนซื้อเฮ"มหกรรมบ้าน-คอนโดฯ"ส้มหล่น ฟิกซ์เรตคืนชีพอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง |
|
จัดสรร-คอนโดฯ-คนซื้อบ้าน เฮรับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง วงการเงินชี้อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ระยะยาว 3 ปีกลับมาแน่ แบงก์รวงข้าวสวมบทเสือปืนไว ออกแพ็กเกจสินเชื่อซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3 ปีดักลูกค้าก่อนใครเพื่อน ส่วน ธอส.เตรียมหาเงินก้อนโต 5,000-10,000 ล้านบาท รองรับความต้องการคนซื้อบ้านที่ไม่อยากเสี่ยงดอกเบี้ยผันผวน ดีเวลอปเปอร์เชียร์ลั่นให้รัฐออกมาตรการกระตุ้นตลาด ฟันธงดอกเบี้ยขาลงเพิ่มอำนาจซื้อ
การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นสัญญาณบวกอย่างมากกับธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ เห็นได้จากที่สถาบันการเงินหลายแห่งพากันประกาศปรับลดดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ตามมา ที่น่าจับตามองคือ การคาดการณ์ของผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเงิน ที่มองว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลงดังกล่าวอาจทำให้คนซื้อบ้านได้รับอานิสงส์อย่างมาก จากการที่แพ็กเกจสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีจะฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง นั่นหมายถึงจะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯทั้งระบบด้วย
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงและมีแนวโน้มว่าจะลดลงอีก ทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะได้เห็นสถาบันการเงินนำแพ็กเกจสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ (fix rate) 3 ปี กลับมาใช้ จากปัจจุบันการกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ในระดับที่ต่ำส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 6% ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ในตลาดที่อยู่ที่ 7.5-8% ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้น่าจะสร้างแรงดึงดูดกำลังซื้อที่อยู่อาศัยให้กลับคืนมาได้อย่างมาก เนื่องจากสินเชื่อซื้อบ้านอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค เพราะนอกจากจะสามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายในแต่ละเดีอนได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังป้องกันภาวะผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในตลาดได้อีกด้วย
"แนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างต่อเนื่องถือเป็นปัจจัยทางบวกของธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งหากรัฐบาลมีมาตรการด้านการคลังออกมาสนับสนุน ด้วยการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ จาก 3.3% เหลือ 0.11% ลดค่าโอนบ้านจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนอง 1% เหลือ 0.01% ตามข้อเสนอของภาคธุรกิจอสังหาฯ ก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจนี้อย่างมาก"
ในส่วนของ ธอส. ขณะนี้กำลังเตรียมหาเงินกู้จำนวนหนึ่งมาสำหรับใช้ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่ซื้อบ้าน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เม็ดเงินก้อนแรกประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท จากนั้นจะออกแพ็กเกจสินเชื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการผ่อนค่างวดบ้านโดยใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่โดยเฉพาะ
ขณะเดียวกันตนได้ยื่นข้อเสนอของ 3 สมาคมอสังหาฯ ที่เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ 6 ข้อ (ตาราง) ต่อนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แล้ว พร้อมกับเสนอให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด เพราะหากมีมาตรการออกมาเร็วก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเร็วขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะต่อธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เร็วๆ นี้จะได้เห็นการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้านแบบคงที่ของสถาบันการเงินทุกแห่งแน่ เพราะหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ทำให้แบงก์สามารถควบคุมต้นทุนได้ ในส่วนของธนาคารมองเห็นสัญญาณดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว
สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารได้ออก สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 แบบ ให้ผู้ซื้อบ้านเลือก ใช้ตามความพอใจ ได้แก่ แบบคงที่ 1 ปี ดอกเบี้ย 4% แบบคงที่ 2 ปี 5.5% และแบบคงที่ 3 ปี 6.5% จากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ เมื่อรวมกับสินเชื่อ แบบโฟลตเรตที่มีอยู่อีก 3 แบบ ได้แก่ 1 ปีเอ็มแอลอาร์ -3%, แบบ 2 ปี เอ็มแอลอาร์ -1.5% และ 3 ปี คิดเอ็มแอลอาร์ -1% จากนั้นเอ็มแอลอาร์ตลอดอายุสัญญา ถือว่ามีสินเชื่อบ้านให้บริการกับลูกค้าได้หลากหลาย
"ปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนลูกค้าอัตราดอกเบี้ยลอยตัวหรือโฟลตเรต และฟิกซ์เรตอยู่ที่ 60:40% ตามลำดับ คาดว่าจากนี้ไปสัดส่วนลูกค้าฟิกซ์เรต จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% เพราะลูกค้าที่ต้องการใช้สินเชื่อฟิกซ์เรตมีมาก" นายชาติชายกล่าว
ดีเวลอปเปอร์เชียร์รัฐลดภาษี
นายวิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการอสังหาฯ ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่รัฐจะออกมาตร การกระตุ้นกำลังซื้อ โดยเฉพาะการลดภาษีและค่าโอน เพราะจะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจมากขึ้น และเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
"ผมว่าฟิกซ์เรตนอกจากจะทำให้ผู้ซื้อมั่นในใจแล้ว ยังเป็นการเพิ่มอำนาจในการซื้อบ้านด้วย ยิ่งส่วนต่างของดอกเบี้ยฟิกซ์ 3 ปี หากต่ำกว่าตลาดมากเท่าไร ก็จะทำให้คนซื้อบ้านเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น บวกกับถ้ามีมาตรการเข้ามาเสริม คนซื้อบ้านจะได้ประโยชน์มาก"
มหกรรมบ้าน-คอนโดฯ ส้มหล่น
ทั้งนี้ หากภาครัฐบาลอนุมัติมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ 6 ข้อตามข้อเสนอของภาคเอกชน ในวันที่ 20 เมษายน ในการประชุมคณะทำงานพิจารณาเรื่องนี้ คาดว่ากว่าจะมีผลในทางปฏิบัติก็น่าจะประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ และจะส่งผลดีทำให้งานมหกรรมบ้านและคอนโดฯครั้งที่ 16 ที่ 3 สมาคมอสังหาฯจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2550 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คึกคักมากขึ้น เนื่องจากส่งผลด้านบวกทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคมีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-04-2550
|
|
|
|
|